|
ล็อกซ์เล่ย์สู้โมเดิร์นเทรดผุดคีออสก์เปิดช่องทางเอง
ผู้จัดการรายวัน(12 กันยายน 2550)
กลับสู่หน้าหลัก
ล็อกซเล่ย์ สร้างช่องทางจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค สกัดโมเดิร์นเทรดโขกค่าธรรมเนียมกำไรหด ผุดคีออส-แฟรนไชส์คล้ายเซเว่นฯ นำร่องสิ้นปีนี้ 100 แห่ง ปรับโครงสร้างบริษัท แตกธุรกิจขายตรงแอลไดเร็คเสริมทัพ กวาดทะลุ 1 หมื่นล้านบาท
นายสุรพันธ์ ภาษิตนิรันดร์ กรรมการผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯวางแผนขยายช่องทางกระจายสินค้าอุปโภคบริโภคในรูปแบบใหม่คีออสก์ โดยอาศัยเครือข่ายที่มีอยู่ร่วมล้านเครือข่าย ทั้งจากโรงงานเคมี หวยออนไลน์ร่วม 8,000 แห่ง เป็นต้น เป็นจุดจำหน่าย จะเริ่มดำเนินการคีออสในร้านกาแฟ จำหน่ายขนมขบเคี้ยวและนมนำร่องในอีก 2 เดือนข้างหน้านี้ สิ้นปีนี้คาดว่าจะเปิดได้ 100 แห่ง และจะรุกเข้ามหาวิทยาลัย และหากมีความพร้อมบริษัทฯจะเปิดขายแฟรนไชส์คล้ายร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น ในสิ้นปีนี้
การขยายช่องทางดังกล่าว เนื่องจากโมเดิร์นเทรดเรียกเก็บค่าธรรมเนียมต่างๆที่สูงขึ้น ทำให้เจ้าของสินค้าไม่ได้กำไรจากช่องทางดังกล่าวเท่าที่ควร ซึ่งหากแบรนด์ใดมีสายป่านไม่ยาวก็ไม่สามารถดำเนินการได้ โดยขณะนี้สินค้าอาทิ นมหนองโพ และน้ำมันพืชกุ๊ก กระจายสินค้าให้กับโมเดิร์นเทรดในสัดส่วน 30% เท่านั้น อีกทั้งโมเดิร์นเทรดยังผลิตสินค้าเฮาส์แบรนด์ขึ้นมาจำหน่ายแข่งขันมากขึ้น ดังนั้นบริษัทฯจึงหันมาสร้างช่องทางจำหน่ายที่เป็นของตนเองมากกว่า
สำหรับธุรกิจจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค เป็นเรือธงที่สร้างรายได้หลักให้กับบริษัทฯถึงสัดส่วน 35% หรือคิดเป็นรายได้ในสิ้นปีนี้ 5,000 ล้านบาท มีการเติบโต 15-20% ในช่วงที่ผ่านมามีรายได้ 8 เดือนที่ผ่านมีรายได้ 3,000 ล้านบาท คาดว่าการเปิดช่องทางกระจายสินค้าใหม่จะผลักดันให้กลุ่มธุรกิจนี้มีการเติบโตเพิ่มขึ้น จากในสิ้นปีบริษัทฯตั้งเป้าหมายรายได้รวมเกิน 1 หมื่นล้านบาท เติบโตเกิน 10%
ปรับโครงสร้างธุรกิจดึงขายตรงเสริม
นายสุรพันธ์ กล่าวว่า ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา บริษัทฯปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ จากเดิมแบ่งเป็น 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ กลุ่มสื่อสาร กลุ่มกระจายสินค้า และกลุ่มบริการ มาเป็น 5 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ กลุ่มการสื่อสาร ธุรกิจโครงการโครงสร้างพื้นฐาน กลุ่มบริการ กลุ่มธุรกิจร่วมทุน และกลุ่มการค้า แบ่งเป็น กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค เคมีภัณฑ์ สินค้าก่อสร้าง ธุรกิจต่างประเทศ อะไหล่รถยนต์ โดยได้แตกธุรกิจขายตรงมาเสริมในกลุ่มการค้า จัดตั้งบริษัท แอลไดเร็ค จำกัด ทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท คาดว่าอีก 3 ปี ธุรกิจขายตรงจะสร้างรายได้คิดเป็น 15% ของรายได้รวม
ที่ผ่านมาบริษัทฯมีเครือข่ายครอบคลุมทั่วประเทศ อาทิ ตัวแทนจำหน่าย กลุ่มค้าปลีก แต่ยังไม่มีเครือข่ายที่เป็นผู้บริโภค ดังนั้นจึงได้แตกธุรกิจขายตรง เนื่องจากมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี โดยปีนี้คาดว่าจะโต 15-20% จากมูลค่า 5 หมื่นล้านบาท ตั้งเป้าภายใน 3-5 ปี จะมีเครือข่ายครอบคลุมทั่วประเทศ ส่วนเป้าหมายใน 5 ปีจะขึ้นเป็ฯอันดับ 5 ของธุรกิจขายตรง จากปัจจุบัน แอมเวย์ เป็นผู้นำตลาด กิฟฟารีน มิสทิน นูสกิน อันดับ 5 ไล่เลี่ยกันหลายแบรนด์ ส่วน 3-5 ปี หวังมีส่วนแบ่ง 2% และอีก 7-8 ปี เพิ่มเป็น 10%
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|