TDEX...กองทุนใหม่ที่เป็นราวกับ "ซุปเปอร์หุ้น"


ผู้จัดการรายสัปดาห์(20 สิงหาคม 543)



กลับสู่หน้าหลัก

หากคุณชื่นชอบที่จะลงทุนให้ได้ผลตอบแทนเป็นไปตามดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งตลอด 2 เดือนที่ผ่านมาเรียกได้ว่าให้ความหฤหรรษ์อย่างมาก ขึ้น-ลงหวือหวามีความแตกต่างกันถึงวันละสิบยี่สิบจุด เรียกได้ว่าสนุกสนานไม่แพ้การเล่นรถไฟเหาะ หนึ่งในสิ่งที่ไม่ควรพลาดก็คือ TDEX (ThaiDex SET50 ETF) หรือกองทุน ETF กองแรกของไทยที่กำลังจะเปิดให้ซื้อขายกันแล้วตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน2550 เป็นต้นไป

แม้กองทุนประเภทที่อิงกับดัชนี SET 50 จะไม่ใช่เรื่องใหม่ในแวดวงตลาดทุน แต่สำหรับ ThaiDex SET50 ETF ของ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.)วรรณ แล้ว นี่คือเหมือนที่แตกต่างและโดดเด่นกว่า

สมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บลจ.วรรณ จำกัด เปรียบเทียบให้ฟังว่า TDEX ก็คล้ายกับ "ซุปเปอร์หุ้น"ตัวหนึ่งที่เป็นโฮลดิ้งเข้าไปถือหุ้น 50 ตัวหลักของตลาดหลักทรัพย์(SET50) นักลงทุนสามารถส่งคำสั่งซื้อ-ขายกองทุนนี้ในตลาดหุ้นผ่านโบรกเกอร์ได้เหมือนหุ้นตัวหนึ่งเลย มีราคา NAV เปลี่ยนแปลงทุกนาทีขึ้น-ลงตามดัชนี SET50 ไม่ต้องไปทำรายการที่ธนาคารพาณิชย์เหมือนซื้อ-ขายกองทุนทั่วไปและจะรู้ NAV ได้ก็ต่อเมื่อปิดตลาดไปแล้ว

ค่าธรรมเนียมในการบริหารกองทุนก็คิดในอัตราแค่ 0.01% เนื่องจากเป็นการลงทุนแบบ Passive ตามตลาด นอกจากนี้การลงทุนในกองทุน TDEX ยังมีการจ่ายเงินปันผลตามนโยบายของกองทุนปีละ 2 ครั้งด้วย

"กองทุนอีทีเอฟนั้นมีความเสี่ยงที่ต่ำที่สุด เมื่อเทียบกับการลงทุนตรงในหุ้นหรือการลงทุนในตลาดอนุพันธ์ เนื่องจากได้อ้างอิงกระจายความเสี่ยงการลงทุนหุ้น50ตัวแรก และมีค่าธรรมเนียมในการซื้อขาย(คอมมิชชั่น)ต่ำกว่าค่าคอมมิชชั่นหุ้น 60% กองทุนนี้เหมาะกับนักลงทุนที่เพิ่งเริ่มลงทุนในตลาดหุ้นรวมถึงนักลงทุนสถาบัน โดยเปิดให้จองซื้อครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 21-28 สิงหาคมนี้ ซึ่งคาดว่าจะขายได้ 2-3 พันล้านบาท"

ด้านราคาต่อหน่วยของ TDEX ก็ได้มีการกำหนดให้เป็นสัดส่วน 1 ใน 100 ของดัชนี SET50 ในขณะนั้น เช่นดัชนี SET50 อยู่ที่ 600 จุด TDEX ก็จะมีราคา 6 บาท และจะขยับขึ้นลงทีละ 1 สตางค์ซึ่งถือว่ามีความละเอียดมากและผันแปรขึ้น-ลงตามดัชนี SET50 มากที่สุด

"ในเมื่อราคาต่อหน่วยของ TDEX เป็น 1 ส่วน 100 และจำนวนขั้นต่ำที่ซื้อ-ขายคือ 100 หน่วย(1 บอร์ดล๊อต) ดังนั้น 1 บอร์ดล๊อตก็จะมีราคาเท่ากับดัชนี SET50 พอดี"

ผู้ถือหน่วยสามารถทำกำไรได้จากทั้งการซื้อถูก-ขายแพงอย่างที่รู้ๆกัน หรือจะเป็นการยืมหน่วยมาขายล่วงหน้าในช่วงที่ราคาขึ้นไปสูง(Short sell)ก่อน แล้วค่อยซื้อช่วงที่มีราคาถูกมาคืนทีหลังก็ได้

นอกจากนี้ TDEX ก็ยังสามารถเอื้อประโยชน์ได้ กับ TFEX ซึ่งเป็นตลาดฟิวเจอร์ซื้อขายอนุพันธ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการทำกำไรข้ามตลาดหรือ arbitrage มาใช้ในทางปฎิบัติได้มากขึ้น อีกทั้งในอนาคตจะมีออปชั่นเข้ามาซื้อขายเพิ่มเติมในตลาดอนุพันธ์ การใช้การใช้อีทีเอฟประกอบการซื้อขายคอลออปชั่น(Call option) และพุทออปชั่น(Put option)ก็จะทำให้ตามมาด้วยการทำการซื้อขายง่ายขึ้นเมื่อต้องการทำป้องกันความเสี่ยง(Hedging)

การลงทุนของกองทุนนี้ จะมี บลจ. วรรณ เป็นผู้จัดการกองทุนดูแล และยังมีที่ปรึกษากองทุน คือ ซัมซุง อินเวสท์เม้นท์ (Investment) ทรัสต์ แมเนเจอร์ และมี บล.เคจีไอ เป็นผู้ดูแลตลาดหรือมาร์เก็ตเมกเกอร์ ที่จะทำหน้าที่คอยจับคู่การซื้อขายให้เกิดขึ้นภายใน 1 นาที โดยมี ผู้ร่วมค้าหน่วยลงทุนอีก 5 ราย ได้แก่ บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย), บล.บัวหลวง, บล.ธนชาต, บล.ซิตี้คอร์ป และ บล.เคจีไอ ส่วนผู้ดูแลรักษาหลักทรัพย์หรือคัสโตเดียน จะมี ซิตี้แบงก์ คอยประสานการทำงาน ทั้งหมดนี้ก็เพื่อทำให้เกิดการซื้อขายหน่วยลงทุนของกองทุน TDEX สมบูรณ์

สำหรับกองทุนอื่นๆแล้ว การสร้างผลตอบแทนได้มากกว่าดัชนี(Beat Market) ถือได้ว่าเป็นความสำเร็จของผู้จัดการกองทุนและเป็นความสมหวังของผู้ถือหน่วยลงทุน ยิ่งชนะดัชนีมากผลตอบแทนมากก็ยิ่งดี แต่สำหรับผู้ที่จะถือหน่วยลงทุนของ TDEX แล้วต้องระลึกเสมอว่ากองทุนไม่ได้มีจุดประสงค์เช่นนั้น หากแต่วัตถุประสงค์หลักคือให้มีการขึ้น-ลงตามดัชนี SET50 มากที่สุด


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.