Wildlife in the Kingdom of Thailand


นิตยสารผู้จัดการ( กุมภาพันธ์ 2543)



กลับสู่หน้าหลัก

"เราต้องตั้งใจให้ลึกซึ้งว่าทรัพยากร ป่าไม้นั้นสำคัญต่อพวกเรามาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งป่าไม้เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารที่ให้ความชุ่มฉ่ำต่อแผ่นดิน และป่าไม้ต้องมีสัตว์เพื่อช่วยในการขยายพันธุ์และสร้างความสมดุลของธรรมชาติ ส่วนสัตว์ป่านั้นก็ต้องมีแหล่งที่อยู่อาศัย จึงกล่าวได้ว่ามนุษย์ ป่าไม้ และสัตว์ป่ามีความสัมพันธ์กันอย่างละเอียดลึกซึ้งจนไม่สามารถจะขาดส่วนหนึ่งส่วนใดไปได้? พระราชดำรัสสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในหนังสือ Wildlife in the Kingdom of Thailand

ขณะที่มนุษย์ก้าวเข้าสู่ปี 2000 (2543) โลกได้สูญเสียพื้นที่ พืชพรรณและสัตว์ป่าที่อยู่อาศัยในป่าไปอย่างมหา ศาลเพื่อตอบสนองความต้องการของสังคมเนื่องจากการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของพลเมืองโลก รวมทั้งมุ่งประเด็นไปในการพัฒนาอุตสาหกรรมจนละเลยเรื่อง ระบบนิเวศธรรมชาติ

ผลการวิจัยที่ผ่านมาทำให้ทราบว่าในปัจจุบันมีการทำลายป่าไม้ในเขตร้อน พื้นที่ขนาดเท่าสวนสาธารณะในกลางกรุงนิวยอร์กทุกๆ 1 นาที พื้นที่ขนาดเท่าเมืองนิวออรีนทุกเดือน และพื้นที่ขนาดเท่ากับเกาะอังกฤษทุกปี ป่าไม้ถูกตัดโค่นเพื่อเอาไม้ ที่ดินถูกบุกรุกเพื่อเลี้ยงปศุสัตว์ ทำเรือกสวนไร่นา หาอาหารและสร้างบ้านเรือน เมื่อใดที่มีการตัดไม้ทำลายป่าทำให้มีผลกระทบต่ออากาศ ฤดูกาล การเปลี่ยนแปลงเพิ่มอากาศเสียกลายเป็นสภาวะเรือนกระจกขึ้นในชั้นบรรยากาศ ความเปลี่ยนแปลงของบรรยากาศนี้ทำให้เกิดภัยพิบัติต่างๆ ตามมา

โดยทั่วไปเป็นที่ทราบกันดีว่ามนุษย์ คือผู้ชี้ชะตาและรับผิดชอบต่อการทำลายป่าไม้และบรรยากาศที่กำลังเกิดขึ้น ซึ่งก็รวมถึงชาวไทยและประเทศไทยด้วย มนุษย์เราเป็น "ผู้กำหนดจุดจบของธรรมชาติ? โดยการทำลายป่าทั้งภายนอกและภายในป่ารวมไปถึงอุทยานแห่งชาติ การทำลายสัตว์ ตลอด จนการสร้างสถานที่พักตากอากาศ สนาม กอล์ฟ ปัญหาในการปลูกป่า ล้วนเป็นผู้สร้างความขมขื่นให้เกิดขึ้นกับธรรมชาติ อนาคตของโลกดูเปราะบางลงทุกวัน และมีแนวโน้มจะมีมากขึ้นจนไม่อาจหวนกลับมาสู่ภาวะปกติได้

ดังนั้น มนุษย์จึงเผชิญอยู่กับอันตรายตลอดเวลา การทำลายพรรณพืชและสัตว์ป่าของคนรุ่นก่อนมีผลร้ายแรงต่อคนรุ่นต่อไปนับพันปีในอนาคต การกระทำย่อมมีผลกระทบต่ออากาศ แผ่นดิน และชีวิตของคนทั่วโลก

หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ประเทศไทยเคยมีพื้นที่ป่าไม้ประมาณ 75% ของพื้นที่ทั้งหมด เพียง 50 ปีให้หลังประเทศไทยเหลือพื้นที่ป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์เพียง 20% พื้นที่และสัตว์ป่าหลายชนิดได้สูญสิ้นไปพร้อมกับป่าเหลือ ให้เห็นเพียงภาพถ่าย ภาพเขียนหรือในหนังสือเท่านั้น

มนุษย์กำลังอยู่ระหว่างทางข้ามของการศึกษาและความตื่นตัวในเรื่องสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติที่มีชีวิตรอบตัวซึ่งจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการพิทักษ์รักษาป่าไม้และสัตว์ป่านี้ยังเหลืออยู่ให้รอดชีวิตสืบไป เราจำเป็นต้องสื่อสารกันด้วยภาพถ่ายธรรมชาติตามความเป็นจริง ตลอดจนการสื่อสารทันสมัยอื่นๆ เพื่อให้คนที่ไม่มีโอกาสได้มองเห็นความงดงามของโลกธรรมชาติ

การเดินทางเพื่อชมธรรมชาติของ ประเทศไทยด้วยภาพถ่ายจากหนังสือเล่มนี้ให้ความเพลิดเพลิน เกิดจินตนา การเสมือนว่าตนเองอยู่ในสถานที่ตามภาพถ่ายนั้น ทำให้มองเห็นความงดงามของธรรมชาติรอบตัว ภาพถ่ายเหล่านี้แสดงความงดงามในตัวเอง การตีความหมายของภาพถ่ายขึ้นอยู่กับตัวคุณเอง

Wildlife in the Kingdom of Thailand เป็นหนังสือที่นักถ่ายภาพอิสระชาวอเมริกัน แอล.บรู๊ซ เคคูลี่ (L. Bruce Kekule) รายงานด้วยภาพถ่ายของชีวิตสัตว์ป่าและเป็นการเดินทางเข้าสู่อาณาจักรของโลกธรรมชาติด้วยกล้อง และฟิล์มถ่ายรูปเพื่อบันทึกความทรงจำของผืนป่าเล็กๆ ในประเทศไทยที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นผืนป่าอันกว้างใหญ่

ความสนใจของเคคูลี่เกิดขึ้นเมื่อเดินทางเข้ามาประเทศไทยพร้อมบิดาเพื่อมาทำธุรกิจไม้แกะสลักที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อปี 1964 ชีวิตของเขาจึงวนเวียนอยู่กับธรรมชาติและส่วนตัวชอบการท่องเที่ยว ความคิดที่จะเป็นนักถ่ายภาพจึงเริ่มก่อตัวขึ้น

"ที่สำคัญผมสังเกตเห็นสัตว์ป่าในเมืองไทยเริ่มลดน้อยลงจึงคิดว่าน่าจะทำหนังสือเกี่ยวกับชีวิตสัตว์ป่า ขณะนั้นเมืองไทยยังไม่ค่อยมีหนังสือประ-เภทนี้มากนัก จะมีเฉพาะในรูปของหนังสือเรียนเท่านั้น? เคคูลี่ กล่าว

อย่างไรก็ตามช่วงกลางทศวรรษ 1980 แนวความคิดดังกล่าวเป็นเพียงแค่ความฝันเท่านั้น กว่าจะเป็นจริงเป็นจังก็ล่วงเลยมาถึงปี 1995 เมื่อเคคูลี่ตัดสินใจซื้อกล้องนิคอนและเริ่มต้นเดินทางเก็บภาพสัตว์ป่า

สถานที่ใช้ถ่ายรูปล้วนเป็นสถานที่ที่เป็นพื้นที่ป่าสำคัญของไทยที่เลือก สรรแล้วคือ วนอุทยานแห่งชาติ 2-3 แห่ง เขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าและพื้นที่ห้ามล่าสัตว์ ซึ่งใช้เวลาถึง 4 ปี และใช้ฟิล์มไปมากกว่า 1,000 ม้วนในการถ่ายภาพสัตว์ป่าที่ได้ปรากฏอยู่ในหนังสือเล่มนี้

"จากการเรียนรู้โดยการออกพื้น ที่อย่างต่อเนื่อง ทำให้ได้รับรู้ถึงลักษณะนิสัยและแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าต่างๆ จึงเป็นปัจจัยของความสำเร็จของภาพถ่ายที่สมบูรณ์พร้อมทั้งเวลาและสถานที่ สัตว์ป่ากลัวคน ปัญหาของสัตว์ป่าที่สำคัญคือ มนุษย์? ซึ่งเป็นปัญหาที่แก้ได้ยาก มนุษย์เราควรเก็บพวกมันไว้เป็นสมบัติเพียงรูปถ่ายในชีวิตที่เป็นธรรมชาติแท้ๆ ของพวกมันเท่านั้น? เคคูลี่ กล่าว

ตามความคิดของเคคูรี่สัตว์ป่าในเมืองไทยยังมีเหลืออยู่อีกมาก "แต่ลดน้อยลงถ้าคนไทยไม่ช่วยกันรักษา? เนื่องจากในปัจจุบันคนไทยกว่า 90% คิด ว่าสัตว์ป่าหมดไปแล้ว อีก 10% มองว่าเหลือน้อยเต็มที ดังนั้น Wildlife in the Kingdom of Thailand จะบอกให้รู้ว่า สัตว์ป่าในเมืองไทยมีมากน้อยแค่ไหนและจะรักษาได้อย่างไร

"ความหวังของผมคือการเพิ่มจิตสำนึกของคนไทยที่มีต่อสัตว์ป่า เพราะหนังสือเล่มนี้ช่วยให้คนมีความรู้ในเรื่องนี้มากขึ้น และอยากให้คนไทยหันมาช่วยกันอนุรักษ์สัตว์ป่าซึ่งถือว่าเป็นหน้าตาของเมืองไทยอย่างหนึ่ง?

Wildlife in the Kingdom of Thailand คือหนังสือที่บอกให้รู้ว่าเมืองไทยยังมีดีอยู่อีกมาก ทั้งพรรณพืชและสัตว์ป่าที่ได้ชื่อว่าสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และเคคูลี่กำลังจุดประกายในด้านการอนุรักษ์สัตว์ป่าผ่านภาพถ่าย ดังนั้นควรร่วมมือกันปกปักรักษาส่วนเสี้ยวที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดในปัจจุบันให้คงอยู่

ไม่ใช่เพื่อใครคนใดคนหนึ่ง แต่เพื่อทุกๆ คน



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.