หุ้นซึมยาวปัจจัยลบเพียบลุ้นเฟดลดด/บหนุนดัชนี


ผู้จัดการรายวัน(18 กันยายน 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

ตลาดหุ้นทั่วโลกยังไม่พ้นวิกฤตหลังปัญหาซับไพรม์ประทุที่อังกฤษ ประชาชนแห่ถอนเงินฝากเพียบ ขณะที่หุ้นไทยรูด 10 จุด เจอพิษ PTT ขึ้น XD วันแรกหุ้นร่วง 10 บาท วอลุ่มยังต่ำกว่าหมื่นล้าน นักลงทุนต่างชาติขายเพิ่มอีก 1 พันล้าน โบรกฯลุ้นเฟดลดดอกเบี้ยกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ ชี้ 3 ตลาดหุ้นใหญ่ "ดาวโจนส์-แนสแด็ก-S&P500" กำหนดทิศตลาดหุ้นทั่วโลก

ภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์วานนี้ (17 ก.ย.) โดยนักลงทุนทั้งในประเทศและนักลงทุนต่างชาติยังชะลอการลงทุนในตลาดหุ้นไทยเนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาสนับสนุนดัชนีทำให้เกือบตลอดทั้งวันดัชนีเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบ ประกอบกับการขึ้นเครื่องหมาย XD ของหุ้นบมจ.ปตท. ซึ่งมีมาร์เกตแคปสูงสุดในตลาดหุ้นไทย นอกจากนี้ปัญหาการปล่อยกู้อสังหาริมทรัพย์ด้อยคุณภาพ (ซับไพรม์)ที่ระอุมาอีกรอบทำให้ดัชนีปรับตัวลดลงมาปิดที่ 802.65 จุด ลดลง 9.30 จุด หรือ 1.15% โดยจุดสูงสุดของวันอยู่ที่ 812.05 จุด และจุดต่ำสุดอยู่ที่ 801.89 จุด มูลค่าการซื้อขาย 9,464.62 ล้านบาท

ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,086.59 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 521.18 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 1,607.76 ล้านบาท

สำหรับการซื้อขายหุ้นบมจ.ปตท. หรือ PTT ซึ่งประกาศขึ้นเครื่องหมายผู้ซื้อไม่มีสิทธิรับเงินปันผล (XD) ส่งผลทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงมาปิดที่ 314 บาท ลดลง 10 บาท หรือ 3.09% มูลค่าการซื้อขาย 1,360.59 ล้านบาท โดยมูลค่าการซื้อขายสูงถึง 14.37% ของมูลค่าการซื้อขายรวม

แหล่งข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์ กล่าวว่า การกลับมาสร้างปัญหาให้เกิดความกังวลต่อเศรษฐกิจโลกของซับไพรม์ยังถือว่าเป็นประเด็นที่นักลงทุนทั่วโลกค่อนข้างให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะก่อนหน้านี้ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับด้านอสังหาริมทรัพย์เชื่อว่าปัญหาดังกล่าวยังมีแนวโน้มที่จะสร้างผลกระทบที่รุนแรงขึ้นมาอีก

ทั้งนี้ แม้ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในตอนนี้จะจำกัดอยู่เพียงในสหรัฐอเมริกา รวมทั้งในยุโรป แต่มีความเป็นไปได้ที่ปัญหาดังกล่าวจะล่ามเข้ามาสร้างปัญหาในประเทศแถบเอเชีย ซึ่งแม้ว่าจะไม่ใช่ทางตรงแต่อาจจะเป็นผลกระทบในทางอ้อม เช่น การเทขายหุ้นออกมาอีกครั้งในตลาดหุ้นทั่วเอเชียเนื่องจากมีสภาพคล่องค่อนข้างสูง

สำหรับ สัญญาณเตือนที่ผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจให้จับตา คือ ตัวเลขผลกระทบที่สถาบันการเงินในสหรัฐจะเริ่มทยอยประกาศออกมาว่าจะมีสูงอย่างที่มีความกังวลมากน้อยเพียงใด โดยช่วงเดือนนี้ตัวเลขดังกล่าวจะเริ่มประกาศออกมาซึ่งหากผลกระทบมีมากตลาดหุ้นในสหรัฐทั้งดาวโจนส์, แนสแด็ก, S&P 500 จะสะท้อนออกมาอย่างชัดเจน โดยนักลงทุนต้องติดตามเนื่องจากตลาดหุ้นทั้ง 3 แห่งจะเป็นตัวกำหนดทิศทางของตลาดหุ้นทั่วโลกต่อไปอีกระยะ

ลุ้นผลเฟดลดดอกเบี้ย

นางวิริยา ลาภพรหมรัตน ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เกียรตินาคิน จำกัด กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวลดลง เนื่องจากตลาดหุ้นภูมิภาคที่ปรับตัวลดลงประมาณ 1-1.5% หลังจากที่ธนาคารต่างประเทศหลายแห่งมีการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าไปในระบบจำนวนมากเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง รวมถึงการที่หุ้น PTT ขึ้นเครื่องหมาย XD

ทั้งนี้มูลค่าการซื้อขายอยู่ในระดับที่มีการซื้อขายเบาบางจากนักลงทุนยังไม่มีการเพิ่มการลงทุน ประกอบกับนักลงทุนยังไม่กล้าที่จะขายหุ้นออกมา เพราะ ต้องการรอผลการประชุมขอเฟดที่จะประชุมปรับลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งหากเฟดมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดหมายที่จะปรับลด 0.5% ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวลดลง โดยคาดว่าดัชนีอาจจะปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 790-805 จุด

“ขณะนี้นักลงทุนยังไม่กล้าที่จะเข้ามาลงทุน ส่วนคนที่ต้องการขายก็ยังไม่ขายออกมาเพราะ รอผลการประชุมเฟด รวมถึงยังไม่มีปัจจัยบวกหรือลบที่ชัดเจนจึงทำให้มูลค่าการซื้อขายเบาบาง ซึ่งหากเฟดมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าที่คาดก็จะทำให้ตลาดหุ้นอ่อนตัวลงหลุด 800 จุด”นางวิริยา กล่าว

อย่างไรก็ตามบล.เกียรตินาคินประเมินตลาดหุ้นไทยยังคงมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลดลงเนื่องจากยังไม่มีปัจจัยบวกที่จะเข้ามากระตุ้นตลาดและหากปัจจัยบวกที่คาดว่าจะมีผลตลาดเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยไม่เป็นไปตามคาด ซึ่งบริษัทได้มีการแนะนำให้นักลงทุนมีการทยอยขายหุ้นออกมา โดยให้ถือเงินสัดประมาณ 75% ลงทุนหุ้นเพียง 25%

รอปัจจัยใหม่หนุนตลาด

นายอดิศักดิ์ คำมูล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.เคจีไอ กล่าวว่า นักลงทุนยังคงรอผลการประชุมของเฟด ขณะที่ผลจากที่ประเทศจีนได้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ได้รับผกระทบ ซึ่งส่งผลให้ตลาดหุ้นฮ่องกงมีการปรับตัวลดลง และจากการที่ปตท.มีการขึ้นเครื่องหมาย XD รวมถึงราคาน้ำมันมีการปรับตัวลดลงนั้นทำให้นักลงทุนมีการขายทำกำไรหุ้นออกมาก่อนรวมถึงหุ้นน้ำมันอื่นๆ ด้วย

“นักลงทุนส่วนใหญ่ยังอยู่นอกตลาดเพื่อรอปัจจัยใหม่ที่จะเข้ามาสนับสนุน และรอผลการประชุมของเฟด ซึ่งการที่เฟดจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยหรือไม่นั้นไม่น่าจะมีผลต่อดัชนีตลาดหุ้นมากนัก” นายอดิศักดิ์ กล่าว

สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ คาดว่าจะมีการปรับตัวลดลง มูลค่าการซื้อขายไม่มากนัก เพราะนักลงทุนยังไม่เข้ามาซื้อขาย โดยมองแนวรับที่ระดับ 795 จุด ซึ่งหากปรับลดลงกว่าแนวรับระดับดังกล่าวก็อาจปรับตัวลดลงได้ถึง 730 จุด ในช่วง 1-2 วันนี้ มองแนวต้นที่ระดับ 810 จุด

แนะเก็บหุ้นพื้นฐานเข้าพอร์ต

นายวรุฒน์ ศิวะศริยานนท์ รองกรรมการผู้จัดการ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า สาเหตุสำคัญที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงเป็นเพราะการขึ้นเครื่องหมาย XD ของหุ้น PTT ประกอบกับตลาดหุ้นทั่วเอเชียต่างกังวลหลังประชาชนจำนวนต่างแถ่ถอนเงินฝากจากแบงก์นอร์ทเธิร์น ร็อค ในประเทศอังกฤษเนื่องจากมีความกังวลเรื่องการปล่อยกู้ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่เริ่มรุนแรงมากขึ้น

ทั้งนี้ ปัจจัยที่นักลงทุนยังคงติดตามต่อเนื่องจากช่วงที่ผ่านมา คือ การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จากที่เคยคาดการณ์ว่าเฟดน่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในระดับ 0.50% แต่หลังจากที่นายอลัน กรีนสแปน อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ ออกมาเตือนว่าอาจจะทำให้เศรษฐกิจของสหรัฐเข้าสู่ภาวะความเสี่ยงที่เงินเฟ้อมากเกินไป ซึ่งสุดท้ายอาจจะทำให้เฟดไม่กล้าที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยสูงอย่างที่เคยคาดการณ์

สำหรับแนวโน้มการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยวันนี้ ดัชนีอาจจะปรับตัวขึ้นมาได้เล็กน้อย แต่คงต้องรอผลการประชุมของเฟดอีกครั้งว่าจะสรุปออกมาอย่างไร โดยแนะนำให้นักลงทุนซื้อหุ้นที่มีพื้นฐานดีที่ราคาปรับตัวลดลง เช่น กลุ่มธนาคารพาณิชย์ พลังงาน


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.