พานาโซนิคฝ่าด่านคู่แข่งปรับอิมเมจจับวัยโจ๋ดึงแชร์

พานาโซนิคฝ่าด่านคู่แข่งปรับอิมเมจจับวัยโจ๋ดึงแชร์

ผู้จัดการรายวัน(11 กันยายน 2550)

กลับสู่หน้าหลัก

พานาโซนิค วางเป้าหมายยาวถึงปี 2009 ซีอีโอลั่นต้องขึ้นเป็นผู้นำหรืออันดับต้นในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ เปิดเป้าหมายแชร์ตลาดแต่ละกลุ่ม ยันลงทุนต่อเนื่อง ชูกลยุทธ์ปรับภาพลักษณ์แบรนด์ รวมทั้งสินค้า ขยายฐานสู่กลุ่มวัยรุ่นมากขึ้น

นายไดโซ อิโตะ ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท พานาโซนิคในประเทศไทย เปิดเผยว่า พานาโซนิควางเป้าหมายการดำเนินงานในไทยในช่วงปีงบประมาณ 2009 (เดือนเมษายน 2009 – มีนาคม 2010 ) ผลิตภัณฑ์ของพานาโซนิคมทุกกลุ่มจะต้องขึ้นเป็นผู้นำตลาดหรืออย่างน้อยเป็นอันดับต้นๆให้ได้ เช่น 1.ทีวีพลาสม่า เป้าหมายแชร์ตลาด 80% 2.ทีวีแอลซีดี เป้าหมายส่วนแบ่ง 30% และ 3. เครื่องปรับอากาศ เป้าหมายส่วนแบ่ง 30%

จากปัจจุบันที่ผลิตภัณฑ์ของพานาโซนิคหลายกลุ่มก็เป็นผู้นำหรือไม่ก็มีส่วนแบ่งตลาดมากอยู่แล้ว โดยภายในปี 2007 นี้ (สิ้นสุดเดือนมีนาคม 2008) ตั้งเป้าหมายแต่ละกลุ่มไว้ดังนี้คือ ทีวีจอแบน แชร์ 20%, ทีวีพลาสม่า แชร์ 35%, ทีวีแอลซีดี แชร์ 20%, กล้องลูมิกซ์ แชร์ 15%, กล้องวิดีโอ 25%, ถ่านไฟฉาย 81% , แอร์ 21%, ตู้เย็น 22%, เครื่องซักผ้า 16% ซึ่งสินค้าที่ทำรายได้หลักคือ ทีวีพลาสม่าและแอลซีดี, ถ่านไฟฉาย, แอร์, ตู้เย็น และกล้อง

นอกจากนั้นบริษัทฯยังอยู่ระหว่างเตรียมลงทุนโครงการต่อเนื่องอีกหลายโครงการ ส่วนโครงการที่ดำเนินการการปีนี้คือ การขยายกำลังการผลิตเครื่องเสียงติดรถยนต์และมอเตอร์ ส่วนในครึ่งปีหลังปีหน้ามีแผนจะลงทุนอีก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับทางบีโอไอ เพื่อขอรับสิทธิส่งเสริมการลงทุนบางประการ

รวมไปถึงแผนการปรับภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์พานาโซนิคใหม่ ให้มีความเป็นแฟชั่นและมีสีสันรวมทั้งขยายฐานไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ วัยรุ่น มากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมา แบรนด์ พานาโซนิคมักจะถูกมองว่าเป็นแบรนด์สำหรับผู้ใหญ่เป็นหลัก ทั้งๆที่จริงแล้วพานาโซนิคมีสินค้าที่ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย

กลยุทธ์ที่จะนำมาใช้ขึ้นอยู่กับตัวผลิตภัณฑ์เช่น กล้องดิจิตอล จะมีการออกรุ่นใหม่ เน้นฟังค์ชั่นการใช้งานให้เหมาะสมกับคนไทย เน้นโมเดลและความเป็นมืออาชีพมากขึ้น ตอกย้ำการสร้างแบรนด์ ลูมิกซ์ ส่วนตลาดทีวีพลาสม่า ทีวีแอลซีดีก็จะมีการออกแบบสินค้าให้มีสีสันมีลูกเล่นไลฟ์สไตล์มากขึ้น

โดยในเดือนหน้าจะใช้งบประมาณ 80 ล้านบาท เปิดตัวกล้องดิจิตอลใหม่ 3 รุ่น เช่น เอฟเอ็กซ์ 33 เอฟเอ็กซ์ 55 ซึ่งมีระบบโหมดอัจฉริยะเป็นเทคโนโลยีพิเศษรายแรก และจะเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ใหม่ รวมทั้งจะทำราคาให้สามารถแข่งขันในตลาดและสร้างอัตราการเติบโตได้ด้วย ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกของปีงบประมาณพานาโซนิค ยอดขายกล้องดิจิตอลลูมิกซ์เติบโตขึ้น 10%

"ปีนี้ (เม.ย. 07 – มี.ค. 08) ตั้งเป้าหมายยอดขายในไทยไว้ที่ 70,000 ล้านบาท (จากทั้งหมด 23 บริษัทในเครือในไทย) เพิ่มจากปีงบประมาณปีที่แล้ว (เม.ย. 06-มี.ค. 07) ที่มียอดขาย 63,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้พานาโซนิคในประเทศไทย หากมองในตลาดอาเซียนแล้ว ไทยเป็นรองเพียงแค่ พานาโซนิคมาเลเซียเท่านั้น แต่มีเป้าหมายว่า ภายในปี 2009 จะต้องแซงหน้ามาเลเชียเพื่อให้ไทยขึ้นเป็นที่หนึ่งในอาเซียนทั้งในแง่ยอดขายและการผลิต" นายไดโซกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงนเพิ่มเติมว่า ในตลาดทีวีพลาสม่าและกล้องดิจิตอลนั้นถือเป็นตลาดที่แข่งขันสูงอย่างมาก โดยคู่แข่งหลักในตลาดพลาสม่าคือ ซัมซุงและแอลจี ก็มีการงัดกลยุทธ์มาทำตลาดทั้งราคาและโปรโมชั่นและเทคโนโลยี ขณะเดียวกัน ตลาดกล้องดิจิตอลนั้น รายใหญ่ในตลาดคือ โซนี่ ก็ล้วนมีความแข็งแกร่ง ดังนั้น คงไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่พานาโซนิคจะเก็บส่วนแบ่งตลาดได้อย่างง่ายดาย จึงน่าจับตาจากนี้ไปว่า สงครามตลาดจากรายใหญ่คงต้องรุนแรงแน่นอน

กลับสู่หน้าหลัก

ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย