หุ้นไทยไม่ฟื้นดัชนีหลุด800จุด


ผู้จัดการรายวัน(15 สิงหาคม 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

ภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์วานนี้(14 ส.ค.) ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน สวนทางดัชนีตลาดหุ้นในต่างประเทศที่ต่างปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังนักลงทุนเริ่มคลายกังวลต่อปัญหาซับไพร์มที่เกิดขึ้นทั้งในสหรัฐอเมริกาและยุโรป โดยนักลงทุนต่างชาติยังพร้อมใจขายหุ้นขนาดใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มพลังงานส่งผลทำให้ดัชนีปรับตัวลดลงปิดที่ 793.82 จุด ลดลง 11.02 จุด หรือ 1.37% โดยจุดสูงสุดของวันอยู่ที่ 803.02 จุดและจุดต่ำสุดอยู่ที่ 791.33 จุด มูลค่าการซื้อขาย 15,689.41 ล้านบาท

ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,983.29 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 1,157.19 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 2,826.10 ล้านบาท โดยแค่ 9 วันทำการตั้งแต่ 1 ส.ค.-14 ส.ค.นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิแล้วถึง 2.3 หมื่นล้านบาท

นายเอกพิทยา เอี่ยมคงเอก ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ บีฟิท จำกัด (มหาชน) หรือ BSEC กล่าวว่า ขณะนี้ยังคงเป้าหมายดัชนีสิ้นปีนี้ไว้ที่ระดับ 905 จุด ขณะที่ P/E ตลาดหุ้นอยู่ที่ระดับ 12 เท่า ส่วนกำไรของบริษัทจดทะเบียนเติบโต 10% แม้ว่าระยะสั้นดัชนีตลาดหุ้นจะปรับตัวลดลง แต่ในระยะกลาง-ยาวยังมีมุมมองดัชนีตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ เนื่องจากราคาหุ้นไทยถือว่ายังถูกจากที่ปัจจุบันเฉลี่ย P/E ตลาดหุ้นไทยอยู่ที่ระดับ 11.4 เท่าเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นภูมิภาคที่อยู่ในระดับสูง

ทั้งนี้ แม้ว่าในช่วงนี้โอกาสที่นักลงทุนต่างชาติจะปรับพอร์ตการลงทุนนั้นยังคงมีสูง แต่ภายหลังจากที่สถานการณ์ต่างๆเป็นไปตามคาดการณ์และเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น เชื่อว่านักลงทุนต่างชาติจะทยอยกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง

“ภายหลังจากที่มีการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญที่ใกล้จะถึงนี้ มั่นใจว่านักลงทุนต่างชาติจะเริ่มกลับมาทยอยซื้อสุทธิ หากปัจจัยดังกล่าวเป็นไปตามคาดการณ์ไว้และมีความชัดเจนมากขึ้น ส่วนภายหลังจากที่มีการเลือกตั้งดัชนีตลาดจะค่อยๆเริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งไม่จำเป็นที่ดัชนีจะปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงทันทีตามที่ก่อนหน้านี้มีการหลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ว่าจะถึง 1,000 จุด”นายเอกพิทยากล่าว

แนะเก็บหุ้นใหญ่

นายวิวัฒน์ เตชะพูลผล หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ทางเทคนิค บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯปรับตัวลดลง เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติปรับพอร์ตการลงทุนภายหลังจากที่ก่อนหน้านี้ทยอยซื้อมานานพอสมควรแล้ว โดยส่วนใหญ่จะทยอยขายในหุ้นขนาดใหญ่เช่นกลุ่มพลังงาน และธนาคารพาณิชย์ ซึ่งคาดว่าจะขายทำกำไรต่อเนื่องอีกหลายสัปดาห์นับต่อจากนี้ จนกว่าปัญหาเรื่องสินเชื่อด้อยคุณภาพ(ซับไพรม์)ในสหรัฐฯจะมีความคลี่คลายในทิศทางที่ดีมากขึ้น

ทั้งนี้ นอกเหนือจากปัญหาเรื่องซับไพรม์เชื่อว่า นักลงทุนบางส่วนยังมีความกังวลเกี่ยวกับการแก้ไขคำนิยามเกี่ยวกับพ.ร.บ.ต่างด้าว เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนในแนวทางของการแก้ไขและกฏหมายต่างๆ ขณะที่ปัจจัยเรื่องการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 19 สิงหาคม 50 นี้ มองว่าไม่ว่าผลจะออกมาว่าจะผ่านหรือไม่ผ่านนั้นคงไม่มีนัยสำคัญมากนัก เพราะว่า นโยบายภาครัฐฯยังคงเดินหน้าให้มีการเลือกตั้งได้

อย่างไรก็ตาม หลังดัชนีปรับตัวตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 800 จุด แนะนำให้นักลงทุนระยะยาวทยอยซื้อสะสมในหุ้นกลุ่มขนาดใหญ่ที่มีพื้นฐานดี โดยประเมินแนวรับที่ 775 จุด และแนวต้านที่ 805-810 จุด

“ ตนมองว่าช่วงที่ดัชนีปรับตัวลดลงต่ำกว่า 800 จุด เป็นช่วงจังหวะที่นักลงทุนระยะยาวจะเข้าทยอยซื้อสะสม ขณะเดียวกันเราเชื่อว่าปัจจุบันนักลงทุนภายในประเทศคงไม่กลัวปัจจัยเกี่ยวกับซับไพรม์แล้ว เพราะว่าปัญหาดังกล่าวน่าจะสะท้อนกับจิตวิทยาการลงทุนพอสมควร”นายวิวัฒน์กล่าว

“ประเสริฐ”ลุ้นต่อเอ็มดีปตท.อีกสมัย

รายงานข่าวจากบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) แจ้งว่า วานนี้ ( 14 ส.ค.) ถือเป็นวันสุดท้ายของการเปิดรับสมัครตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หลังจากนายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ ที่หมดวาระลงไปเมื่อ 10 ส.ค. ที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีคนที่สมัครเพียงคนเดียว คือนายประเสริฐเอง

ดังนั้น หลังจากนี้ นายจุฑาธวัช อินทรสุขศรี ปลัดกระทรวงแรงงานในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหาจะเรียกนายประเสริฐมาแสดงวิสัยทัศน์ คาดว่าจะเสนอผลการสรรหาเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการปตท.ภายในเดือนส.ค.นี้

แหล่งข่าวจากปตท. กล่าวว่า มีความเป็นไปได้สูง ที่นายประเสริฐจะได้รับการสรรหาให้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ปตท.อีกสมัย โดยขณะนี้นายประเสริฐมีอายุ 56 ปี เหลืออยู่อีก 4 ปีเท่ากับวาระที่ที่จะดำรงตำแหน่ง และที่ผ่านมาถือว่าผลงานการทำงานในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ปตท.ของนายประเสริฐ อยู่ในเกณฑ์ที่ดี


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.