หุ้นโรงแรมส่อแววเฉิดฉาย รับไฮซีซั่นท่องเที่ยวฟื้น


ผู้จัดการรายสัปดาห์(1 ตุลาคม 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

จับจังหวะเก็บหุ้นโรงแรมรอรับอานิสงค์โดดเด่นรับไฮซีซั่นปลายปี มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้า หลังครึ่งปีแรกตัวเลขหด โบรกฯคาด ERAWAN - MINT - CENTEL มีราศี แผนธุรกิจชัดเจนรับซัพพลายลูกค้าได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย

โดยปกติแล้วช่วงไตรมาส 4 ต่อเนื่องถึงไตรมาส 1ของอีกปี จะถือได้ว่าเป็นไฮซีซั่นของธุรกิจท่องเที่ยว เนื่องจากมีจำนวนนักท่องเที่ยวจากทั้งยุโรปและอเมริกาหลั่งไหลเข้ามาพักผ่อนเป็นจำนวนมาก บวกกับมีเทศกาลวันหยุดทั้งที่เป็นคริสต์มาส และปีใหม่ อีก ส่งผลให้โรงแรมสามารถจะทำรายได้และเติบโตได้ดีในช่วงดังกล่าว ทั้งจากส่วนที่เป็นที่พักและส่วนที่เป็นอาหาร

นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์(บล.) กรุงศรีอยุธยา มองว่าหุ้นในกลุ่มโรงแรมน่าจะมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ในช่วงปลายปีนี้รับการท่องเที่ยวในประเทศที่คาดว่าจะฟื้นตัวเนื่องจากเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวหลัก ประกอบกับปัจจัยการเมืองว่าด้วยการเลือกตั้งทั่วไปมีทิศทางที่จะดีขึ้นสามารถเริ่มเรียกความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนต่างชาติกลับคืน และด้วยศักยภาพการท่องเที่ยว-งานบริการของไทยยังครองความโดดเด่นในระดับโลกเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านและในภูมิภาค

"แนวโน้มปริมาณนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวในประเทศไทยในช่วงปลายปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้น เพราะจะเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ ส่วนครึ่งปีแรกที่ทรงตัวสืบเนื่องจากสถานการณ์ในไตรมาส 1/2550 ที่ผ่านมา สถานการณ์ทางการเมืองดูเหมือนยังไม่สงบดีนัก ส่วนผลประกอบการ 2/2550ก็น่าจะเป็นไตรมาสที่แย่ยที่สุดของปี จึงฉุดปริมาณนักท่องเที่ยวลดลงทำให้มีตัวเลขต่ำกว่าคาดการณ์ แต่ก็คาดว่าผลประกอบการของกลุ่มจะเริ่มมีทิศทางที่ฟื้นตัวอย่างชัดเจนในไตรมาส 4/2550 เป็นต้นไป"

ทั้งนี้มองว่าการท่องเที่ยวจะเริ่มกลับขึ้นมาฟื้นตัวที่ดีในปี 2551 เนื่องจากทางภาครัฐเริ่มมีการกระตุ้นการท่องเที่ยวมากขึ้น และปีนี้ถือเป็นปีที่ย่ำแย่ ส่งผลให้การดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนกลุ่มท่องเที่ยวน่าจะฟื้นตัวเพิ่มขึ้นในปีหน้าได้

สำหรับหุ้นที่แนะนำซื้อลงทุน คงแนะนำหุ้นของ บมจ. ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (ERAWAN) โดยให้ราคาเหมาะสม 4.91 บาท เนื่องจากคาดว่าช่วงปลายปีธุรกิจโรงแรมจะมีการฟื้นตัวตามภาพรวมอุตสาหกรรมโดยรวม โดยเฉพาะในไตรมาส 4/2550 ซึ่งเป็นช่วงไฮ ซีซั่น ส่งผลให้อัตราการเข้าพักของโรงแรมแกรนด์ไฮแอท เอราวัณ เจดับบลิว แมริออท เพิ่มขึ้น ประกอบกับราคาหุ้นปัจจุบันค่อนข้างถูก โดยเฉพาะหากราคาปรับตัวลดลงมาที่ระดับ 3.90 บาทถือเป็นจังหวะซื้อที่ดีมาก

ทั้งนี้ผลจากการปรับโครงสร้างทางธุรกิจที่จะเกิดขึ้นในเดือน ธ.ค. 2550 ด้วยการโอนสินทรัพย์โรงแรมเจดับบลิว แมริออท (JW Marriott), เพลินจิตเซ็นเตอร์ และ The Erawan Bangkok ให้แก่ ERAWAN ซึ่งแต่เดิมเป็น Holding Company จะช่วยให้ERAWAN มีผลประโยชน์ทางภาษีหรือ Tax shield ไปจนถึงปี 2556

นอกจากนี้ในปี 2551 ERAWANจะเปิดดำเนินการโรงแรมระดับ 2 ดาว ภายใต้แบรนด์ Ibisจำนวน 5 แห่งซึ่งมุ่งกลุ่มตลาดฯ เฉพาะสำหรับฐานนักท่องเที่ยวเน้นไปที่ตลาดกลาง-ล่าง เช่น จีนและอินเดีย ด้วยความชัดเจนของ ERAWAN ที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม และเน้นการลงทุนทางตรง ซึ่งจะเป็นต้องอาศัยระยะเวลาในการสร้างผลตอบแทนการลงทุน

อย่างไรก็ดีหากปีหน้าการท่องเที่ยวในไทยมีการฟื้นตัวขึ้นจริง เชื่อว่าจะส่งผลดีแก่ ERAWAN อย่างแน่นอน เพราะธุรกิจโรงแรมมีบริการที่ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทุกระดับ ถือเป็นจุดแข็งที่ดีหากเทียบกับผู้ประกอบการเช่นเดียวกันอย่าง บมจ. ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) ธุรกิจโรงแรมให้บริการมุ่งกลุ่มเป้าหมายลูกค้าระดับไฮ เอน ส่วน บมจ.โรงแรมเซ็นทรัล พลาซา(CENTEL) จะรองรับลูกค้าระดับ 4 ดาว

ทั้งนี้แนะนำ ซื้อลงทุนระยะยาวสำหรับ หุ้น MINT เนื่องจากเป็นผู้ประกอบการหลักด้านธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม 57% และธุรกิจรองคือ โรงแรม 34% ของรายได้รวม ที่เหลือคือธุรกิจเพิ่มฐาน MINT มีอัตราการเติบโตโดดเด่นใน 2 ธุรกิจหลัก มีนโยบายเน้นการเติบโตของธุรกิจและการลงทุนที่สูงด้วยแผนการลงทุนที่ชัดเจนไปในระยะกลาง-ยาว 3-5 ปีข้างหน้าเน้นรายได้เติบโตเฉลี่ย 10-12% (กำไรสุทธิเติบโต 15-20%) ในปีนี้ และ 10-12% ต่อปี (กำไรสุทธิเติบโต 20-25% ) ในปี 2551-2553


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.