เรนโบว์ อโรคยา@บางคล้า “ศูนย์อายุยืน” อีกคอนเซ็ปต์ของรีสอร์ตสุขภาพ

โดย สุภัทธา สุขชู
นิตยสารผู้จัดการ( ตุลาคม 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

พูดถึงรีสอร์ตสุขภาพระดับไฮเอนด์ หลายคนนึกถึงหัวหิน ภูเก็ต เชียงใหม่ เมืองหลวงแห่งการท่องเที่ยวที่คุ้นเคย แต่ภายใต้ชื่อการเป็นเมืองทางผ่านสู่ดินแดนภาคตะวันออกของประเทศอย่าง "ฉะเชิงเทรา" ที่นี่ก็มีรีสอร์ตเพื่อสุขภาพแบบองค์รวม ที่มีลูกค้าขาประจำเป็นทั้งผู้บริหาร ข้าราชการระดับสูง และนักท่องเที่ยวต่างประเทศด้วยเหมือนกัน

หลังจากฝ่าฟันมลภาวะในเมืองหลวงมาแค่ชั่วโมงกว่า ผ่านตัวเมือง "แปดริ้ว" ไปเพียง 20 กว่า กม. เข้าสู่อาณาเขตบนเนื้อที่สีเขียวกว่า 13 ไร่ ของ "เรนโบว์ อโรคยา" รีสอร์ตสุขภาพแบบองค์รวมที่ผันมาเรียกตัวเองเป็น "ศูนย์อายุยืน" โดยมีนิยามเป็นภาษาอังกฤษว่า Holistic Longevity Center

ลมเย็นโชยเอื่อยมาเป็นระยะๆ จากแม่น้ำ บางปะกง ซึ่งเป็นสายน้ำแห่งชีวิตของคนแปดริ้ว บวกกับร่มเงาของไม้น้อยใหญ่ที่เขียวครึ้มทั่วอาณาจักรที่หลายต้นกำลังออกดอก ไม้ที่ล้วนแต่เป็นไม้ไทย ราวกับคำกล่าวต้อนรับอันอบอุ่นให้แก่แขกผู้มาเยือน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้อ่อนล้าโรยแรงมาเต็มที่แล้วจากกรุงเทพฯ หลายคนยังเป็นผู้ป่วยที่มีอาการเสื่อมทางร่างกายจนเห็นได้ชัด

ไม่ได้มีแต่ผู้สูงอายุอย่างที่คิด แต่กลับมีผู้บริหารรุ่นหนุ่มสาว 30 ต้นๆ มาใช้บริการไม่น้อยในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ แม้จะต่างวัยแต่ก็มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพื่อการฟื้นฟูสุขภาพกายใจและเติมพลังงานแห่งชีวิต

"ก่อนนี้คนหนุ่มสาวอาจยังไม่เคยคิดเรื่องของการมีอายุยืน แต่ทุกวันนี้ วิถีชีวิตของคนเราเปลี่ยนไป ทุกคนใช้ชีวิตอยู่บน fast-lane ความเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายต่างๆ ตั้งแต่หนุ่มสาวก็มากขึ้น หลายคนจึงเปลี่ยนคอนเซ็ปต์เกี่ยวกับ การใช้ชีวิตและเริ่มคิดที่จะเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต เพื่อให้อยู่ได้นานขึ้นและอยู่อย่าง แข็งแรง"

Stephen R. Griffiths ในฐานะรองประธานของเรนโบว์ อโรคยา อธิบาย ถึงไอเดียอันเป็นที่มาของศูนย์อายุยืนแห่งนี้ แม้ว่าเขาจะไม่ได้เป็นผู้ริเริ่มแนวคิดและไม่ได้ร่วมอยู่ตั้งแต่ก่อตั้งศูนย์ฯ แต่แรก

พนักงานเรียกเขาว่า "ท่านประธาน" เพราะชายชาวอังกฤษอายุกว่า 60 ปี เจ้าของธุรกิจรถยนต์จากเมืองผู้ดีคนนี้เข้ามาถือหุ้นใหญ่อยู่ในเรนโบว์ อโรคยาถึง 49% ส่วนที่เหลือแบ่งกันถือในกลุ่มคนไทยที่เห็นงามและเชื่อมั่นในธุรกิจนี้ตรงกัน

เริ่มต้น มร.สตีเฟ่นก็เป็นหนึ่งในลูกค้าที่ทนทุกข์ด้วยอาการป่วยของโรคเบาหวาน จึงเข้ามาทดลองใช้บริการของที่นี่ เพื่อเป็นทางเลือกในการฟื้นฟูร่างกาย ควบคู่ไปกับการแพทย์แผนปัจจุบัน เพราะเชื่อมั่นว่า ที่นี่ทำให้ร่างกายของเขาฟื้นตัวและเป็นปกติขึ้นอย่างรวดเร็ว เขาจึงตัดสินใจร่วมทำธุรกิจนี้เมื่อต้นปีที่แล้ว

จุดเด่นที่ทำให้เรนโบว์ อโรคยา แตกต่างจากสปาหลายแห่ง อยู่ที่การเป็น ศูนย์สุขภาพองค์รวมที่มีโปรแกรมดูแลรักษาสมดุลทั้งทางกาย ใจ และจิตวิญญาณ โดยใช้องค์ความรู้แบบปราชญ์ตะวันออกร่วมกับเทคโนโลยีนาโน และเป็นการผสมผสานระหว่างศาสตร์การแพทย์แผนปัจจุบันและการแพทย์ทางเลือก

การดูแลทางกาย ที่นี่ใช้คอนเซ็ปต์สำคัญ 2 ประการในการปรับสมดุลร่างกาย นั่นก็คือการใช้กายภาพบำบัดประยุกต์ในการปรับโครงสร้างร่างกายและกล้ามเนื้อ โดยมีนักกายภาพบำบัดดูแลอย่างใกล้ชิด พร้อมกับคำแนะนำใน การเดิน นอน นั่ง ยืน ให้ถูกต้องตามหลักสรีรศาสตร์

ร่วมกับการปรับสมดุลภายในร่างกายจะใช้เมนูอาหารเพื่อสุขภาพ แนวชีวจิตที่มีสารอาหารครบ 5 หมู่ ในปริมาณแคลอรีที่เหมาะกับแต่ละคน พร้อมด้วยอาหารเสริมจากธรรมชาติ (Bio Food Supplement) ร่วมกับการขจัดสารพิษและของเสียในร่างกาย หรือที่รู้จักกันดีว่า "ดีท็อกซ์"

ความโดดเด่นของที่นี่ยังอยู่ที่คอนเซ็ปต์การดีท็อกซ์ที่นำเอา พลังงานบวกที่มีอยู่ในธรรมชาติมาใช้ นั่นก็คือ พลังงานประจุลบ (Minus-Ion) ซึ่งเป็นพลังบวกที่มีอยู่ตามธรรมชาติ ในบริเวณที่มีอากาศบริสุทธิ์ ซึ่งจะช่วยปรับสมดุลในร่างกายที่ต้องเผชิญกับมลภาวะและมลพิษ

ร่วมกับคลื่นพลังงานอินฟราเรด อันเป็นคลื่นพลังงานที่มีประโยชน์ต่อการผลิตเซลล์ใหม่ และการเจริญเติบโตของเซลล์ในสิ่งมีชีวิต (growth radiation) เช่นเดียวกับพลังงานของแสงแดดอ่อนยามเช้า

แทนที่จะใช้ตู้อบเซาน่า ก็เปลี่ยนเป็นการนอนในโดมอินฟราเรด และนอนแช่ใน "บ่อสินแร่ร้อน (Sand Bath)" หรือเซาน่าทรายแบบญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นไฮไลต์ของที่นี่

"คนที่อายุยืนส่วนใหญ่อยู่ในญี่ปุ่น เราก็ไปดูว่า ทำไมคนญี่ปุ่นถึงอายุยืน ไปเห็นอาหารการกินของเขา ได้เห็นเครื่องใช้ของ เขาที่มีสินแร่ธรรมชาติที่ได้มาจากภูเขาไฟเป็นส่วนประกอบ และสินแร่เหล่านั้นเองที่ให้พลังงานประจุลบและคลื่นอินฟราเรด มาทำให้พวกเขาดูสดใสแข็งแรง อายุยืน ซึ่งเป็นภูมิปัญญาที่คนของเขาสืบทอดมานานแล้ว"

เป็นคำกล่าวของ "วิชาดา วงศานิตย์" ผู้ริเริ่มและเจ้าของคอนเซ็ปต์ศูนย์อายุยืนแห่งนี้ โดยสาเหตุที่ทำให้เธอเริ่มสนใจเกี่ยวกับการดูแล สุขภาพแนวนี้ก็มาจากการเจ็บป่วยเป็นอัมพฤกษ์เมื่อ 10 กว่าปีก่อน และ เส้นเลือดหัวใจตีบจนเกือบต้องทำบอลลูนมาก่อนตั้งแต่ 3 ปีที่แล้ว

หลังจากเห็นและทดลองใช้สินค้าเหล่านั้นด้วยตัวเอง วิชาดารู้สึกว่าเธอแข็งแรงขึ้น เธอจึงเริ่มธุรกิจนำเข้าและขายตรงสินค้าที่มีสินแร่ ธรรมชาติจากญี่ปุ่นเข้ามาขายกว่า 100 รายการ ภายใต้แบรนด์ "Royal Rainbow" ตั้งแต่ 10 กว่าปีก่อน จน 2 ปีที่แล้วเธอทุ่มทุนกว่า 10 ล้าน บาท เพื่อนำ Sand Bath หรือที่คนญี่ปุ่นขนามนามว่าเป็น "บ่ออายุยืน" เข้ามาใช้ในศูนย์สุขภาพ แล้วจึงเปลี่ยนคอนเซ็ปต์จากสปาสุขภาพเป็นศูนย์อายุยืนแบบองค์รวม

ลูกค้าหลายคนที่ได้ลง Sand Bath ยังบอกว่า เหมาะแก่การลดน้ำหนัก เพราะหลังจากลงแช่ใน Sand Bath ทั้งน้ำหนักตัวและไขมัน ลดลงจนหลายคนมักถูกเพื่อนทัก

ทั้งนี้สินค้าหลายอย่างของบริษัทมีให้แขกได้ใช้ขณะพักที่นี่ ทั้งชุดเครื่องนอน ที่มีเส้นใยสินแร่ ซึ่งหากติดใจประสิทธิภาพที่เรนโบว์ อโรคยา ก็มีขายในราคาร่วม 6 หมื่นบาท หรือสบู่เจลและแชมพูครีมนวดผมผสมสินแร่ก็มีให้ลองใช้ในห้องบำบัด ก็ยังมีเตียงนอนคลายกล้ามเนื้อและโดมเซาน่าอินฟราเรดให้บริการ ซึ่งถ้าแขกจะควักเงินหลักแสนซื้อไปใช้ที่บ้านก็ย่อมได้

หากสนใจอยากซื้อ Sand Bath ไปใช้ในกิจการสปา หรือในโรงแรมของตัวเอง ก็ติดต่อได้เช่นกัน ดูราวกับที่นี่เป็น Showroom สินค้าของ Royal Rainbow เลยทีเดียว แต่เป็นโชว์รูมที่ลูกค้าเต็มใจเข้ามาทดลองใช้แบบบูรณาการผ่านประสบการณ์และอัธยาศัยอันดีจากพนักงานต้อนรับ ณ รีสอร์ตแห่งนี้

มร.สตีเฟ่นยืนยันว่า ทุกวันนี้ Royal Rainbow ยังเป็นธุรกิจหลักของบริษัท ขณะที่เรนโบว์ อโรคยา ก็เป็นหน่วยธุรกิจที่ช่วยโปรโมตสินค้าได้เป็นอย่างดี ขณะเดียว กันก็ยังสร้างรายได้จำนวนไม่น้อยให้กับบริษัท คงไม่ผิดนักหากจะบอกว่า วิสัยทัศน์ครั้งนี้เปรียบเหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว

นอกจากนั้น เรนโบว์ อโรคยา ยังมีการนวดบำบัดเหมือนสปาทั่วไป ต่างกันที่เทคนิคและคอนเซ็ปต์การนวดอโรม่า หรือการนวดไทยก็เป็นแบบแผนเฉพาะของที่นี่ โดยเน้นปรับโครงสร้างร่างกายและกล้ามเนื้อ ส่วนการนวดเท้าก็เป็นการกดจุด (Reflexology) รวมถึงการทำสปาเทียนหู เพื่อการพักผ่อนและชำระสิ่งสกปรกในหู อีกทั้งยังบำบัดโรคไซนัส และไมเกรนได้ด้วย

สำหรับสมดุลด้านจิตใจและจิตวิญญาณ เรนโบว์ อโรคยา มีการจัดคอร์สที่เรียกว่า "สนามเอกภาพ" หรือคลื่นพลังงานบวก ของมนุษย์ ซึ่งมักได้จากการนั่งสมาธิและปฏิบัติกรรมฐานเจริญวิปัสสนา อันเป็นกุศโลบายในการพัฒนาจิตใจ ที่ยังได้ความผ่อน คลายและบำบัดจิตวิญญาณไปด้วย ท่ามกลางบรรยากาศอันน่ารื่นรมย์ของต้นไม้สีเขียวขจีและลมเย็นๆ จากสายน้ำบางปะกง ที่ล้วนแต่ให้ประจุลบตามธรรมชาติ และยังมีพลังแง่บวกจากแรงศรัทธาแห่งธรรม เพราะที่นี่เคยทำเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมมาก่อน

"พื้นที่ตรงนี้ถือเป็นพื้นที่บริสุทธิ์ เพราะจะมีพลังบวกเยอะ พลังเหล่านี้จะช่วยทำลายคลื่นแม่เหล็กที่เราสั่งสมอย่างหนาแน่น มาจากกรุงเทพฯ" วิชาดากล่าว

นี่จึงเป็นสาเหตุสำคัญที่วิชาดาตัดสินใจมาตั้งศูนย์ฯ แห่งนี้ ณ ริมแม่น้ำบางปะกง อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา ฟังดูอาจจะคล้ายความเชื่อแต่ด้วยพลังแห่งธรรมชาติที่บริสุทธิ์ก็ทำให้ ผู้มาเยือนที่แบกความเครียดมาเต็มบ่า ดูสดใสและสดชื่นได้ในพริบตา

ยิ่งเมื่อสนามบินสุวรรณภูมิเสร็จ ทำเลตรงนี้ยิ่งถูกต้องและ เหมาะสมที่สุดในความคิดของ มร.สตีเฟ่น

สโลแกนของศูนย์อายุยืนแห่งนี้ คือ "we can help you to help yourself" หลังจากครบตามแพ็กเกจ แขกทุกคนจะรับ คำแนะนำในการยืนเดินนั่งนอนให้ถูกตามหลักสรีรศาสตร์ รวมถึงท่าออกกำลังกายเฉพาะบุคคล เพื่อให้เหมาะกับการปรับโครงสร้างที่ยังไม่สมดุลของลูกค้าแต่ละคน

"คุณมาที่นี่จะได้เรียนรู้ว่าจะดำรงชีวิตยังไงถึงจะอายุยืน แต่สิ่งสำคัญ ทุกคนต้องกลับไปทำเองด้วย เราไปทำแทนคุณก็ไม่ได้ ขอแค่คุณนอนยืนเดินนั่งได้อย่างที่เราบอก รับรองคุณจะแข็งแรง" วิชาดากล่าวอย่างมั่นใจจากประสบการณ์ของตัวเอง

กลุ่มเป้าหมายของที่นี่เป็นลูกค้า high-end จากกรุงเทพฯ ที่มองเห็นว่า คอร์สของที่นี่มีราคาแพงกว่าสปาหลายแห่ง แต่มี "Value for Money" ที่ยอมรับได้ ไม่ว่าจะเป็นการลงแช่บ่อสินแร่ร้อน 15-20 นาที 4,500 บาท แพ็กเกจขั้นต่ำ 2 วัน 1 คืน ราคาเกือบ 2 หมื่นบาท หรือค่าสมาชิกรายปี 3.9 หมื่นบาท และราย 3 ปี อยู่ที่ราคา 1.2-2.5 แสนบาท เลยทีเดียว

ทุกวันนี้ มร. สตีเฟ่นกำลังเร่งทำการตลาดต่างประเทศ ตอนนี้ ผ่านงาน Exhibition และโรดโชว์ทั่วโลก โดยเฉพาะแถบยุโรปและตะวันออกกลาง

"มีสถานที่หลายแห่งในประเทศไทยที่เป็นที่รู้จักในต่างประเทศ ผมหวังว่าใน 12-18 เดือนข้างหน้า เรนโบว์ อโรคยา จะมีชื่อรวมอยู่ในนั้นด้วย หรืออย่างน้อยเวลานักท่องเที่ยวต่างชาติมาเมืองไทยเพื่อทำสปา เขาจะต้องนึกถึงเราและมาที่เราเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทาง"

หลังจากเปิดตัวยังไม่ถึง 2 ปีเต็ม ปัจจุบันทุกสุดสัปดาห์ ที่นี่ก็มีแขกเข้ามาใช้ บริการอย่างต่อเนื่อง ดูได้จากคิวรอใช้บริการ Sand Bath ที่ไม่เคยว่างเว้นตลอดช่วง เวลาทำการ และบางสัปดาห์ ห้องพักร่วม 30 ห้องของที่นี่ถูกจองเต็ม บ่อยครั้งที่มีกรุ๊ปสัมมนาถือโอกาสมาใช้เวลาพักผ่อนและฟื้นฟูร่างกายที่นี่ด้วย

อีกไม่นาน เรนโบว์ อโรคยา จะขยายจำนวนห้องพักเพิ่มพร้อมเปิด Day Center บนพื้นที่ 1.5 ไร่ บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ในกรุงเทพฯ มีบริการ Massage Delivery ที่ส่งทั้งเก้าอี้นวดและทีราปิสต์ไปบริการนวดถึงออฟฟิศในเร็ววันนี้ด้วย

"ข้ออ้างของคนส่วนใหญ่ก็คือ ไม่มีเวลา คุณต้องรู้จักแบ่งสมองมาส่วนหนึ่งเพื่อรักชีวิต และทำความเข้าใจว่าจะมีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไร จะเกิดมาเพื่อทำงาน เพื่อ แก่แล้วเจ็บ แล้วไปใช้เงินในโรงพยาบาล แล้วตาย หรือจะเริ่มเปลี่ยนความคิด และ เปลี่ยนการกระทำตั้งแต่วันนี้" เป็นอีกครั้งที่วิชาดาสรุปจากประสบการณ์ตรงของเธอ

มร.สตีเฟ่นแนะว่า เรนโบว์ อโรคยา เป็นศูนย์สุขภาพที่ทุกคนน่าจะมาใช้บริการ ตั้งแต่ที่ยังไม่เจ็บป่วย เพราะร่างกายที่แข็งแรงย่อมจะได้ประโยชน์จากกิจกรรมต่างๆ ได้มากกว่า ที่สำคัญ หากมาเมื่อเจ็บป่วยมากๆ ทุกอย่างอาจสายเกินไปจนไม่ว่าองค์ความรู้ หรือนวัตกรรมใดก็ไม่อาจช่วยแก้ไขให้กลับเป็นเหมือนเดิม


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.