|
มูลค่าตลาดรับสร้างบ้านปี 50 เติบโตหรือหดตัว
ผู้จัดการรายวัน(3 ตุลาคม 2550)
กลับสู่หน้าหลัก
=ผ่านพ้นไป 3 ไตรมาสของปี 2550 ความชัดเจนของมูลค่าตลาดรับสร้างบ้านในเขตกรุงเทพและปริมณฑลปีนี้ เกจิในวงการรับสร้างบ้านต่างยังไม่อาจฟันธงได้ว่าหดตัวหรือเติบโตเพิ่มขึ้นกันแน่ โดยเฉพาะหน่วยงานสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านเอง ก็ยังไม่สามารถรวบรวมสถิติจากสมาชิกได้อย่างเป็นระบบและถูกต้องแม่นยำ หากเป็นเพียงการเก็บสถิติจากข้อมูลประชาสัมพันธ์ของสมาชิกมารวบรวมไว้ จึงอาจจะมีความคลาดเคลื่อนอยู่บ้างพอสมควร แต่ก็ยังประเมินว่าตลาดรับสร้างบ้านปีนี้น่าจะเติบโตเพิ่มขึ้น ในขณะที่ ปทุมดีไซน์ ดีเวลอป หรือแบรนด์ พีดี เฮ้าส์ กลับมองมุมต่างและเห็นว่ามูลค่าตลาดรับสร้างบ้านในเขตกรุงเทพและปริมณฑลปี 2550 หดตัวและมีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่องถึงกลางปี 2551
หากสะท้อนจากตัวเลขยอดขายในงานรับสร้างบ้าน 2007 งานแฟร์ประจำปีจัดโดยสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านเมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา สมาคมฯเผยว่ามูลค่าจองสร้างบ้านในงานมีมูลค่าประมาณ 1,500 ล้านบาท นับว่ามียอดจองหรือยอดขายสูงกว่าปีที่ผ่านๆมา แต่หากเจาะลึกข้อมูลดังกล่าวกลับพบว่า เป็นยอดจองแต่ละบริษัทนั้นส่วนหนึ่งได้รับจองไว้หรือเป็นยอดขายก่อนวันจัดงาน และนำตัวเลขยอดจองมาลงทะเบียนคิดเป็นจำนวนเกือบ 30% หรือประมาณ 400-450 ล้านบาท
โดยตัวเลขที่น่าสนใจ พบยอดจองจากลูกค้าสร้างบ้านในต่างจังหวัด คิดเป็นมูลค่าเกือบ 400 ล้านบาท รวมเป็นยอดจองที่มิใช่กลุ่มลูกค้าที่สร้างบ้านในพื้นที่กรุงเทพฯประมาณ 800-850 ล้านบาท ของยอดจองทั้งหมดตลอด 5 วันของการจัดงาน ดังนั้นตัวเลขยอดจองสร้างบ้านในเขตกรุงเทพและปริมณฑล จึงเหลืออยู่ประมาณ 650-700 ล้านบาทเท่านั้น ส่วนตัวเลขยอดจองหลังงานที่ประเมินกันว่าจะปิดการขายได้เพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 4,000 ล้านบาทนั้น แต่จากการสอบถามข้อมูลจากบริษัทต่างๆแล้ว ปรากฏว่าส่วนใหญ่สามารถปิดการขายได้ประมาณ 50% ของเป้าที่ตั้งไว้ เนื่องจากผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังขอชะลอโครงการออกไปปีหน้า เพราะต้องการดูปัจจัยทางการเมืองและเศรษฐกิจของประเทศว่าจะไปในทิศทางใด
หากพิจารณาจากข้อมูลข้างต้นจะเห็นว่ามูลค่าจองสร้างบ้าน ที่มาจากกลุ่มลูกค้าที่สร้างบ้านในต่างจังหวัดปีนี้ถือเป็นตัวเลขที่มาช่วยให้มูลค่ารวมตลาดรับสร้างบ้านไม่ตกลง
ปัจจัยกระทบต่อตลาดรับสร้างปี 50
ปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลให้ตลาดรวมรับสร้างบ้านเติบโตพิจารณาได้ 3 ประการได้แก่ 1.การพัฒนาขีดความสามารถของตัวผู้ประกอบการเองให้มีความเข้มแข็ง 2.ความร่วมมือกันสร้างและขยายไปสู่ตลาดใหม่ๆ 3.การกำหนดยุทธศาตร์เพื่อแข่งขันกับธุรกิจใกล้เคียง
" ทั้งหมดทั้งปวงแล้ว สิ่งสำคัญ ผู้ประกอบการไม่ควรมุ่งแต่แข่งขันกันเองเท่านั้น ควรศึกษาธุรกิจเกี่ยวกับบ้านหรือที่อยู่อาศัยแบบอื่นๆด้วย อาทิ ธุรกิจบ้านจัดสรร ธุรกิจบ้านมือสอง เพราะถือว่ามีลูกค้ากลุ่มเป้าหมายใกล้เคียงกัน หากกลุ่มธุรกิจรับสร้างบ้านได้รับการยอมรับมากขึ้นก็จะเป็นการขยายฐานไปสู่กลุ่มลูกค้าใหม่ๆเพิ่มขึ้น"
ในส่วนของปัจจับลบหลักๆ ที่กระทบต่อตลาดรับสร้างบ้าน จะได้แก่
1.ความไม่เชื่อมั่นของผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจและการเมือง เป็นเรื่องที่บั่นทอนการตัดสินใจลงทุนของผู้บริโภคอย่างมาก โดยเฉพาะกลุ่มที่ต้องการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินเพื่อมาสร้างบ้าน ต่างหยุดชะลอการตัดสินใจเอาไว้ก่อน
2. ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอยู่ในขณะนี้ ย่อมจะส่งผลต่อต้นทุนค่าขนส่ง ค่าเดินทาง และค่าดำเนินการที่เพิ่มขึ้นจากเดิมไม่น้อยกว่า 30% รวมถึงต้นทุนวัสดุก่อสร้างหลักๆ อาทิ ปูนซิเมนต์ เหล็กเส้น วัสดุก่อผนัง ที่จะปรับราคาขึ้นในอนาคต
แนวโน้มปี' 51 แห่ขยายรับสร้างบ้านตจว.
สำหรับแนวโน้มตลาดรับสร้างบ้านในปี 2551 นั้น ทางปทุมดีไซน์ ดีเวลอปฯเชื่อว่า ธุรกิจรับสร้างบ้านขยายการรับรู้สู่ผู้บริโภคในต่างจังหวัดมากขึ้น ในปัจจุบันมีบริษัทรับสร้างบ้านชั้นนำจากกรุงเทพฯเพียง 2 รายเท่านั้นที่มุ่งขยายสาขาต่างจังหวัดอย่างจริงจัง ได้แก่ ปทุมดีไซน์ ดีเวลอป และ ไตรเฮ้าส์บริษัทในกลุ่มบิวส์ ทู บิวท์ โดยได้มีการเปิดสาขาที่จ.ขอนแก่นในเวลาใกล้เคียงกัน รวมถึงบริษัทรับสร้างบ้านในท้องถิ่น ส่งผลให้ตลาดรับสร้างบ้านในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือร้อนระอุขึ้นมาในทันที
แนะเร่งปรับตัวรับตลาดกทม.ปี 51 หดตัว
นายสิทธิพร สุวรรณสุต ประธานกรรมการ บริษัท ปทุมดีไซน์ฯ กล่าวว่า สำหรับภาพรวมและสถานการณ์ของธุรกิจรับสร้างบ้านช่วงท้ายปีและช่วงต้นปี 51 คาดว่าตลาดในพื้นที่กทม.และปริมณฑลจะยังทรงตัวหรืออาจชะลอตัวลง โดยในขณะนี้ ทุกฝ่ายเฝ้าระวังก็คือ การปรับตัวของราคาน้ำมันกับต้นทุนก่อสร้างที่เพิ่มสูงขึ้น เพราะการแข่งขันกันจัดโปรโมชัน แจก แถม และลดกระหน่ำราคาในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา และจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในช่วงปลายปีนี้หรือต้นปี 2551 อาจจะเจอกับต้นทุนใหม่ที่เพิ่มสูงขึ้นกว่าราคาขายบ้านไปก่อนหน้านี้
ในส่วนของตลาดรับสร้างบ้านต่างจังหวัดนั้น บริษัทฯให้ความสนใจและมีการสำรวจข้อมูลมาตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ ตามแผนงานบริษัทฯที่ตั้งเป้าไว้จะเปิดสาขาต่างจังหวัดให้ครบ 10 สาขาภายในปี 2554 ปัจจุบันมีอยู่ 3 สาขาได้แก่ สาขาชลบุรีรองรับลูกค้าภาคตะวันออก สาขานครราชสีมารองรับลูกค้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง สาขาขอนแก่นรองรับลูกค้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลาง และในเดือนตุลาคมนี้จะเปิดเพิ่มสาขานครปฐม อีก 1 สาขา เพื่อรองลูกค้าในแถบจังหวัดภาคตะวันตก ส่วนในปี 2551 จะเปิดสาขาเพิ่มอีกอย่างน้อย 3 สาขา
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|