ส่งออกสินค้าตกแต่งบ้านสู้จีน ชูมาตรฐาน-พัฒนาโปรดักส์ใหม่


ผู้จัดการรายวัน(4 ตุลาคม 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

ส.สินค้าตกแต่งบ้าน เชื่อตลาดส่งออกสินค้าตกแต่งบ้านปี50 เติบโตไม่น้อยกว่า 5% หรือประมาณ 388 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แนะทางออกผู้ประกอบการสู้ภาวะค่าเงินบาทแข็ง หาวิธีลดต้นทุน มุ่งจับตลาดในประเทศและประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น พร้อมรุกตลาดใหม่แถบยุโรปตะวันออก-เอเชีย ส่วนผู้ประกอบการใหม่ที่เริ่มธุรกิจส่งออก ควรเข้าร่วมแสดงสินค้าในงาน BIG & BIH เพราะต้นทุนต่ำ แต่มีโอกาสพบผู้ซื้อต่างชาติจำนวนมาก

นางพัทธ์ธีญา พสุจรัสพงศ์ นายกสมาคมสินค้าตกแต่งบ้าน เปิดเผยว่า ตลาดสินค้าตกแต่งบ้านในปี 2550 คาดว่า จะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นกว่าปีที่แล้วประมาณ 5 % และจะส่งผลให้ยอดขายส่งออกมีมูลค่ารวมทั้งสิ้นประมาณ 388 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มากกว่า 369 ล้านเหรียญสหรัฐฯเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยตลาดหลัก ได้แก่ สหรัฐอเมริกาประมาณ 40% ตลาดยุโรปและเอเชียประมาณ 60%

อย่างไรก็ตาม แม้ขณะนี้สินค้าส่งออกของไทยจะได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินบาท แต่แนวโน้มตลาดสินค้าตกแต่งบ้านโดยรวมจะยังคงสามารถเติบโตขึ้นได้ ซึ่งการทำตลาดในส่วนของผู้ประกอบการจะต้องจับตาดูสถานการณ์ค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิด

"ภาวะที่เกิดขึ้นเช่นนี้ ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้ประกอบรายเล็ก มีหลายรายที่ต้องเลิกกิจการและชะลอการทำธุรกิจไปก่อน ขณะที่บางรายจะยังไม่รับคำสั่งซื้อสินค้าจากลูกค้าต่างชาติ ซึ่งการทำตลาดของผู้ประกอบการรายเล็กจะต้องเน้นทำตลาดในประเทศและประเทศแถบเพื่อนบ้าน อาทิ กัมพูชา และลาว ให้มากขึ้น เนื่องจากยังมีช่องว่างที่จะเข้าไปเจาะตลาด รวมทั้งพยายามรักษาฐานตลาดไว้ให้ได้ ส่วนผู้ประกอบการรายใหญ่อาจจะทำได้โดยการขอปรับขึ้นราคาสินค้า หรือหาวิถีทางลดต้นทุนให้ได้มากๆ ที่สำคัญต้องพัฒนาคุณภาพ มาตรฐาน และออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่จูงใจลูกค้าอย่างต่อเนื่อง" นางพัทธ์ธีญา กล่าวและว่า

ในขณะนี้ มีตลาดใหม่หลายประเทศที่ผู้ประกอบการไทยควรให้ความสำคัญและเข้าไปทำตลาด ได้แก่ ตลาดแถบยุโรปตะวันออก อาทิ รัสเซีย และเช็คโกสโลวาเกีย เป็นต้น ซึ่งประเทศเหล่านี้มีกำลังซื้อพอสมควร ขณะที่ประเทศแอฟริกาใต้ มีโอกาสที่จะเข้าไปทำตลาดได้อีกมาก แต่จะต้องศึกษาพฤติกรรมการซื้อสินค้าและการดำรงชีวิตของผู้บริโภคด้วยว่า นิยมซื้อสินค้าประเภทใด นอกจากนี้ยังมีประเทศเม็กซิโก ,ชิลี และอาร์เจนติน่า เป็นต้น เนื่องจากเป็นตลาดที่มีศักยภาพ มีกำลังซื้อสูง ส่วนในแถบเอเชียที่น่าสนใจได้แก่ กัมพูชา ลาว และจีน

"จีนนับเป็นตลาดที่น่าจับตามองมาก โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าระดับบนซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง หากเปรียบเทียบระหว่างสินค้าไทยกับจีนแล้ว ถึงแม้สินค้าของจีนจะมีราคาถูกกว่า แต่ข้อดีที่ผู้ประกอบการไทยได้เปรียบคือ คุณภาพและมาตรฐานของสินค้า การส่งมอบสินค้าตรงเวลา ผู้ประกอบการไทยควรจะต้องรักษาระดับมาตรฐานนี้ไว้ให้ได้อย่างต่อเนื่อง และจะต้องไม่หยุดการพัฒนาตัวเอง ที่สำคัญต้องมีจรรยาบรรณในการทำธุรกิจด้วย"

นางพัทธ์ธีญากล่าวถึงการจัดงานแสดงสินค้าของขวัญและของใช้ในบ้าน หรือ BIG& BIH ว่า จะเป็นงานที่ผุ้ประกอบของไทย จะสามารถเข้าถึงลูกค้าต่างชาติได้โดยตรง และการเข้าร่วมจะช่วยให้ผู้ส่งออกมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่านำสินค้าไปจัดแสดงในต่างประเทศ โดยการจัดงานครั้งนี้ จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 16-21 ต.ค.นี้ ณ อาคารเดอะ ชาเลนเจอร์ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี คาดว่าจะมีจำนวนผู้เข้าชมงานทั้งสิ้นประมาณ 1.2 แสนคน และผลการจัดงานครั้งนี้ จะทำให้ยอดขายส่งออกของตลาดสินค้าตกแต่งบ้านเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 5 %


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.