US Corporation

โดย วิรัตน์ แสงทองคำ
นิตยสารผู้จัดการ( พฤษภาคม 2546)



กลับสู่หน้าหลัก

จากนี้ไปบทเรียนพัฒนาการของบริษัทอเมริกัน ซึ่งถือเป็นแม่บทของการบริหารธุรกิจทั่วโลก จะถูกจับตามองในหลายมิติมากขึ้น

ระดับบริษัท เจ้าของ และผู้บริหารธุรกิจที่เคยศึกษาบทเรียนจากบริษัทอเมริกันในด้านดีอย่างเดียว คงต้องศึกษาด้านไม่ดีด้วย ขณะเดียวในการบริหารระดับชาติ ซึ่งอิทธิพลการบริหารแบบอเมริกันมีอิทธิพลต่อการบริหารลักษณะนี้มากขึ้น มิใช่เพียงอิทธิพลความคิดของ Peter Drucker ที่บอกว่าศาสตร์การบริหารใช้ได้ไม่จำกัดเฉพาะธุรกิจเท่านั้น หากเป็นพัฒนาการธุรกิจในระดับชาติในโลก เริ่มเข้าไปมีอิทธิพลระดับชาติมากขึ้นๆ จนทำให้ชาติกลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบธุรกิจโลกไปแล้ว

กรณีบริษัทไอบีเอ็มประเทศไทย ในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา ชี้ให้เห็นพัฒนาการของบริษัทอเมริกัน ที่พยายามมีอิทธิพลในต่างประเทศอย่างน่าสนใจในบางมิติ

ในช่วงต้น ยาวนานประมาณ 30 ปี บริษัทไอบีเอ็มบริหารโดยคนอเมริกัน อันเป็นช่วงความรู้ด้านเทคโนโลยียังไม่กระจายสู่สังคมไทย รวมทั้งศาสตร์ของการบริหารยังไม่พัฒนาการควบคุมการบริหารข้ามพรมแดน โดยอาศัยเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพเท่ากับในช่วง 10 กว่าปีมานี้

ที่สำคัญในช่วงนั้นกิจการในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นรัฐหรือเอกชน ที่สนใจใช้สินค้าไอบีเอ็ม ส่วนใหญ่ได้รับอิทธิพลมาจากเงินช่วยเหลือหรือเงินกู้จากองค์การระหว่างประเทศ ที่สหรัฐอเมริกามีอิทธิพล ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานสถิติแห่งชาติ จุฬา ลงกรณ์มหาวิทยาลัย หรือแม้แต่ปูนซิเมนต์ไทย ที่เริ่มใช้ไอบีเอ็มอย่างเป็นล่ำเป็นสันก็หลังจากกู้เงินจากธนาคารโลก ที่มาพร้อมกับแรงกดดันให้ปรับปรุง มาตรฐานระบบบัญชีนั่นเอง

จากนั้นเมื่อตลาดเปิดกว้างมากขึ้น เริ่มต้นจากหน่วยงานรัฐ และองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีอิทธิพลในสังคมไทย อาทิ ธนาคาร ไอบีเอ็มจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงความคิดใช้คนไทยที่มีฐานะทางสังคม พวกเขามีสายสัมพันธ์ที่ดีกับชนชั้นนำในสังคม ไทยที่ว่านั้นคือ ยุคของสมภพ อมาตยกุล, ชาญชัย จารุวัสตร์ และช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อมาสู่ วนารักษ์ เอกชัย ก้าวขึ้นเป็นผู้จัดการใหญ่ ไอบีเอ็ม

พวกเขาจึงได้ชื่อว่าเป็นผู้บริหารมืออาชีพคนไทยที่ทำงานกับบริษัทระดับโลก เป็นยุคเติบโตช่วงสำคัญช่วงหนึ่งของลูกจ้างในสังคมไทย

จากนั้นมา เมื่อเข้าสู่การบริหารเพื่อเน้นประสิทธิภาพมากขึ้น เข้าสู่ตลาดฐานกว้างมากขึ้น ไอบีเอ็มปรับความคิดทางยุทธศาสตร์อีกครั้ง ในการ ใช้คนที่ถูกฝึกมาอย่างดีให้ทุ่มเททำงานให้ไอบีเอ็ม ซึ่งนับว่าเป็นศาสตร์ของการบริหารอย่างหนึ่งของบริษัทอเมริกัน ก็คือศาสตร์การใช้คน ฝึกคน และประเมินผลงาน (ด้วยเครื่องมือการบริหารที่ทรงประสิทธิภาพ) ให้ทำงานกับบริษัทอย่างมีเป้าหมาย มีกระบวนการทำงานที่เข้มข้นอย่างยิ่ง

ทรงธรรม เพียรพัฒนาวิทย์ และศุภจี สุธรรม พันธุ์ คือสองคนสุดท้ายที่มาจากกระบวนการพัฒนา ไอบีเอ็มในประเทศไทย

ส่วนภาพกว้างของไอบีเอ็มระดับโลกนั้น ในช่วง 2-3 ปีมานี้ ก็คือการปรับตัวตามยุทธศาสตร์ของ บริษัทอเมริกัน ภายใต้การสนับสนุนของยุทธศาสตร์ ของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาที่มีความชัดเจนอย่างยิ่ง มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับบริษัทอเมริกันที่มีอิทธิพลในระดับโลก

และดูเหมือนวงจรของบริษัทอเมริกันที่เติบโตตามแรงหวี่ยงของระบบเศรษฐกิจโลก ที่สัมพันธ์กับกิจการที่เป็นไปตามธรรมชาติของทุนนิยม เสรี จะเดินมาถึงจุดสำคัญ คล้ายๆ กับจุดเริ่มต้นของไอบีเอ็มที่เข้าเมืองไทยด้วยแรงขับดันทางยุทธศาสตร์ของอิทธิพลอเมริกัน

- วิกฤติเศรษฐกิจของภูมิภาคนี้ ได้รับผลกระทบจากการปรับสมดุลของเศรษฐกิจโลกที่มีระบบเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ใหญ่ที่สุดเป็นศูนย์กลาง จะด้วยสาเหตุใด ผมไม่ประสงค์จะอรรถาธิบายในบทความนี้ แต่ที่สำคัญผู้มีบทบาทและได้ประโยชน์ในกระบวนแก้ปัญหานั้น มีบริษัทอเมริกันเป็นแกนในการรุกของการลงทุนที่ต้นทุนถูกลง การได้เป็นที่ปรึกษาในรูปแบบต่างๆ ในการแก้ปัญหาตามวิธีคิดของพวกเขาที่ผ่านองค์การนานาชาติ ระบบธนาคารไทยและธุรกิจขนาดใหญ่ของไทยถูกแรงดันให้ปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ ด้วยการลงทุนซื้อความรู้และเทคโนโลยีที่มีบริษัทอเมริกันเป็นศูนย์กลาง

- การกระพือวิกฤติการณ์ปี 2000 อันจะกระทบกับระบบคอมพิวเตอร์ทั่วโลกที่บริษัทอเมริกัน มีอิทธิพลมากที่สุดอยู่แล้ว ทำให้ทั่วทั้งโลกต้องลงทุนซื้อสินค้าและบริการอเมริกันครั้งใหญ่

- เช่นเดียวกับความพยายามในการปรับโครงสร้างต้นทุนพลังงานของศูนย์กลางทุนนิยม ที่ตะวันออกกลาง เชื่อกันว่าจะทำให้บริษัทอเมริกันได้ประโยชน์อย่างมากมายตามมา

วันนี้ศาสตร์การบริหารแบบอเมริกันกำลังกลายเป็นเพียง "จิ๊กซอว์" หนึ่งของยุทธศาสตร์ในการสร้างอิทธิพล และรักษาความเป็นผู้นำระบบเศรษฐกิจโลกไว้ ยุทธศาสตร์เหล่านี้จับต้องได้มากขึ้น มีความไม่เป็นไปตามกฎกติกาที่พวกเขาเองสร้างมากขึ้น

บริษัทอเมริกันกำลังสอนบทเรียนทางอ้อมให้ทั้งระดับบริษัทและประเทศ เรียนรู้ในการวางยุทธศาสตร์ของตนเองขึ้นมาเป็นฐานความคิดสำคัญ มิใช่เดินตามมาตรฐานแบบอเมริกัน อย่างไม่มีข้อกังขาเช่นช่วงที่ผ่านมาอีกแล้ว ซึ่งจะทำให้ระบบเศรษฐกิจโลก และการบริหารธุรกิจจากนี้มีความสลับซับซ้อนมากขึ้น การบริหารยุคใหม่จะต้องใช้ความคิดและบทเรียนมากกว่าตำราบริหารแบบอเมริกันมากมายนัก



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.