งบโฆษณาพลิกรับเทรนด์เปลี่ยนช่องทางสื่อสารเพิ่มคนดูทีวีน้อยลง


ผู้จัดการรายวัน(10 สิงหาคม 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

ทรี-อาร์ดี ชี้เทรนด์การใช้งบโฆษณาเปลี่ยน สู่ยุคสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างแทนที่การรับรู้ เจ้าของแบรนด์โยกงบใช้บีโลว์เดอะไลน์ รับพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนมีสื่อสารหลากหลาย ดูโทรทัศน์น้อยลง ระบุหากเศรษฐกิจดีปีหน้า เทคโนโลยีโทรศัพท์มือถือมาเต็มรูปแบบ โอกาสเป็นเครื่องมือสื่อสารผ่านผู้บริโภคบูมมีสูง ล่าสุดร่วมทุนอินเด็กซ์ฯ ตั้งบริษัท ทรี-อาร์ดี โชว์ 4 เดือนกวาดลูกค้า 10 ราย

นางสาวกนกพร นิตย์ธีรานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทรี-อาร์ดี จำกัด ผู้ให้บริการการตลาดแบบตรง เปิดเผยว่า ขณะนี้พบว่าเจ้าของสินค้าต้องการใช้งบให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดทางการสื่อสาร ดังนั้นคาดว่าเทรนด์การใช้งบจะเปลี่ยนแปลงไป โดยการใช้อีเวนต์จะมีมากขึ้น ส่วนการใช้งบผ่านสื่อจะมีลดลง โดยมีหลายประเทศที่ใช้งบบีโลว์เดอะไลน์ถึง 70% ส่วนอีก 30% เป็นอะโบฟเดอะไลน์ สำหรับประเทศไทย ขณะนี้การใช้งบบีโลว์เดอะไลน์ราว 40% และอะโบฟเดอะไลน์ 60% และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 50 :50 ในอนาคต ทั้งนี้ปัจจัยที่ทำให้การใช้งบเปลี่ยน เกิดจากพฤติกรรมของผู้บริโภคทำทุกอย่างพร้อมกัน และดูโทรทัศน์น้อยลง

“ช่วงภาวะเศรษฐกิจหดตัว พบว่ามีเจ้าของสินค้าโยกงบอะโบฟเดอะไลน์มาใช้บีโลว์เดอะไลน์ในสัดส่วนถึง 20-50% ในขณะที่เจ้าสินค้าบางรายมีงบในการทำตลาดอยู่แล้ว แต่ต้องการใช้บีโลว์เดอะไลน์ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น หรือต้องการเปลี่ยนจากการสร้างการรับรู้ มาเป็นการสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค”

โทรศัพท์มือถือ อาวุธมาแรงปี 51

นายชัชวาล คูสมิทธิ์ ผู้จัดการด้านการสื่อสารและที่ปรึกษา บริษัท ทรี-อาร์ดี จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีหน้าถ้าทิศทางของเศรษฐกิจดี มีแนวโน้มว่าเทคโนโลยีทางโทรศัพท์มือถือจะเข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้น เนื่องจากปัจจุบันพฤติกรรมของคนไทยพร้อมที่จะรับเทคโนโลยีใหม่อย่างเต็มรูปแบบอยู่แล้ว ดังนั้นมีโอกาสที่เทรนด์สินค้าจะใช้ระบบดังกล่าวทำปฏิสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภคมีมากขึ้น จากปัจจุบันระบบโทรศัพท์มือถือใช้เอสเอ็มเอส เอ็มเอ็มเอส เป็นต้น

“ผู้บริโภคในยุคนี้มีจุดสัมผัสแบรนด์ที่แตกต่างกัน เพราะตามสถานที่ต่างๆ พบเจอแบรนด์หลากหลาย แต่สิ่งที่สำคัญ คือ ทำอย่างไรให้ผู้บริโภคนึกถึงแบรนด์และการเกิดการซื้อสินค้านั้นๆ ได้”

นายเกรียงกานต์ กาญจนะโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเด็กซ์ อีเว้นท์ เอเจนซี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธุรกิจด้านการสื่อสารการตลาดเป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่น่าสนใจ และมีแนวโน้มการเติบสูงสวนกระแสเศรษฐกิจที่กำลังซบเซาในปัจจุบัน เพราะการสื่อสารการตลาดสามารถสร้างปฏิสัมพันธ์โดยตรงระหว่างผู้บริโภคกับแบรนด์ และมีส่วนช่วยเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดได้เป็นอย่างดี

ร่วมทุนตั้งบริษัททรี-อาร์ดี

นางสาวกนกพร กล่าวเพิ่มเติมว่า ล่าสุดได้ร่วมทุนกับบริษัท อินเด็กซ์ อีเว้นท์ เอเจนซี่ จำกัด (มหาชน) ตั้งบริษัท ทรี-อาร์ดี จำกัด ในสัดส่วน 50:50 เพื่อรุกธุรกิจสื่อสารการตลาดแบบอินเทอร์แอคทีฟ ทั้งนี้บริษัทวางโพซิชันนิงเป็นธุรกิจวัน สตอป อินเตอร์แอคทีฟ มาร์เก็ตติง คอมมูนิเคชัน เอเยนซี โดยมุ่งเน้นการให้แบรนด์ลูกค้าได้เพิ่มส่วนแบ่งการตลาดผ่านช่องทางสื่อสารที่ชักจูงให้ผู้บริโภคเป้าหมายตอบสนองกับแบรนด์โดยตรง และวัดผลได้รวดเร็ว อีกทั้งยังให้บริการด้านคอลเซ็นเตอร์ และด้านข้อมูล ซึ่งได้ใช้งบลงทุนเครื่องมือด้านซอฟต์แวร์ ร่วม 10 ล้านบาท ทั้งนี้หลังจากที่เปิดดำเนินการตั้งแต่เดือนเมษายน ที่ผ่านมา มีลูกค้ามาใช้บริการ 10 ราย และกำลังจะมีลูกค้าที่เข้ามาอีก 10 ราย โดยบริษัทตั้งเป้าผลประกอบการมีกำไรในปีแรกอย่างแน่นอน


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.