ปตท.สบช่องบาทแข็งผุดโรงแยกก๊าซ


ผู้จัดการรายวัน(17 สิงหาคม 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

ปตท.เตรียมชงบอร์ดลุยโรงแยกก๊าซฯ หน่วย 6 มูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท ในปลายเดือนนี้ หลังผ่านอีไอเอ เพราะเป็นช่วงจังหวะที่เหมาะสม หลังค่าเงินบาทแข็ง ชี้ไตรมาส 3 ทิศทางราคาน้ำมันสูง 65-70 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และมาร์จินปิโตรเคมีจะยังคงดีอยู่

นายจิตรพงษ์ กว้างสุขสถิตย์ รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าบริษัทเตรียมเดินหน้าก่อสร้างโรงแยกก๊าซธรรมชาติ หน่วย 6 ทันทีหลังจากได้รับอนุมัติผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) เมื่อเร็วๆ นี้ โดยจะเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯในปลายเดือนนี้ ซึ่งเป็นการลงทุนในจังหวะที่ดีในช่วงค่าเงินบาทแข็ง

โรงแยกก๊าซฯ 6 จะมีกำลังการผลิต 800 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน ใช้เงินลงทุนประมาณ 2 หมื่นกว่าล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2553 โดยแหล่งเงินทุนจะมาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน โดยจะป้อนก๊าซฯใช้เป็นวัตถุดิบในโรงโอเลฟินส์ของบริษัท พีทีทีพีอี จำกัด ในเครือปตท.ที่มีกำลังการผลิตเอทิลีน 1 ล้านตัน/ปี

นอกจากนี้ จะมีการเสนอขออนุมัติบอร์ดบริษัทฯเพื่ออนุมัติการจ่ายปันผลระหว่างกาล โดยคาดว่าจะจ่ายปันผลในอัตราใกล้เคียงกับปี 2549 ที่จ่ายปันผลระหว่างกาล 5 บาท/หุ้น เพื่อตอบแทนนักลงทุน

นายพิชัย ชุณหวชิร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บัญชีและการเงิน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 ปีนี้ว่า ความต้องการใช้น้ำมันในประเทศน่าจะอ่อนตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจประเทศที่ชะลอตัว ทำให้ปตท.ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเกี่ยวกับการลงทุนใหม่ๆในอนาคต แต่ราคาน้ำมันตลาดโลกในช่วงนี้ถือว่าสูงกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ที่ 60 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 65-70 เหรียญสหรัฐ และค่าการกลั่นยังดีอยู่ ธุรกิจปิโตรเคมีก็ยังมีส่วนต่างราคาวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์(สเปรด)ที่สูงอยู่และความต้องการเม็ดพลาสติกยังดีอยู่

"ปตท.มีแผนการลงทุนที่ชัดเจนใน 5ปีนี้ (2550-2554)อยู่แล้ว 2 แสนกว่าล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในธุรกิจก๊าซธรรมชาติ ซึ่งช่วงนี้ปตท.คงต้องพิจารณาว่าจะมีผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับไทยหรือไม่จากภาวะเศรษฐกิจโลกในขณะนี้ อย่างไรก็ตามเชื่อว่าคงไม่มีผลกระทบต่อปตท.มากนัก ซึ่งที่ผ่านมา การเติบโตของปตท.จะผูกกับการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ"

นายจิตรพงษ์ กล่าวถึงการพิจารณาแต่งตั้ง ไม่น่ามีปัญหานายประเสริฐ น่าจะกลับเข้ามาดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ปตท.ได้อีกวาระหนึ่ง เนื่องจากเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญและทำงานในตำแหน่งนี้มาเป็นเวลา 4 ปี ซึ่งน่าจะสานต่องานที่ทำอยู่นี้ได้ต่อไป ซึ่งนายประเสริฐก็มีสิทธิและคุณสมบัติครบถ้วน เพราะการดำเนินตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ปตท.สามารถดำรงตำแหน่งได้ 2 วาระๆ ละ 4 ปี ซึ่งตามกระบวนการน่าจะเร่งให้เร็วนี้ที่สุด เพื่อไม่ให้สุญญากาศในการทำงานของปตท.

PTTCH ปรับสเปรดขึ้น666 เหรียญ/ตัน

นายอดิเทพ พิศาลบุตร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปตท.เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (PTTCH)กล่าวว่าขณะนี้ราคาเม็ดพลาสติกHDPE ปรับตัวสูงขึ้นมากอยู่ที่ 1.4 พันเหรียญสหรัฐ/ตัน ขณะที่ส่วนต่างราคาแนฟทาและเม็ดพลาสติก(สเปรด)อยู่ที่ 666 เหรียญสหรัฐ สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิมเมื่อพ.ค.ที่ผ่านมาถึง 31 เหรียญสหรัฐ/ตัน เนื่องจากความต้องการใช้เม็ดพลาสติกยังขยายตัว และมีการหยุดซ่อมบำรุงโรงงานหลายแห่ง โดยในไตรมาส 4/2550 คาดว่าสเปรดจะอ่อนตัวลงเล็กน้อย เนื่องจากโรงงานที่ปิดซ่อมบำรุงเปิดเดินเครื่องผลิต

นอกจากนี้ บริษัทมีแผนจะออกหุ้นกู้สกุลบาทจำนวน 8,000 ล้านบาทในเดือนก.ย.นี้ อายุหุ้นกู้ 5-10 ปี โดยจะเสนอขายให้สถาบันประมาณ 80% ที่เหลือให้รายย่อย ทำให้อัตราหนี้สินต่อทุนเพิ่มขึ้นจาก 0.19 เท่าเป็น 0.4 เท่า โดยเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ครั้งนี้ จะนำมาใช้ลงทุนโครงการผลิตเอทิลีน 1 ล้านตันของบริษัท พีทีทีพีอี จำกัด

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสเปรดจะปรับตัวดีขึ้นแต่ปีนี้ คาดว่ารายได้ของบริษัทจะต่ำกว่าปีที่แล้ว 2-3% จากเดิมที่มีรายได้รวม 7 หมื่นล้านบาท เนื่องจากต้นปีบริษัทได้หยุดซ่อมบำรุงโรงงานทำให้กำลังการผลิตหายไป

นายอดิเทพ กล่าวต่อไปว่า ในปี 2552-2553 เชื่อว่าราคาเอทิลีนจะอ่อนตัวลงมา เพราะมีกำลังการผลิตใหม่จากตะวันออกกลางเข้ามา แต่ราคาเม็ดพลาสติกยังดีอยู่ โดยมีความต้องการใช้เติบโตเฉลี่ย 4-5%ต่อปี และการก่อสร้างโรงงานปิโตรเคมีในตะวันออกกลางสูงกว่าไทย 3เท่า เชื่อว่าผู้ผลิตตะวันออกกลางจะไม่ดัมป์ราคาผลิตภัณฑ์ ส่งผลให้สเปรดเม็ดพลาสติกHDPE อยู่ที่ตันละ 500 เหรียญสหรัฐ


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.