ทีทีแอลปรับแผนพร้อมแตกไลน์


ผู้จัดการรายวัน(15 สิงหาคม 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

ทีทีแอล กัดฟันปรับแผนทำตลาด พลิกทุกยุทธ์ศาสตร์รบ หันสัดส่วนส่งออกโยกเป้าจากตะวันออกกลาง เบนเข็มโฟกัสเพื่อนบ้าน พร้อมลดกำลังการผลิต หวังช่วยปั่นยอด ล่าสุดส่งนวัตกรรมใหม่แตกไลน์จับเคหะสิ่งทอครั้งแรก เชื่อเป็นผลดีระยะยาว ช่วยพยุงยอดขายไม่หล่นตามตลาด

นายปองพล อดิเรกสาร ประธานบริหาร บริษัท ทีทีแอล อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจอุตสาหกรรมสิ่งทอ ผลิตและจัดจำหน่ายเส้นด้าย และผ้าผืนที่ผลิตจากเส้นใยสังเคราะห์ แบรนด์ “สิงห์คู่ชูคบเพลิง” เปิดเผยว่า จากผลกระทบของค่าเงินบาทที่แข็งตัวขึ้น ทำให้บริษัทฯต้องปรับแผนการดำเนินงานใหม่ทั้งการผลิตและการส่งออก

โดยในส่วนของการผลิตนั้น จากเดิมที่บริษัทฯผลิตประมาณ 1.25 ล้านหลาต่อเดือนได้ปรับลดลงเหลือเพียง 1 ล้านหลาต่อเดือนเท่านั้น ทั้งๆที่กำลังการผลิตสามารถผลิตได้เต็มที่ 1.5 ล้านหลาต่อเดือน

นอกจากนั้นได้ปรับแผนการส่งออกผลิตภัณฑ์ใหม่ด้วย จากเดิมที่มีตลาดส่งออกหลักอยู่ที่ตลาดตะวันออกกลางซึ่งทำรายได้ในสัดส่วนกว่า 50% ของรายได้รวมทั้งหมดที่มีประมาณ 1,200-1,300 ล้านบาทต่อปี โดยจะปรับไปขยายสู่ตลาดส่งออกที่ประเทศเพื่อนบ้านและประเทศจีนด้วย

ขณะเดียวกันได้ปรับราคาส่งออกเพิ่มขึ้นด้วยประมาณ 5-10% มาได้ระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เจรจากับคู่ค้าก่อนแล้วซึ่งก็เข้าใจเหตุผลดี

การที่บริษัทฯต้องเบนเข็มหันมาจับตลาดประเทศใกล้เคียงเพราะการทำตลาดโดยการส่งสินค้า (ผ้าผืน)ในรูปแบบการขายผ่านพ่อค้าคนกลางนำไปแปรรูปเป็นเสื้อผ้าสำเร็จทำตลาดให้ จะง่ายกว่าการทำตลาดในตะวันออกกลาง เนื่องจากรูปร่างของประชากรคนจีนใกล้เคียงกับคนไทย อีกทั้งประชากรในจีนมีมากถึง 1,300 ล้านคน รสนิยมใกล้เคียงกันมาก ดังนั้นการรุกเข้าตลาดจีนจึงถือเป็นโอกาสที่จะสร้างตลาดใหญ่ได้

นายปองพลกล่าวด้วยว่า สำหรับตลาดในประเทศไทยนั้นก็ได้รับผลกระทบจากสินค้าที่นำเข้ามาจากประเทศจีนและอินเดีย ซึ่งผู้ประกอบการใช้กลยุทธ์การลดราคามาทำตลาด จึงทำให้ตลาดค่อนข้างมีปัญหาในเรื่องราคาอย่างมาก

“กลยุทธ์ที่จะใช้สู้กับสินค้าที่มาจากจีนและอินเดีย คือการนำเรื่องคุณภาพมาแข่งกัน ที่ผ่านมาช่วง 1-2 ปี ต้องยอมรับว่าลูกค้าบางกลุ่มหันไปใช้ของจากจีนมากอยู่เหมือนกัน แต่เมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่งลูกค้าจะรู้ได้เองว่า สินค้าไหนดีกว่ากัน เช่นเดียวกัน การรุกเข้าทำตลาดเพื่อนบ้าน เรามีจุดแข็งตรงการใช้ราคาขายที่อยู่ในระดับกลาง ซึ่งมีความแตกต่างกับประเทศจีนและอินเดียที่ส่วนใหญ่ระดับราคาอยู่ในระดับสูงพอสมควร”

ปัจจุบันสินค้า บริษัท ทีทีแอล ถือเป็นผู้ประกอบการอุตสาหกรรมสิ่งทอที่มียอดการผลิตและจัดจำหน่ายเป็นหนึ่งในผู้นำอุตสาหกรรมสิ่งทอในประเทศไทย โดยผลิตภัณฑ์หลัก 2 ชนิด คือด้าย และผ้าผืน ซึ่งทอจากเส้นด้ายที่ผลิตขึ้นเอง ทั้งผ้าดิบที่ยังไม่ได้ย้อมสีและแต่งสำเร็จ และผ้าสำเร็จรูปที่ย้อมสีและแต่งสำเร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งผลิต 3 กลุ่มหลัก ประกอบด้วย 1. ชุดนักเรียน ชุดลูกเสือ เครื่องแบบข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ที่ปัจจุบันมี 70% ทั้งของรายได้และส่วนแบ่งในตลาด 2. เครื่องแบบ รัฐวิสาหกิจต่างๆ อาทิ เครื่องแบบทหาร การบินไทย ฯลฯ 3. เครื่องนุ่งห่ม (เครื่องแต่งกาย) ซึ่งผลิตส่งสินค้าให้กับแบรนด์เนม เช่น แอร์โรว์ แมนเชสเตอร์ แก็ป จีคิว เป็นต้น

ล่าสุดได้แตกไลน์ธุรกิจใหม่ด้วยการนำนวัตกรรมใหม่ๆเข้ามาทำตลาดในประเทศ (เคหะสิ่งทอ) เช่น ผ้าคลุมเตียง ผ้าม่าน ผ้านาโน และผ้ากลิ่นหอมทำตลาดเสริมตลาด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนทำตัวอย่าง และลูกค้านำสินค้าเสนอขายในตลาดอยู่ โดยเชื่อว่าการทำตลาดแบบใหม่ จะเป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยผลักดันยอดขายได้ในอนาคต

สำหรับยอดรายได้ปีนี้ บริษัทฯคาดว่าจากปัจจัยลบทางการเมืองอีกทั้งเศรษฐกิจและค่าเงินบาทที่ยังไม่มีความแน่นอนมั่นใจว่าจะยังรักษาระดับยอดขายเท่ากับปีที่ผ่านมาที่ทำได้ 1,200 –1,300 ล้านบาท ได้


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.