กฤษดาฯเหนื่อยขายบ้านหด70%ลุ้นแผนทุนใหม่


ผู้จัดการรายวัน(16 สิงหาคม 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

2 บิ๊กอสังหาฯที่อยู่ในกระบวนการปรับโครงสร้างหนี้ "กฤษดาฯและเอ็นพาร์ค"แจงผลการดำเนินงาน พบยังขาดทุนต่อเนื่อง ด้านกฤษดาฯชี้ ยอดขายอสังหาฯลดฮวบเกือบ 70% ปัจจัยหลักผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจซื้อบ้าน หวั่นปัญหาประเทศ ราคาน้ำมันและเศรษฐกิจ ขณะที่นโยบายรุกตลาดคอนโดฯ ทำให้ต้องบันทึกรายได้ตามโครงการ "เอ็นพาร์ค" ครึ่งปียอดขาดทุนสุทธิพันล้านบาท ขณะที่เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่งฯ โบ้ยแบงก์เข้มปล่อยสินเชื่อ

นายธเนศวร์ สิงคาลวณิช กรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท กฤษดามหานคร จำกัด (มหาชน) หรือ KMC กล่าวถึงสาเหตุที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 2 และงวดครึ่งแรกของปี 50 ที่มีผลขาดทุนสุทธิเพิ่มขึ้นว่า มีสาเหตุหลักมาจากการลดลงของยอดขายอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นรายได้หลักของบริษัทคิดเป็น 69.40 % โดยมีสาเหตุจากการชะลอการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค เนื่องจากความไม่แน่ใจในสถานการณ์ของประเทศ รวมทั้งราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ตลอดจนบริษัทเปลี่ยนแนวทางธุรกิจจากการขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง มาเป็นการขายคอนโดมิเนียม ในอัตราเพิ่มขึ้น60% ทำให้บริษัทฯ ยังไม่สามารถบันทึกรายได้เพิ่มขึ้นได้

โดยตามงบการเงินที่แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ไตรมาส 2 บริษัทมีรายได้จากการขายอสังหาฯ 58.091 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขายอสังหาฯได้ 189.815 ล้านบาท และมีรายได้อื่นๆ รวมบริษัทมีรายได้ 83.794 ล้านบาท เทียบกับ 262.85 ล้านบาทในช่วงเดียวกันปี 49 ขณะที่ค่าใช้จ่ายรวมปรับลดลเหลือ 178.78 ล้านบาทเทียบกับ 241.10 ล้านบาทในช่วงเดียวกัน ส่งผลให้ตัวเลขขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 104.34 ล้านบาท จากที่มีกำไรสุทธิ 17.08 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปี 49

แต่งวดครึ่งปีแรก บริษัทมีรายได้รวม239.27 ล้านบาท เทียบกับ 706.50 ล้านบาท ในงวดครึ่งปีแรก 49 ค่าใช้จ่ายรวมปรับอยู่ที่ 412 ล้านบาท เทียบกับ 613.47 ล้านบาทในงวดครึ่งปีแรก49 รวมแล้ว มีผลขาดทุนสุทธิ 187.85 ล้านบาท จากที่มีกำไรสุทธิ 83.89 ล้านบาทในครึ่งแรกของปี 49

อนึ่ง ในวันนี้ (16 ส.ค.)ทางบริษัทกฤษดามหานครฯจะมีการจัดแถลงข่าวความคืบหน้าของกลุ่มผู้ร่วมทุนรายใหม่ คือ กลุ่ม Sophast Intercorp พร้อมทั้งนโยบายและทิศทางการดำเนินงานต่อไปของบริษัท จากผู้บริหารกฤษดาฯและคณะผู้บริหารผู้ร่วมทุนรายใหม่ ในเวลา 14.00 น.

เอ็นพาร์คครึ่งปีขาดทุนพันล้าน

นายจุมพลภัทร์ พูลทรัพย์ ผู้มีอำนาจรายงานสารสนเทศ บริษัท แนเชอรัล พาร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ N-PARK กล่าวว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ของปีนี้ บริษัทมีรายได้รวมจำนวน 539.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 225.55 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น71.82 % สำหรับค่าใช้จ่าย(สุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย) บริษัทมีค่าใช้จ่ายรวมจำนวน 1,353.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น829.64 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 158.27% ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากขาดทุนจากการค้ำประกันหนี้ และขาดทุนจากการจำหน่ายเงินลงทุน จึงส่งผลทำให้บริษัทมีขาดทุนสุทธิจำนวน 814.27ล้านบาท

สำหรับงวดหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย. บริษัทมีรายได้รวมจำนวน 767.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 313.42 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 69.08% สำหรับค่าใช้จ่าย(สุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย) บริษัทมีค่าใช้จ่ายรวมจำนวน 1,878.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น965.18 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 105.71 % ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากผลขาดทุนในไตรมาสที่ 2 ตามที่กล่าวไปแล้วข้างต้น จึงส่งผลทำให้บริษัทมีขาดทุนสุทธิจำนวน 1,111.07 ล้านบาท

NCH ขาดทุนต่อ

นายวิเชียร ศิลาพัชรนันท์ รองกรรมการผู้จัดการบริษัท เอ็น.ซี. เฮ้าส์ซิ่ง จำกัดฯ กล่าวว่า ในไตรมาส 2 ปี 50 บริษัทฯและบริษัทย่อยมีขาดทุนสุทธิ 20.7 ล้านบาท เทียบกับปี 2549 ซึ่งมีกำไรสุทธิ

14.6 ล้านบาท มีผลประกอบการลดลง 35.3 ล้านบาท หรือลดลงในอัตราส่วน 242.1 % สาเหตุหลักมาจาก รายได้จากการขายลดลง 153.7 ล้านบาท หรือลดลงในอัตราส่วน 48.3 % โดยมีสาเหตุหลักมาจากปัจจัยลบทางการเมือง และการเพิ่มความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ สำหรับงวด 6 เดือน มีผลขาดทุนสุทธิ 36.8 ล้านบาท เทียบกับปี 2549 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 25.1 ล้านบาท บริษัทฯ ลดลง 1.9 ล้านบาท หรือลดลงในอัตราส่วน246.7 %


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.