|

ธุรกิจโรงแรมปรับตัวลดความเสี่ยง เพิ่มทางเลือกหารายได้จากหลายทาง
ผู้จัดการรายวัน(21 สิงหาคม 2550)
กลับสู่หน้าหลัก
ธุรกิจโรงแรม ท่องเที่ยว ปรับตัวรับความเสี่ยง เดอะ ทวิน ทาวเวอร์ กระจายรับลูกค้าจากหลายตลาด ทั้งเอเชียและยุโรป ขณะที่ โรงแรมนารายณ์ ปรับเพิ่มสัดส่วนรายได้จากร้านอาหารจับตลาดคนไทย ทดแทนรายได้จากห้องพัก ด้านผู้ประกอบการนำเที่ยวปรับวิธีขาย ช่วงโลว์ซีซั่น จับมือโรงแรมจัดปีโมชั่นแถมฟรีห้องพัก
นายยุทธ ด่านภักดีกุล ผู้จัดการทั่วไปโรงแรมเดอะ ทวิน ทาวเวอร์ กรุงเทพ เปิดเผยว่า ท่องเที่ยวเป็นธุรกิจที่อ่อนไหวง่าย ปัจจัยลบในเกือบทุกสถานการณ์จึงมีผลให้นักท่องเที่ยวหยุดหรือชะลอการเดินทาง ซึ่งสำหรับประเทศไทยปีนี้ถือว่าปัจจัยลบที่กระทบต่อธุรกิจท่องเที่ยวคือปัญหาทางการเมืองภายในประเทศ ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวช่วงโลว์ซีซั่นปีนี้ลดน้อยกว่าทุกปี ขณะที่ครึ่งปีแรกลดลงจากปีก่อน 12-14% ทั้งนี้เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ของโรงแรม เดอะทวิน ทาวเวอร์ จะมาจากประเทศในกลุ่มเอเชียเป็นหลัก เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี โดยคิดเป็น 70-80% ของลูกค้าชาวต่างชาติทั้งหมด ส่วนลูกค้าจากยุโรป และ อเมริกา มีประมาณ 10-15% ที่เหลือเป็นตลาดคนไทยกลุ่มประชุมสัมมนา
ทั้งนี้ในส่วนของลูกค้าตลาดเอเชีย ญี่ปุ่นเป็นตลาดใหญ่สุดของ โรงแรม โดยมีสัดส่วน 55% และตั้งแต่ต้นปี ญี่ปุ่น ถือเป็นตลาดที่จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงมากที่สุด ในส่วนของเดอะ ทวินฯ ลูกค้าชาวญี่ปุ่น หายไปถึง 30%
ปรับสัดส่วนลูกค้าเอเชีย-ยุโรป
จากสาเหตุกังกล่าวข้างต้น โรงแรมจึงปรับกลยุทธในการทำตลาด ด้วยการปรับเปลี่ยนสัดส่วนลูกค้า ด้วยการเพิ่มตลาดยุโรปให้มากขึ้น ล่าสุด ได้จับมือผู้ประกอบการบริษัทนำเที่ยวท่องเที่ยวท้องถิ่นรวม 10 ราย ในประเทศ ตุรกี ไซปัส และอีกหลายประเทศในยุโรป ทำโปรโมชั่นร่วมกัน นำเสนอแพกเกจทัวร์พร้อมห้องพัก ซึ่งตลาดให้การตอบรับดี และ นักท่องเที่ยวจะเริ่มทยอยเดินทางเข้ามาใช้บริการตั้งแต่เดือนสิงหาคมนี้เป็นต้นไป ซึ่งจะทำให้ครึ่งปีหลัง ผลประกอบการของโรงแรมจะดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก ตลาดใหม่ๆ ที่ทางโรงแรมเริ่มบุกมากขึ้นได้แก่ เนเธอร์แลนด์ รัสเซีย อเมริกา และเยอรมันเป็นต้น คาดว่าในรอบงบบัญชี 2551( 1พ.ย.50-31ต.ค.51) สัดส่วนลูกค้าของ โรงแรมจะเปลี่ยนเป็น ตลาดยุโรป 20-25% ส่วนตลาดเอเชีย จะลงมาอยู่ที่ประมาณ 60%
นอกจากนั้นทางโรงแรม ยังเพิ่มช่องทางจำหน่ายผ่านเว็บไซน์ ซึ่งปัจจุบันมีการเติบโตสูงมาก คาดว่าปีนี้ ช่องทางจำหน่ายผ่านเว็บไซน์ของ โรงแรมจะโต 60% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยทางโรงแรมได้เข้าเป็นสมาชิก ฟาสต์ บุ๊คกิ้ง ดอท คอม ซึ่งเป็นเว็บไซน์เกี่ยวกับการจองโรงแรมที่พัก ของประเทศอเมริกา ซึ่งการจองผ่านเว็บไซน์นี้ จะได้ราคาที่ดีกว่า การจองผ่านเอเยนต์ถึง 25% อย่างไรก็ตามจากการปรับกลยุทธของโรงแรม คาดว่า ตัวเลขอัตราเข้าพักเฉลี่ยทั้งปีของโรงแรม จะอยู่ที่ประมาณ80-85% จากปัจจุบัน อัตราเข้าพักเฉลี่ยจะประมาณ 77% ลดจากปีก่อนที่เคยได้อยู่ 80-90%
เพิ่มรายได้ธุรกิจอาหารลดเสี่ยง
ทางด้านนายสุรัตน์ พาชู ผู้จัดการทั่วไปโรงแรม นารายณ์ สีลม และ โรงแรม ทริปเปิ้ล ทู สีลม กล่าวว่า ทางโรงแรม ได้ลดความเสี่ยงจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับสถานการณ์รอบด้าน ด้วยการเพิ่มรายได้จากธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม จับเป้าหมายเป็นคนไทย กลุ่ม ครอบครัว และวัยทำงาน ล่าสุดโรงแรมนารายปรับเพิ่มเมนูอาหารเวียดนาม ไปใส่ไว้ในเมนูอาหารที่ห้องอาหารนานาชาติ ของโรงแรม ทริปเปิ้ล ทู เป็นการเพิ่มความหลากหลายให้แก่ผู้บริโภค
ปัจจุบัน ทั้งโรงแรมนารายณ์ และ ทริปเปิ้ล ทู มีร้านอาหารรวมกัน 4 ร้าน ได้แก่ รัศมีสุกี้ , ห้องอาหารตะเพียนทอง ห้องอาหาร เปปเปอร์โรนี และ ห้องอาหารนานาชาติ มีรายได้รวมเป็นสัดส่วนกว่า 40% ของ รายได้รวม ขณะที่รายได้จากห้องพักจะอยู่ที่ประมาณ 52-55% แต่จากปีนี้เป็นต้นไป ทางโรงแรม จะปรับสัดส่วนรายได้จากร้านอาหารให้เพิ่มเป็น 50% ของรายได้รวมที่ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 500 ล้านบาท และปรับเพิ่มลูกค้าคนไทย ที่เข้ามาใช้บริการร้านอาหารของโรงแรมเป็น 20-30% จากปัจจุบัน ลูกค้าส่วนใหญ่ 90% เป็นชาวต่างชาติ ตรงนี้ถือเป็นการลดความเสี่ยงทางธุรกิจได้อีกทางหนึ่ง
จัดโปรโมชั่นดึงลูกค้าโลว์ซีซั่น
นายอภิชาติ สังฆอารี นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า เปิดเผยว่า ในช่วงโลว์ซัซั่นของทุกปี ผู้ประกอบการบริษัทนำเที่ยว ส่วนใหญ่ จะใช้วิธีจับมือกับโรงแรม จัดโปรโมชั่นแถมแทนการลดราคา เช่น ซึ้อห้องพัก 7 คืน แถม 3 คืน หรือ ซึ่งห้องพัก 5 คืน ฟรี 2 คืน เป็นต้น เพราะการลดราคาจะเป็นการทำลายโครงสร้างราคาตลาด ส่วน สถานการณ์ท่องเที่ยวของประเทศไทย เมื่อการเมืองชัดเจน มีการกำหนดวันเลือกตั้งที่แน่นอน จะส่งผลต่อความมั่นใจของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะตลาดญี่ปุ่น ดังนั้นคาดว่าปีหน้าท่องเที่ยวจะสดใสกว่าปีนี้ ส่วนผู้ประกอบการที่มีตลาดหลักย่านเอเชีย โดยเฉพาะญี่ปุ่น ที่ปีนี้ปรับตัวลดลงมากนั้น คงต้องใช้ระบบบริหารจัดการภายในองค์กรเข้ามาช่วย เพื่อลดค่าใช้จ่าย และ ใช้เวลานี้ ฝึกฝนอบรมบุคคลากร ให้พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวในปลายปีนี้และปีหน้า
กลับสู่หน้าหลัก
 ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|