|
"กมล"ลั่นไม่โกงพร้อมเปิดสัญญายึดหุ้น256ล้าน
ผู้จัดการรายวัน(27 กันยายน 2550)
กลับสู่หน้าหลัก
นายกมล เอี้ยวศิวิกูล ประธานกรรมการบริษัท ไมด้า แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) หรือ MIDA เปิดเผยถึง การออกเปิดเผยข้อมูลของนางสุธาสินี เสตะพันธุ ว่า รายละเอียดในสัญญาการร่วมทำธุรกิจของบมจ.ไมด้า แอสเซ็ท และบริษัท สมุย เพนนินซูลา จำกัด เป็นสัญญาจริงตามที่มีการแจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้สั่งให้บริษัทมีการชี้แจงถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งบริษัทได้ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวเพื่อความถูกต้อง
ทั้งนี้ บริษัทมีเอกสารที่พร้อมจะให้มีการพิสูจน์อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบของตลาดหลักทรัพย์ฯ และพร้อมเปิดโอกาสให้นางสุธาสินีเข้ามาตรวจสอบเอกสารได้ แต่โดยส่วนตัวไม่เข้าใจเหตุผลว่า ทำไมตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมานางสุธาสินีไม่เคยมีการติดต่อเข้ามาที่บริษัท เพื่อจะขอตรวจสอบในรายละเอียดเรื่องดังกล่าว กลับส่งเอกสารไปยังผู้สื่อข่าวแทนจนทำให้บริษัทได้รับผลกระทบจากเรื่องที่เกิดขึ้น
สำหรับสัญญาร่วมทุนในการดำเนินธุรกิจระหว่างบมจ.ไมด้า แอสเซ็ท กับโครงการต่างๆ กับนางสุธาสินีเป็นสัญญาในลักษณะเดียวกันทั้งหมด โดยกำหนดให้นางสุธาสินีต้องรับผิดชอบในภาระหนี้ที่เกิดขึ้นก่อนวันที่มีการทำสัญญา
"ไม่เข้าใจว่า ทำไมเขาไม่ยอมคุยกับเราก่อน ต้องส่งเอกสารไปให้ผู้สื่อข่าวอย่างเดียว ผมพร้อมเจรจา และมีสัญญาที่ชัดเจนที่จะสามารถตอบได้ทุกเรื่อง การทำแบบนี้ส่งผลกระทบต่อบริษัทอย่างชัดเจน "นายกมลกล่าว
ประธานกรรมการบมจ. ไมด้า แอสเซ็ท กล่าวอีกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ถือเป็นประสบการณ์ที่จะทำให้ในการร่วมทุนหรือทำธุรกิจอื่นๆ หลังจากนี้บริษัทต้องมีความระมัดระวังให้มากขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาจนทำให้ภาพลักษณ์ของบริษัทเสียหาย โดยสิ่งที่ต้องสนใจให้มากขึ้นคือผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นแก่ผู้ถือหุ้นของบริษัท
ด้านนางสุธาสินี เสตะพันธุ ผู้ถือหุ้นบริษัท สมุย เพนนินซูลา จำกัด ได้ส่งเอกสารผ่านสื่อมวลชนโดยระบุว่า ได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อบมจ.ไมด้า แอสเซ็ท โดย
นายกมล เอี้ยวศิวิกูล กรรมการผู้จัดการกับบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง ในความผิดฐานปลอมและใช้เอกสารปลอม และดำเนินคดีต่อนางสาวนิภาพร มั่นหมาย กับบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องในความผิดฐานลักทรัพย์
นอกจากนี้ นางสุธาสินี ได้อ้างว่า ได้ทำการตรวจสอบไปยังผู้ตรวจสอบบัญชีของบมจ.ไมด้าฯ พบว่ามีเอกสารสัญญากู้เงิน ฉบับลงวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยเมื่อได้มีการตรวจสอบสำเนาเอกสารพบว่า เป็นสัญญาที่ทำปลอมขึ้นทั้งฉบับ และได้มีการปลอมลายมือชื่อตนเองในสัญญาด้วย
ทั้งนี้ ในสัญญายังระบุว่าได้นำหุ้นในบริษัทสมุย เพนนินซูลา จำนวน 1.28 ล้านหุ้น มาจดทะเบียนจำนำเป็นประกันต่อบมจ.ไมด้าฯ หากนางสุธาสินีผิดนัดไม่ชำระหนี้เงินกู้ตามสัญญาเงินกู้ ยินยอมให้นำใบหุ้นดังกล่าวขายทอดตลาดเพื่อชำระหนี้ดังกล่าว โดยสัญญาดังกล่าวมีนางสาวนิภาพร มั่นหมาย ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินและบัญชีของบริษัท สมุย แพนนินซูลา เป็นผู้รักษา
อย่างไรก็ตาม จากสัญญาดังกล่าวทำให้นางสุธาสินีได้รับความเสียหาย เนื่องจากต้องรับภาระหนี้จำนวน 256,242,469 บาท และจะทำให้หุ้นของตนเองต้องถูกลักเอาไปถูกขายทอดตลาดตามที่ระบุในสัญญา
อนึ่ง ก่อนหน้านี้นางสาวรุ่งระวี เอี่ยมพงษ์ไพฑูรย์ กรรมการผู้มีอำนาจรายงานสารสนเทศ บมจ.ไมด้า แอสเซ็ท ได้ชี้แจงต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า รายการให้กู้ยืมเงินจำนวน 256.2 ล้านบาท ของบริษัทสมุย แก่นางสุธาสินี เสตะพันธุ กรรมการของบริษัท สมุย เพนนินซูลา จำกัด (บริษัทสมุย) ตามที่ บริษัทฯได้ร่วมลงทุนในบริษัทสมุย เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 2549 ซึ่งตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในสัญญาร่วมทุน หากปรากฏว่าบริษัทสมุย มีหนี้สินที่ไม่ได้ระบุไว้ในงบการเงินชุดที่นำมาแสดงต่อ MIDA ณ วันทำสัญญา หนี้สินหรือภาระที่เกิดขึ้นก่อน MIDA เข้าไปลงทุนให้ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้ถือหุ้นเดิมคือ นางสุธาสินี เสตะพันธุ
ต่อมาปรากฏว่า บริษัทสมุยมีหนี้สินค้างชำระค่าก่อสร้างเก่า ซึ่งหากไม่ชำระจะส่งผลเสียหายต่อบริษัทสมุย คณะกรรมการบริษัทสมุย จึงได้อนุมัติให้ มีการกู้เงินดังกล่าวเพื่อไปชำระหนี้ และมีการค้ำประกันเงินกู้ โดยการนําหุ้นในบริษัทสมุย ของนางสุธาสินี เสตะพันธุ จำนวน 1,280,000 หุ้น ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 22.10 % ของหุ้นทั้งหมดของบริษัทสมุยฯ มาจำนำไว้เป็นหลักประกันต่อบริษัทนั้น
ทั้งนี้ บริษัทขอยืนยันว่า ข้อมูลที่ทาง MIDA แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2550 เป็นความจริง ทั้งนี้ทาง MIDA ขอเรียนชี้แจงว่า รายการดังกล่าวเป็นข้อขัดแย้งระหว่างผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทสมุย คือนางสุธาสินี กับ MIDA เกี่ยวกับภาระหนี้สินที่มิได้บันทึกไว้ในงบการเงินของบริษัทสมุย ณ วันที่ MIDA เข้าไปร่วมทุน ซึ่ง MIDA ได้พยายามแก้ไขปัญหาเพื่อมิให้เกิดความเสียหายต่อ MIDA โดยนางสุธาสินี ต้องรับผิดชอบรายการนี้ทั้งหมด มิฉะนั้นนางสุธาสินี ต้องซื้อหุ้นคืนจาก MIDAไปทั้งหมด ซึ่งนางสุธาสินี ได้ตกลงซื้อหุ้นในบริษัทสมุย คืนทั้งหมด โดยใช้ราคาตามสัญญาร่วมทุนซึ่งระบุว่ากรณีมีข้อขัดแย้งให้ใช้ราคาที่ MIDA ซื้อบวกดอกเบี้ยอัตรา12 % ต่อปี แต่ MIDA ได้ยื่นข้อเสนอกลับไปว่า การซื้อขายหุ้นขอให้พิจารณาซื้อหุ้นทุกบริษัทที่มีการร่วมทุนกันและต้องการให้มีการเจรจาเรื่องราคาอีกครั้งหนึ่ง ด้วยเหตุนี้ความขัดแย้งจึงยังไม่ยุติ และมีการนำรายการกู้ยืมเงินมาโต้แย้งกันอยู่
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|