ไทยเบฟฯขึ้นราคา10บ.


ผู้จัดการรายวัน(31 สิงหาคม 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

ไทยเบฟฯ โร่แจ้งยี่ปั๊ว-ซาปั๊วขึ้นราคาเหล้าขาว 10 บาทต่อขวด ค่ายสิงห์ออกโรงจวก ขึ้นราคาแล้วยังขายพ่วงเบียร์อาชา โอกาสเบียร์อาชาถูกลงมีสูงจากปัจจุบันขาย 4-5 ขวด 100 บาท คอเหล้าขาวแห่ดื่มทดแทนมีสูง สั่งทีมตลาดรับมืออัดกิจกรรมเบียร์ลีโอฯ คลุมพื้นที่ ระบุขึ้น 10 บาท กระทบกำลังซื้อรากหญ้าเมื่อซื้อเป็นขวด ส่วนชนิดเปกไม่สะเทือน จับตาชี้ขาดห้าม-ไม่ห้ามโฆษณาเหล้า 24 ชม. 31 ส.ค. นี้ สนช.เชื่อส่ง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าสภาภายในเดือน ก.ย. นี้ 200 องค์กรต้านเหล้า แฉส่อเค้าแท้ง เหตุสนช.นอมินีบริษัทเหล้า ต้านสุดตัว ชวน 13 ล้านเสียง แสดงพลังหน้าสภา ชูรัฐขึ้นภาษีลดคนดื่ม แล้วสนช. ค้านห้ามโฆษณาเพื่อใคร

ตัวแทนจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เปิดเผยกับ “ผู้จัดการรายวัน” ว่า ภายหลังจากที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้การปรับภาษีเหล้าขาวขึ้น บริษัทไทยเบฟฯ ยักษ์ใหญ่วงการเหล้าขาวได้แจ้งให้กับทางเอเยนหรือตัวแทนจำหน่ายเหล้าขาวได้รับทราบตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม ที่ผ่านมานี้ ว่าราคาจะปรับขึ้นตั้งแต่ 10-12 บาทต่อ 1 ขวด โดยขณะนี้บรรดาตัวแทนจำหน่ายสต็อกสินค้าเป็นจำนวนมากเพื่อเก็งกำไร อย่างไรก็ตามสำหรับตนเองมีความกังวลค่อนข้างสูง เนื่องจากสินค้าปรับราคาเพิ่มขึ้น เกรงว่ายอดขายจะลดลง

สิงห์จวกขึ้นราคาแล้วยังขายพ่วง

นายฉัตรชัย วิรัตน์โยสินทร์ ผู้อำนวยการสายการตลาด บริษัท สิงห์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเบียร์สิงห์ ลีโอ ไทเบียร์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับแจ้งจากทีมการตลาดของบริษัทเช่นกันว่า บริษัทไทยเบฟฯ ได้ปรับราคาเหล้าขาวขึ้น 10 บาท ต่อ 1 ขวด โดยใช้กลยุทธ์ขายพ่วงคือหนึ่งต่อหนึ่ง หมายถึง เมื่อซื้อเหล้าขาวในราคาใหม่ 1 ชุด จะต้องซื้อเบียร์อาชา 1 ชุด

ทั้งนี้จากกลยุทธ์ดังกล่าวจะมีผลให้เบียร์อาชาถูกขึ้นมากกว่านี้ จากขนาด 640 มล.ขาย 25 บาท หรือขาย 4-5 ขวด 100 บาท อีกทั้งคอผู้ดื่มเหล้าขาวมีโอกาสจะหันมาดื่มเบียร์อาชาทดแทนเหล้าขาวเพิ่มขึ้นด้วย เนื่องจากราคาถูก ทำให้โอกาสที่เบียร์อาชาจะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นมีสูงมาก ซึ่งจากในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาอาชามีอัตราการเติบโต 18% เบียร์ช้างติดลบ 14% และลีโอติดลบ 2%

ขณะนี้เกิดเหตุการณ์ที่ยี่ปั๊ว-ซาปั๊วเริ่มไม่ขายสินค้าเพื่อรอเก็งกำไร อย่างไรก็ตามการปรับราคาขึ้นนับว่าเป็นการผลักภาระให้กับยี่ปั๊ว-ซาปั๊วทันที ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบว่ายี่ปั๊วจะจำหน่ายในราคาปลีกเท่าใด ถ้าปรับในสัดส่วนที่มากเท่ากับเป็นการผลักดันภาระให้กับผู้บริโภคอีกต่อหนึ่ง

“บริษัทได้สั่งให้ทีมการตลาดลงพื้นที่ และดำเนินกิจกรรมการตลาดเสริม เพื่อตอกย้ำแบรนด์และไม่เปิดโอกาสให้คู่แข่งช่วงชิงพื้นที่ทางการตลาดที่สำคัญไปได้“

สำหรับผู้ที่ดื่มเหล้าขาวโดยมากจะเป็นกลุ่มระดับรากหญ้า ซึ่งปีนี้ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย ทำให้กำลังการซื้อไม่ค่อยดีมากนัก การขึ้นราคา 10 บาท ถ้าพฤติกรรมการดื่มหากดื่มในรูปแบบเปก ผู้ดื่มอาจะไม่รู้สึกว่าแพงมากอย่างน้อยเพิ่ม 1 บาท ซึ่งก็เท่ากับว่าไม่มีทำให้ผู้บริโภคดื่มลดลง แต่ถ้ามีการซื้อในรูปแบบขวด จะทำให้ผู้ดื่มรู้สึกว่าสินค้าแพงขึ้นแต่ก็ไม่ได้แพงมากเมื่อเทียบกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตัวอื่นๆ ก็ยังถือว่าเหล้าขาวถูกอยู่มาก

จับตาชี้ขาดห้ามโฆษณาเหล้า 24 ชม.วันนี้ จับตาห้าม-ไมห้ามโฆษณาเหล้า

นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ รักษาการผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) กล่าวว่า การพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีความคืบหน้าไปมาก แต่ในวันที่ 31 ส.ค. นี้ จะพิจารณาประเด็นสำคัญ ซึ่งเป็นหัวใจของร่าง พ.ร.บ. คือ มาตรา 31 ที่ว่าด้วยเรื่องการห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสื่อวิทยุ โทรทัศน์ ในทุกรูปแบบตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงมาตรา 32 ที่ห้ามนำตราสินค้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปติดในสินค้าอื่นๆ อาทิ ร่ม หมวก แก้วน้ำ

“ร่าง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีการพิจารณาไปแล้ว 15 ครั้ง ถ้าหารือกันในประเด็นสำคัญเรื่องห้ามโฆษณาแล้วเสร็จ จากนั้นจะมาเก็บตกในส่วนที่ผู้ร่วมประชุม ยังเห็นต่างกันอยู่ ซึ่งมีเล็กน้อย จึงคาดว่าการพิจารณาจะเสร็จสิ้นภายในเดือน ก.ย. นี้ และจะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมสภา เพื่อบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป”น.พ.ณรงค์ กล่าว

ด้านนายสงกรานต์ ภาคโชคดี เครือข่ายองค์กรงดเหล้า กล่าวว่า ขณะนี้มีสัญญาณบางอย่างว่ากลุ่มนายทุนผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กำลังจะชนะพลังประชาชน อยู่เหนือความเจ็บปวดสูญเสียจากพิษภัยของเหล้า มาตรการห้ามโฆษณาเหล้าทุกสื่อทุกรูปแบบ จะถูกล้มเลิกในการพิจารณาของคณะกรรมาธิการ เพราะสมาชิกสภานิติบัญญัติบางกลุ่มในคณะกรรมาธิการฯ กระทำตนเป็นตัวแทนของกลุ่มธุรกิจ ตั้งหน้าตั้งตาคัดค้านมาตรการนี้มาตลอด แต่เครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ เครือข่ายองค์กรงดเหล้า และองค์กรภาคีสนับสนุนอีกกว่า 200 องค์กร จะขอยืนหยัดในเจตนารมณ์เดิมจนถึงที่สุด

“ในวันที่ 31 ส.ค. นี้ เวลา 13.30 น. จึงขอเชิญชวนประชาชนไทย 13 ล้านเสียงที่ลงนามสนับสนุน ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ไปแสดงพลังที่หน้ารัฐสภา เพื่อให้ สนช. ที่เป็นกรรมาธิการทุกคนรับรู้ และอยากจะฝากไปบอกว่า รัฐบาลขึ้นภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อหวังให้คนไทยบริโภคสุราลดลง ถึงแม้ว่าจะอาจไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความพยายาม แล้ว สนช. ในฐานะที่เป็นตัวแทนประชาชน คิดที่จะทำอะไร เพื่อปกป้องเยาวชนไทยไม่ให้เป็นนักดื่มหน้าใหม่หรือไม่ หรือจะยืนอยู่ข้างบริษัทเหล้าจนนาทีสุดท้าย”นายสงกรานต์ กล่าว


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.