Verified by Visa

โดย ฐิติเมธ โภคชัย
นิตยสารผู้จัดการ( พฤษภาคม 2546)



กลับสู่หน้าหลัก

เมื่อธุรกิจ eCommerce เติบโตอย่างต่อเนื่องจากแรงผลักดันของผู้บริโภคที่มีไลฟ์สไตล์เปลี่ยนแปลงไป ตรงกันข้ามมีคนกลุ่มหนึ่งที่ต้องการซื้อสินค้าทางออนไลน์ แต่ยังไม่วางใจเรื่องความปลอดภัย

ราวกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา The Secret Service และ FBI ของสหรัฐอเมริกาตรวจพบว่า มีบัตรเครดิตถูกแฮกเกอร์เข้าสู่ระบบความปลอดภัย หลังจากผู้ถือบัตรนำไปซื้อสินค้า และกระบวนการดังกล่าวถูกโจมตีหลังการทำธุรกรรมผ่านร้านค้า

ด้านมาสเตอร์การ์ดออกมาเปิดเผยว่า ถูกแฮกเกอร์เข้าสู่ระบบฐานข้อมูลจำนวน 8 ล้านบัญชี รวมถึงบัตรเครดิตที่ใช้ระบบชำระเงินผ่านมาสเตอร์การ์ดอีก 2.2 ล้านใบถูกโจมตี ขณะที่วีซ่าได้รับผลเช่นเดียวกันถึง 3.4 ล้านใบ

เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ใช่ครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่บัตรพลาสติกได้รับความเสียหายที่เกิดจากบรรดาแฮกเกอร์ อย่างไรก็ตาม ผู้ให้บริการระบบชำระเงินทั้งมาสเตอร์การ์ด และวีซ่าพยายามหาวิธีป้องกันเพื่อลดความเสียหายให้กับผู้บริโภค

Verified by Visa เป็นระบบเพิ่มความปลอดภัยในการชำระเงินทางอินเทอร์เน็ต เพื่อลดโอกาสการลอบนำหมายเลขบัตรเครดิตและวันหมดอายุไปใช้ ซึ่งระบบดังกล่าวเป็นการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยี และการทำธุรกรรมทางการเงิน

โดยออกแบบขึ้นมาเพื่อเพิ่มความมั่นใจ สะดวก ปลอดภัยให้กับผู้บริโภคในการนำบัตรวีซ่าไปใช้ สำหรับการชำระเงินทางอินเทอร์เน็ตเช่นเดียวกับการใช้บัตรวีซ่าซื้อสินค้าตามร้านค้าปกติ

"เมื่อนำบริการ Verified by Visa มาใช้ในตลาดอย่างเต็มที่แล้ว คาดว่าจะสามารถช่วยลดปัญหาการลักลอบใช้หมายเลขบัตรลงได้มากกว่า 50%" ไมเคิล เคียนีย์ หัวหน้าธุรกิจ eCommerce วีซ่า เอเชีย แปซิฟิกบอก "เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับร้านค้าผู้รับบัตรในเรื่องการได้รับเงินค่าสินค้าจากธนาคาร"

นอกจากระบบดังกล่าวจะช่วยลดการลักลอบนำบัตรไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตแล้ว ยังลดการถกเถียงจากเจ้าของบัตรกรณีที่เจ้าของบัตรไม่ได้เป็นผู้นำบัตรนั้นไปใช้ โดยให้เจ้าของบัตรวีซ่าใส่รหัสส่วนตัวเพื่อแสดงตนว่าเป็นเจ้าของบัตรจริงในขณะทำการซื้อสินค้าทางออนไลน์

"บัตรวีซ่าหรือข้อมูลบัตรที่ถูกขโมยมาไม่สามารถนำมาใช้ได้ในร้านค้าที่ร่วมให้บริการ Verified by Visa" เขากล่าว

สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ซึ่งจากผลการศึกษาวิจัยของ Asia Market Intelligence เมื่อเร็วๆ นี้เกี่ยวกับทัศนคติ ความสนใจในการซื้อสินค้า และความปลอดภัยในการชำระเงินทางอินเทอร์เน็ตในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

พบว่ามากกว่า 3 ใน 4 ของผู้แสดงความคิดเห็นทั้งหมด 1,000 คน กังวลถึงการซื้อสินค้าทางอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะอย่างยิ่งความปลอดภัยในการให้หมายเลขบัตรเครดิตและข้อมูลส่วนตัว และ 66% ต้องการซื้อสินค้าจากร้านค้าทางอินเทอร์เน็ตที่ให้บริการ Verified by Visa

รายงานของศูนย์เทคโนโลยีอิเล็ก ทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) พบว่าความไม่เชื่อมั่นในความปลอดภัยสำหรับการซื้อสินค้าทางอินเทอร์เน็ต เป็น 1 ใน 3 ปัจจัยหลัก ทำให้ผู้บริโภคเลือกที่จะไม่ซื้อสินค้าบนช่องทางดังกล่าว

"ระบบนี้ช่วยเปิดตลาดสู่กลุ่มลูกค้า ที่ไม่มั่นใจในความปลอดภัยของการซื้อสินค้าทางออนไลน์ พวกเขาต้องการความรวดเร็ว ง่าย และปลอดภัย" คมกริช ศิริรัตน์ ผู้จัดการทั่วไป Thaiticketmaster.com ผู้ให้บริการจองและซื้อตั๋วเข้าชมการแสดงคอนเสิร์ตผ่านอินเทอร์เน็ตเล่า

ด้านไรอัน เชียว ผู้อำนวยการ FarEastFlora.com ร้านจำหน่ายดอกไม้ออนไลน์ชั้นนำในสิงคโปร์ กล่าวว่า "พวกเราเชื่อว่าการตอบสนองความต้องการของลูกค้าสำคัญ คือ การทำให้ลูกค้ามั่นใจในความปลอดภัยเมื่อซื้อสินค้ากับเรา เมื่อพวกเขามั่นใจมากเท่าไรเราสามารถขายสินค้าเพิ่มได้มากขึ้นเท่านั้น"

นอกเหนือไปจากประโยชน์ที่ผู้ถือบัตรวีซ่าจะได้รับแล้ว Verified by Visa ยังมีส่วนทำให้ธุรกิจ eCommerce เติบโตได้ในอนาคต เนื่องเพราะความไม่มั่นใจของผู้บริโภคถูกขจัดไป สังเกตได้จากปริมาณการซื้อสินค้าทางอินเทอร์เน็ตทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มีอัตราเติบโตเฉลี่ยกว่า 80% ในไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า

สำหรับปริมาณการซื้อสินค้าผ่านช่องทางดังกล่าวในประเทศไทย ขยายตัวกว่า 60% ในไตรมาส 4 ปีที่แล้ว เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยจากการสำรวจของ AC Nielsen ปีล่าสุดพบว่าคนไทยใช้อินเทอร์เน็ตทั่วไป 1.2 ล้านคน และมี 20% ที่มีประสบการณ์ซื้อสินค้าผ่านช่องทางนี้

"ธุรกิจ eCommerce ในไทยมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องประมาณ 50% ต่อปีใน 3 ปีข้างหน้า โดยมีแรงสนับสนุนจากผู้คนที่ต้องการความสะดวกสบายมากขึ้น และจำนวนประชากรที่ใช้อินเทอร์เน็ตเพิ่มสูงขึ้น" สมบูรณ์ ครบธีรวงศ์ ผู้จัดการวีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล ประจำประเทศไทยและอินโดจีนชี้ "การเพิ่มความปลอดภัยเป็นปัจจัยช่วยให้ธุรกิจนี้เติบโตยิ่งขึ้น"

ด้วยเหตุผลดังกล่าว ทำให้ธนาคาร กรุงเทพ, เอเชีย, ไทยพาณิชย์ และบัตรกรุงไทย นำระบบ Verified by Visa ไปให้บริการแก่ลูกค้า "จากที่สถาบันการเงินขนาดใหญ่ของไทยเข้ามาร่วมใช้บริการ แสดงถึงความมุ่งมั่นของธุรกิจ eCommerce ในไทยที่จะเติบใหญ่อย่างมั่นคง" เคียนีย์บอก

หากพิจารณาธุรกิจ eCommerce ในประเทศไทย ทุกวันนี้ธนาคารพาณิชย์ดูเหมือนจะมีบทบาทและเป็นองค์กรสำคัญต่อการเติบโตอย่างมาก เนื่องจากมีผลิตภัณฑ์ที่สามารถนำเสนอต่อลูกค้าผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

"การนำเสนอบริการ Verified by Visa แก่ร้านค้าที่ทำธุรกิจออนไลน์จะช่วยให้สามารถตรวจสอบได้ว่า ผู้ทำรายการซื้อสินค้าเป็นเจ้าของบัตรที่แท้จริง เช่นเดียว กันพวกเรามองโอกาสในการทำธุรกิจ eCommerce ที่เพิ่มขึ้นโดยมีระบบความปลอดภัยนี้รองรับ" โชค ณ ระนอง ผู้จัดการสายบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพ อธิบาย

สำหรับลูกค้าที่ถือบัตรเครดิตไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มหลังจากเข้าสู่ระบบ Verified by Visa เพราะหากธนาคารพาณิชย์เรียกเก็บเพิ่ม นั่นหมายถึง การเสียโอกาสในการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความล้มเหลวของธุรกิจ eCommerce

"ระบบของวีซ่าช่วยสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าทำธุรกรรมผ่านออนไลน์เพิ่มมากขึ้น" จันทิมา จตุรภัทร์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาดลูกค้าบุคคล ธนาคารไทยพาณิชย์บอก "การลักลอบนำข้อมูลบัตรเครดิตไปใช้ซื้อสินค้าทางอินเทอร์เน็ตส่งผลให้ธุรกิจ eCommerce ไม่เติบโตเท่าที่ควร"

การมอบความคุ้มครองใหม่ล่าสุดของวีซ่าครั้งนี้ พวกเขาเชื่อมั่นว่าจะไม่มีเหตุการณ์เลวร้ายเหมือนเมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาอีก เพราะหากเกิดเหตุซ้ำรอยขึ้นมา ย่อมเป็นสิ่งขัดขวางการเติบโตและเป้าหมายในการทำงาน ที่ต้องการให้ผู้บริโภคหันมาใช้บัตรเครดิตชำระค่าสินค้าแทนเงินสดให้ได้มากที่สุด



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.