"คลัง"เปิดช่องหาเงินถม"ทหารไทย" "ไอเอ็นจีกรุ๊ป"ส่งทูตทาบทามแบงก์


ผู้จัดการรายสัปดาห์(27 สิงหาคม 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

เหมือนเสี่ยงตายเมื่อ"ไอเอ็นจีกรุ๊ป"เดินเข้าพบ "รมว.คลัง"เอ่ยปากสนใจเข้าถือหุ้น"ทหารไทย"แบงก์ที่ถมเงินเท่าไรก็ไม่เต็ม แถมยังมีปัญหาการเมืองภายในองค์กรหลุดรอดให้กังวลเป็นระยะ แต่เรื่องนี้อาจไม่ใช่ประเด็นที่ "สิงโตส้ม"จากเนเธอร์แลนด์วิตก เมื่อเทียบผลและประโยชน์อันพึงได้กลับมาเมื่อลงทุนในแบงก์ทอปบูทแห่งนี้

อะไรที่ทำให้"ไอเอ็นจีกรุ๊ป"สนใจใน"ทหารไทย" ทั้ง ๆ ที่ภาพของแบงก์แห่งนี้ค่อนข้างเผชิญกับอุปสรรคและปัญหามากมาย ?

จะว่าไป "ทหารไทย"อาจไม่ใช่แบงก์เดียวที่บริษัทข้ามชาติจากแดนกังหันเฝ้าสังเกตการณ์และสนใจเข้าร่วมทุน แต่อาจด้วยจังหวะและภาวะที่เหมาะสมเป็นเหตุ จึงทำให้ทุกอย่างมาลงเอยตรงจุดนี้

วันที่ 17 สิงหาคม 2550 เป็นวันที่ผู้บริหารระดับสูงจากแบงก์ทหารไทยพา"ไอเอ็นจีกรุ๊ป"เข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง "ฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์"ซึ่งแท้จริงแล้วนั้นว่ากันว่า "ไอเอ็นจีกรุ๊ป" เดินเข้าออก "คลัง"เป็นว่าเล่น ประมาณ 2 เดือนแล้ว...เพื่อหารือในเรื่องแบงก์ทหารไทย

เสียงคนในเล่ากันปากต่อปากว่าการเจรจาหารือครั้งล่าสุดดูเหมือนจะได้ข้อยุติในทางที่ดี...ซึ่งนั่นหมายถึงว่า "ไอเอ็นจีกรุ๊ป" อาจเป็นผู้เพิ่มทุนให้แบงก์ทหารและเข้ามาถือหุ้นในสัดส่วน 24.9%

แม้จะยังไม่มีการคอนเฟิร์มอย่างเป็นทางการทั้งจากฝ่าย "คลัง"และ "ไอเอ็นจีกรุ๊ป"...แต่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ โดยเฉพาะเมื่อ"ไอเอ็นจีกรุ๊ป" สิงโตส้ม ให้สัญญาณชัดว่าอยากเข้ามาลงทุนในธุรกิจรีเทลแบงก์กิ้ง

"ราเจช เสรษฐี" รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ไอเอ็นจีประกันชีวิต ที่ยังมีกลิ่นอายจากเนเธอร์แลนด์ติดกายเพราะเพิ่งบินเข้ามานั่งทำงานที่ไทยได้ไม่เกิน 2 เดือนเล่าให้ฟังว่า "ไอเอ็นจีกรุ๊ป" สนใจที่จะเข้ามาลงทุนในธุรกิจรีเทลแบงกิ้ง เพื่อต่อยอดการดำเนินธุรกิจที่เข้ามาลงทุนในไทยแล้วก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะธุรกิจ ประกันชีวิต บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และโฮลเซลแบงกิ้ง

"ราเจช"นั้นเพิ่งบินมาจาก อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนอเธอร์แลนด์มาสดๆร้อนๆ อยู่ในวงการแบงก์มากว่า 15 ปี และวงการประกันชีวิตอีก 5 ปี จากนั้นบริษัทแม่ "ไอเอ็นจีกรุ๊ป" ก็ส่งมาไทย เพื่อสานต่องานในบริษัทประกันชีวิต ที่มี จิม บราวน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซึ่งจะเกษียณอายุในเดือนตุลาคมนี้

การมาของ"ราเจช"จากสำนักงานใหญ่โดยตรงจึงรู้ความเคลื่อนไหวของ"ไอเอ็นจีกรุ๊ป"ในเอเชียว่าจะเดินไปในทิศทางไหน

"ราเจช" เล่าให้ฟังว่า เอเชียเป็นประเทศที่เหมาะสมยิ่งต่อการลงทุนในธุรกิจรีเทลแบงกิ้ง ณ ขณะนี้ ซึ่งนอกเหนือจากไทย ไอเอ็นจีกรุ๊ปได้เข้าไปคุยกับแบงก์แห่งอื่นในภูมิภาคเอเชียด้วย เช่นอินโดนีเซีย และเวียดนาม

"ไอเอ็นจีกรุ๊ป พร้อมที่จะเข้ามาดำเนินธุรกิจแบงก์ แน่นอนว่าไม่ใช่แค่เรื่องของการรับฝากถอนเงิน แต่เป็นการนำความชำนาญด้านรีเทลแบงกิ้งซึ่งที่ยุโรป เราประสบความสำเร็จอย่างมากในธุรกิจนี้ ดังนั้นความชำนาญของเราจะถูกนำมาปรับใช้กับไทย ดังนั้นถ้าเข้ามาธุรกิจปล่อยสินเชื่อ บัตรเครดิต จะเป็นสิ่งที่เราต้องลงไปเล่น "

"ราเจช" บอกว่าเหมือนมนตร์วิเศษ เอเชียเองก็จะต้องประสบความสำเร็จดั่งยุโรป เพราะจังหสะที่เข้ามาในช่วงนี้มีความเหมาะสมทั้งเรื่องของต้นทุนที่เข้ามาดำเนินการ รวมถึงประชากรในภูมิภาคนี้ที่สามารถรองรับต่อการลงทุนในธุรกิจรีเทลแบงก์กิ้ง

ถ้า "ไอเอ็นจีกรุ๊ป" สามารถลงทุนในธุรกิจแบงก์จะยิ่งเอื้อต่อการดำเนินธุรกิจประกันชีวิตในช่องทางแบงแอสชัวรันส์ ซึ่งเป็นช่วงทางที่ "ไอเอ็นจีประกันชีวิต" ยังเจาะเข้าไปไม่ได้

สำคัญคือการเปิดช่องทางแบงแอสชัวรันส์ หรือ การขายประกันผ่านแบงก์ต่างจากการขายผ่านตัวแทนในหลายๆด้าน แม้ว่าช่วงทางตัวแทนจะยังสำคัญและเป็นช่องทางหลักในธุรกิจประกันชีวิตก็ตาม

จุดเด่นของการขายผ่านแบงก์ ทำให้บริษัทลดต้นทุนจ่ายค่าคอมมิชชั่นให้ตัวแทนในอัตราที่สูงได้ เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ตรงเป้าหมาย มีอัตราการเติบโตที่รวดเร็ว ที่สำคัญมีความน่าเชื่อถือ ด้วยฐานะของความเป็น "แบงก์" ในขณะที่ตัวแทนเป็นจุดอ่อนด้านความน่าเชื่อถือ และบริษัทมีต้นทุนในการจ่ายค่าคอมมิชชั่น

แต่อย่างที่บอก แม้ตัวแทนจะเป็นต้นทุนที่สูงแต่ก็เป็นช่วงทางหลักที่สร้างเบี้ยประกันเป็นกอยเป็นกำให้บริษัท แม้แบงก์แอสชัวรันส์จะเกิด แต่ช่องทางตัวแทนก็ยังเป็นโครงสร้าง และเสาหลักของธุรกิจประกันชีวิตในไทย

สำหรับไอเอ็นจีประกันชีวิตนั้น ดำเนินธุรกิจในไทยมาแล้วประมาณ 7ปี มีนโยบายถึงจุดคุ้มทุนในปี 2010 แต่ด้วยการเร่งเติบโต ทำให้มีเบี้ยประกันภัยปีแรกเขจ้ามามากจนต้องตั้งสำรองสูงทำให้ บริษัทปรับนโยบายว่าจะถึงจุดคุ้มทุนในปี 2011 โดยปัจจุบันมีทุนจะทะเบียน 3,000 ล้านบาท และตั้งเป้าปี2550 จะผลิตเบี้ยประกันปีแรกได้ 1,800 ล้านบาท

"ไอเอ็นจีกรุ๊ป" จะลงเอยที่แบงก์ทหารไทยหรือไม่...เป็นคำตอบที่รอคอนเฟิร์มจากทาง "คลัง" เพราะข่าวว่าทุนนอกจากเนเธอร์แลนด์มากมายมหาศาลพร้อมถมใส่ให้...ซึ่งน่าจะช่วยปิดดีลแบงก์ทหารไทยที่ยืดเยื้อมานานให้จบลงเสียที ขณะที่ "สิงโตล้ม"ก็จะได้กระโจนเข้าสู่ธุรกิจรีเทลแบงกิ้งเต็มกำลังให้สมที่กล่าวอ้าง


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.