ในที่สุด ดิ เอ็มโพเรียม ศูนย์การค้าที่เปรียบเหมือนไข่ในหินของ ศุภลักษณ์
อัมพุช ก็ได้มีโรงหนังแห่งใหม่ที่หรูหรามีรสนิยมในระดับโรงแรม 5 ดาว จากค่าย
SF Cinema City
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา บริษัท เอสเอฟ ซีเนม่าซิตี้ จำกัด เป็นผู้คว้ารางวัล
Asia Exhibitor of The Year 2002 หรือรางวัลผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์ดีเด่นของ
เอเชีย จากงาน CineAsia 2002 โดยมีผู้ประกอบการจากประเทศญี่ปุ่นเป็นคู่แข่งคนสำคัญ
ภาพลักษณ์ของโรงภาพยนตร์ที่ตกแต่งอย่างสวยงาม และมีเทคนิคที่ทันสมัยของ
SF Cinema ซึ่งจับกลุ่มลูกค้าระดับปานกลาง และ SFX Cinema ที่ตั้งเป้าไว้ที่กลุ่มลูกค้าชั้นสูงในศูนย์การค้าชั้นดีใจกลางเมือง
คือสิ่งที่การันตีรางวัลนี้ได้ดีที่สุด
ปี 2542 สุวัฒน์ และสุวิทย์ ทองร่มโพธิ์ 2 สิงห์หน้าหยก ผู้ประกอบธุรกิจสายหนัง
และโรงภาพยนตร์ในหัวเมืองใหญ่ เขตตะวันออก ได้ตัดสินใจบุกกรุงเทพฯ ครั้งแรก
โดยร่วมกับ "เสี่ยเจียง" ผู้แก่กล้าประสบการณ์ ในธุรกิจภาพยนตร์ แห่งค่ายสหมงคลฟิล์ม
ตั้งบริษัทเอสเอฟ ซีเนม่าขึ้นมาพัฒนาโรงภาพยนตร์แห่งแรกที่ศูนย์การค้ามาบุญครอง
จนปัจจุบันได้ขยายสาขาไปทั้งหมด 7 สาขา รวมทั้งหมด 49 โรง เฉพาะในกรุงเทพฯ
และเมืองพัทยา และกลายเป็นคู่แข่งสำคัญที่สุดของค่ายอีจีวี และเมเจอร์ ซีเนเพล็กซ์
ผู้ประกอบธุรกิจ โรงภาพยนตร์ระดับแนวหน้าของเมืองไทย
เอ็มโพเรียม SFX Cinema คือสาขาล่าสุดบนชั้น 7 ของศูนย์การค้าดิเอ็มโพเรียม
และนับเป็นสาขาที่ 2 ของ "SFX Cinema" โดยสาขาแรกของ SFX คือที่เซ็นทรัลลาดพร้าว
ภาพของโรงภาพยนตร์จากค่าย SFX Cinema ที่ปรากฏต่อสายตา เมื่อเข้าไปถึงบริเวณล็อบบี้
ก็คือการตกแต่งดีไซน์สถานที่ให้มีความสวยงามหรูหรา เต็มไปด้วยรสนิยมในระดับโรงแรม
5 ดาว โดยสถาปนิกพยายามให้รายละเอียดของสถานที่แตกต่างไปจาก โรงภาพยนตร์ทั่วไป
เช่น ส่วนที่จัดไว้เป็นเคาน์เตอร์จองตั๋วนั้นไม่ได้แบ่ง เป็นช่องๆ เหมือนทั่วไป
แต่เหมือนส่วนต้อนรับของโรงแรมมากกว่า
สำหรับผู้ซื้อตั๋ววีไอพี แบบ ultimate chair ราคา 250 บาทต่อหนึ่งที่นั่ง
จะได้รับบริการพิเศษโดยมีที่นั่งรอเป็นสัดส่วนเฉพาะใน Garden Lounge ซึ่งตกแต่งไว้อย่างสวยงาม
และที่สำคัญไม่ต้องไปยืนเข้าแถวจองบัตร แต่สามารถสั่งอาหารเครื่องดื่ม และตั๋วชม
ภาพยนตร์ ผ่าน Pocket Box Office ที่มีพนักงานมาเสิร์ฟให้ลูกค้าถึงโต๊ะ เป็นการบริการในรูปแบบใหม่เป็นแห่งแรกของเมืองไทย
โดยที่ลูกค้าสามารถเลือกโรง เลือกที่นั่งได้ในตอนนั้น และพนักงานก็สามารถพรินต์ตั๋วภาพยนตร์
ออกมาให้ในทันที
ส่วนลูกค้าทั่วไปยังสามารถใช้ระบบ Multi Function ที่สามารถสั่งซื้อบัตรชมภาพยนตร์
เครื่องดื่ม พร้อมป๊อปคอร์นในจุดเดียวกัน
จากบันไดเล็กๆ ผ่านทางเดินบนพรมสีสวยเพื่อเข้าไปสู่โรงภาพยนตร์ต่างๆ นั้น
ผนังสองข้างทางจะเป็นภาพวาดของดาราภาพยนตร์ชื่อดังก้องโลกประดับเรียงรายไปจนสุดทาง
เอ็มโพเรียม SFX มีโรงภาพยนตร์ทั้งหมด 5 โรง ประมาณ 200 ที่นั่งต่อโรง
โดยแต่ละโรงจะมีที่นั่งระดับวีไอพีประมาณ 12 ที่นั่ง บริเวณแถวหลังสุด
ตั๋วชมภาพยนตร์ที่สาขานี้ ในวันศุกร์ถึงวันอาทิตย์ราคา 140 บาทต่อที่นั่ง
วันอื่นๆ เหลือเพียง 120 บาท ส่วนรอบหลังสองทุ่มของวันจันทร์ถึงวันพฤหัสจะขายในราคา
80 บาท ต่อที่นั่ง
สำหรับโรงภาพยนตร์สาขาแรกของค่ายนี้ที่ชั้น 7 มาบุญครองนั้น กำลังอยู่ในระหว่างการวางแผนปรับปรุงครั้งใหญ่ส่วนจะเลิศหรูแค่ไหน
อีกไม่นานคงรู้กัน