ค้าปลีกส่งแคมเปญดันยอดโค้งท้ายเดอะมอลล์-โรบินสันชิงกำลังซื้อ


ผู้จัดการรายวัน(4 กันยายน 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

ค้าปลีกระเบิดแคมเปญช่วงชิงกำลังซื้อฟื้น รับปัจจัยบวกเลือกตั้งส่งท้ายปลายปี "เดอะมอลล์" อิงกระแสกีฬาทั้งในและต่างประเทศบูม ผุดแคมเปญ "สปอร์ต ฮีโร่" ทุ่ม 40 ล้านบาท เพิ่มพื้นที่ขายอุปกรณ์กีฬากอล์ฟ ดันสปอร์ต มอลล์ โตขึ้น 15% หรือกว่า 1,800 ล้านบาท "โรบินสัน"อัดแคมเปญ"มายด์ รองเจอเรย์" สร้างสีสันแฟชันชุดชั้นในหญิง หวังกระตุ้นกำลังซื้อคืนโกยยอดขายโต 20%

ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมานี้ ค้าปลีกเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยลง สังเกตุได้จากผู้ประกอบการศูนย์การค้าทุกค่ายอัดโปรโมชันอย่างหนัก โดยเฉพาะกลุ่มเสื้อผ้าจากเดิมลด 50% เป็นลดถึง 70% อีกทั้งการจัดรายการยังมีระยะเวลานานมากขึ้น จากเดิมจะจัดเฉพาะช่วงต้นเดือนเท่านั้น โดยล่าสุดห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ และโรบินสันต่างเปิดตัวแคมเปญที่แตกต่างกัน เพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วง 4 เดือนที่เหลือนี้ ซึ่งเป็นโค้งสุดท้ายสำหรับปีนี้แล้ว ที่เริ่มจะมีปัจจัยบวกในเรื่องของการเลือกตั้ง สร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคออกมาจับจ่ายใช้สอย

เดอะมอลล์ขอโตจากกระแสกีฬา

นายสฤษดิพงษ์ รัตนาพต ผู้อำนวยการใหญ่ อาวุโสสายบริหารสินค้า A1 บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯมีแผนทำตลาดโดยมุ่งเน้นในเรื่องของกีฬาเป็นหลัก ซึ่งได้เตรียมจัดแคมเปญ "สปอร์ต ฮีโร่"ขึ้น ตั้งแต่ช่วงปลายปีนี้เป็นต้นไป เพื่อกระตุ้นให้คนไทยได้เห็นถึงความสามารถของคนไทยด้วยกันในเรื่องของกีฬาว่าเราไม่แพ้ชาติใดในโลก นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะส่งเสริมกลุ่มเยาวชนเป็นหลัก โดยจะมีการก่อตั้งทีม "กอล์ฟ จูเนียร์" ขึ้น เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนเหล่านี้ได้ไปแข่งขันในระดับโลกต่อไป รวมทั้งมีแผนส่งเสริมกีฬาประเภทอื่นด้วย อาทิ วอลเล่ย์บอล และแบดมิตัน

"1-2 ปีจากนี้ บริษัทฯจะให้ความสำคัญกับกีฬามากขึ้น โดยจะนำแคมเปญ สปอร์ต ฮีโร่ มาใช้เพื่อกระตุ้นให้คนไทยได้เห็นถึงความสามารถของคนไทยในเรื่องกีฬา ที่ไม่แพ้ชาติใดในโลก ประกอบกับปลายปีนี้ไปจนถึงปีหน้า ถือเป็นช่วงที่มีการแข่งขันกีฬาในหลายรายการ ทั้ง ซีเกมส์, ฟุตบอล ยูโร และโอลิมปิก จึงมองว่า สปอร์ต ฮีโร่ จะช่วยในเรื่องการทำตลาดได้อีกทางหนึ่ง"

ทั้งนี้สำหรับการแข่งขันซีเกมส์ที่จะมาถึง บริษัทฯได้เตรียมจัดกิจกรรมหลายรายการ และการตกแต่งภายในห้างฯรองรับไว้แล้ว ที่ สาขา เดอะมอลล์ นครราชสีมา และสาขาในกรุงเทพ ที่จะมีการตกแต่งบรรยากาศการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ร่วมด้วย เบื้องต้นคาดว่าจะใช้งบตกแต่งทั้งหมดประมาณ 5 ล้านบาท (ไม่รวมงบการจัดกิจกรรม)

ล่าสุดในแผนกกีฬาสปอร์ตมอลล์ที่เอ็มโพเรียม ได้จัดงบ 40 ล้านบาท ขยายพื้นที่โซนกอล์ฟขึ้น อีก 200 ตารางเมตร เป็นโซน Asian Spec Zone ซึ่งรวมอุปกรณ์กีฬากอล์ฟที่ผลิตจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อคนเอเชียโดยเฉพาะมาจำหน่ายกว่า 20 แบรนด์ โดยในช่วงปลายปีจะเริ่มทยอยเพิ่มพื้นที่ในสาขาอื่นๆ เช่นเดียวกัน เริ่มจาก สาขางามวงศ์วาน

ทั้งนี้เชื่อมั่นว่าการเพิ่มโซนดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นให้กลุ่มแผนกกีฬาปีนี้เติบโตตามเป้าที่ 10-15% คิดเป็นมูลค่ากว่า 1,800 ล้านบาท เนื่องจากอุปกรณ์กีฬากอล์ฟ เป็นกลุ่มสินค้าที่มีอัตราการเติบโตมากที่สุดในแผนกกีฬา โดยครึ่งปีที่ผ่านมาโตขึ้นกว่า 40% คิดเป็นมูลค่า 300 ล้านบาท เทียบจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว

โรบินสันพึ่งชุดชั้นในกระตุ้นยอด

นางอุสรา ยงปิยะกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการตลาด บริษัท ห้างสรรรพสินค้าโรบินสัน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปีนี้สภาพตลาดชุดชั้นโดยรวมคาดว่าจะมีการเติบโตได้อยู่แต่อาจน้อยกว่าปีที่ผ่านๆมา สาเหตุเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจการเมือง ส่งผลให้กลุ่มลูกค้าระมัดระวังการใช้จ่ายน้อยลง ดังนั้นบริษัทฯได้เล็งเห็นช่องทางการทำตลาดเพื่อดึงกำลังซื้อกลุ่มลูกค้าคืนมา ด้วยการจัดแคมเปญ "มายด์ รองเจอเรย์"(My Lingeric) คอนเซปต์อินเนอร์ บิวตี้ "เสน่ห์หญิง...ต้องเซ็กซี่จากภายใน โดยใช้งบ 4-5 ล้านบาท เพื่อดึงดูดกำลังซื้อลูกค้า

สำหรับรายละเอียดแคมเปญมีสินค้ากว่า 11 แบรนด์ ชูคอนเซปต์ 3 เอฟ ได้แก่ เอฟแรก คือ แฟชันของชุดชั่นในในปัจจุบัน 2.ฟังก์ชัน การตัดเย็บที่หลากหลายสไตล์สามารถปรับเปลี่ยนและเลือกใช้ให้เหมาะสมกับการแต่งตัว 3. การเลือกชุดชั้นในให้เหมาะสมกับสรีระ ได้มากที่สุด ซึ่งที่ผ่านมาผู้หญิงกว่า 80% ใส่เสื้อชั้นในผิดขนาด และเลือกชุดชั้นในที่ไม่ถูกต้อง นอกจากนี้เมื่อลูกค้าซื้อชิ้นที่ 3 ขึ้นไปจะได้รับส่วนลดสูงถึง 50% ซึ่งแคมเปญจะมีการจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6 ถึงวันที่ 16 กันยายน 2550

การจัดแคมเปญในแต่ละช่วงบริษัทฯ ต้องอาศัยจังหวะและเวลาให้เหมาะสม ซึ่งการจัดแคมเปญ มายด์ รองเจอเรย์ จะสอดรับกับสถานการณ์ได้ดีที่สุด เนื่องจากกลุ่มชุดชั้นในสตรีของโรบินสัน มีการเติบโตได้ดีอยู่ เทรนด์ชุดชั้นในแฟชันมาแรงมาก เมื่อดูจากช่วงไตรมาส 1และ 2 เฉลี่ยการซื้อ 3-4 ชิ้นต่อครั้ง อัตราค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 1,000บาทต่อบิล ส่วนใหญ่กำลังซื้อกลุ่มลูกค้าช่วงอายุ 17 -25 ปี จะเป็นกลุ่มที่ซื้อสินค้ามากที่สุด รายได้จากคนในกลุ่มนี้มีถึง 30-35% เฉลี่ย"

"แคมเปญนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นการกระตุ้นกำลังซื้อช่วงฟ้าหลังฝน กล่าวคือ สถานการณ์ทางการเมืองเริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น ภายหลังจากมีมติเสียงส่วนใหญ่รับร่างรัฐธรรนูญ ส่งผลให้อาจมีการเลือกตั้งในระยะเวลาอันใกล้นี้ เช่นเดียวกันเชื่อว่ากำลังซื้อลูกค้าคาดว่าจะกลับมาดีเช่นเคย แคมเปญดังกล่าวเชื่อว่าจะสามารถกระตุ้นยอดขายเพิ่มขึ้นได้อีกประมาณ 20% หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 50 ล้านบาทได้อย่างแน่นอน"นางอุสรา กล่าวว่า


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.