SAMเดินหน้าขยายพอร์ตหนี้เล็งประมูลเพิ่มทั้งปี2หมื่นล้าน


ผู้จัดการรายวัน(9 สิงหาคม 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

เอเอ็มซีสุขุมวิทเดินหน้าขยายพอร์ตหนี้ เล็งเข้าซื้อหนี้สถาบันการเงิน ทั้งกสิกรไทย ซิตี้แบงก์ คาดทั้งปีจะซื้อหนี้ได้ 2 หมื่นล้านบาท ยันการบริหารหนี้ 2.1 แสนล้านบาท เรียกเก็บหนี้สร้างผลตอบแทนได้ถึง 50% ในปัจจุบัน งัดกลยุทธ์เปิดทรัพย์เด่นและเข้าร่วมมหกรรมบ้านมือสองแห่งชาติ หวังระบายเอ็นพีเอกว่า 5.8 พันล้านบาทเป็นเงินสด ทั้งที่ดินโซนรามคำแหง ที่ดินสุวรรณภูมิ ระบุมีหุ้นของไออาร์พีซีและทีพีไอโพลีนกว่า 1.6 พันล้านบาท

นางน้ำผึ้ง วงศ์สมิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (SAM) เปิดเผยถึงนโยบายการบริหารหนี้และทรัพย์สินรอการขาย(เอ็นพีเอ) ว่า ในปีนี้ทาง SAM ตั้งเป้าที่จะรับซื้อหนี้จากสถาบันการเงินเพิ่มขึ้น เนื่องจากหนี้ที่บริหารอยู่ประมาณ 210,000 ล้านบาท มีความคืบหน้าในการปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งหนี้ดังกล่าวแยกออกเป็น 2 ส่วน คือ 190,000 ล้านบาท เป็นหนี้เก่าที่ได้รับโอนมาจากธนาคารกรุงไทย และการโอนหนี้จากบบส.เพชรบุรี ที่ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อรับโอนหนี้ของธนาคารนครหลวงไทยเข้ามา โดยภายในปี 2551 SAM จะต้องได้ข้อยุติจากการรับโอนหนี้ให้ได้ 100% จากที่ตั้งเป้าไว้ในปีนี้ 96%

ขณะที่หนี้อีกประมาณ 17,000 ล้านบาท เป็นส่วนที่ SAM เริ่มเข้าไปประมูลมาจากสถาบันการเงินในช่วงปลายปี 2548 ที่ผ่านมา เช่น หนี้ของธนาคารไทยธนาคาร ,ธนาคารทหารไทย ในส่วนนี้จะต้องเจรจาให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน และต้องใช้ระยะเวลาในการปรับโครงสร้างหนี้ไม่เกิน 3 ปี

"ตลอดระยะเวลาที่ SAM ถูกจัดตั้งขึ้นมา มูลหนี้ที่ต้องรับมาบริหารประมาณ 4 แสนล้านบาท จนลดลงมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเห็นได้ว่า ผลการดำเนินงานค่อนข้างได้ผล โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา อัตราผลตอบแทนอยู่ระดับ 42% และในปัจจุบันสามารถทำผลตอบแทนได้ถึง 50% สูงกว่า 42% ที่เสนอแผนต่อกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน และคาดว่าจะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน SAM มีกระแสเงินสดต่อเดือนไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท " นางน้ำผึ้ง กล่าวและว่า

ภายในปีนี้ SAM ตั้งเป้าเจรจาซื้อหนี้กับสถาบันการเงินที่จะนำพอร์ตลูกหนี้ออกมาประมูล เช่น ธนาคารกสิกรไทย ที่จะเปิดประมูลในเดือนก.ย.นี้ และธนาคารซิตี้แบงก์ ที่จะนำพอร์ตลูกหนี้ประเภทวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) สินเชื่อรายย่อยออกมาประมูล เป็นต้น คาดว่าภายในสิ้นปีนี้ ทาง SAM จะมีพอร์ตลูกหนี้เพิ่ม 20,000 ล้านบาท จากที่ปัจจุบันได้ซื้อหนี้มาแล้ว 9,000 ล้านบาท

นางน้ำผึ้งกล่าวว่า ในส่วนของเอ็นพีเอนั้น เป็นปีแรกที่ได้นำทรัพย์กว่า 14,000 ล้านบาทออกมาจำหน่าย ผ่านกลยุทธ์ "สินทรัพย์ทำเลทอง คุ้มค่าการลงทุน"และร่วมในงาน "มหกรรมบ้านมือสองแห่งชาติ ครั้งที่ 3" โดยจะนำทรัพย์ออกมาประมูลและจำหน่ายมูลค่ากว่า 5,800 ล้านบาท แยกเปิดให้นักลงทุนประมูลซื้อทรัพย์ มูลค่ารวม 2,245.79 ล้านบาท จำนวน 23 รายการ ยื่นซองประมูลในวันที่ 3 ก.ย..นี้

ส่วนรายการทรัพย์เด่นที่นำมาประมูล เช่น ที่ดินเปล่าหน้ากว่าติดถนนรามคำแหง36 เมตร เนื้อที่ 9 ไร่ ราคาเริ่มต้น 289 ล้านบาท ที่ดินเปล่าใน จ.เชียงใหม่ ติดถนนวงแหวนรอบกลาง และถนนเชียงใหม่สันกำแพง เนื้อที่ 9 ไร่ ราคาเริ่มต้น 41 ล้านบาท หรืออาคารโรงพยาบาลเมืองเพชร-ธนบุรี เนื้อที่ 8 ไร่ พื้นที่ประมาณ 17,000 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 210 ล้านบาท เป็นต้น

สำหรับรายการมหกรรมบ้านมือสองแห่งชาติ มีทรัพย์สินราคาพิเศษ 252 รายการ มูลค่าตลาด 3,498.45 ล้านบาท มีทั้งทรัพย์ต่ำสุด 8 แสนบาทถึงทรัพย์สูงสุด 35.60 ล้านบาท เช่น ห้องชุดสำนักงานอาคารชาญอิสระทาวเวอร์ 1 และทาวเวอร์ 2 เป็นต้น

" กลยุทธ์ทั้งสองรายการจะหนุนยอดการจำหน่ายทรัพย์ของแซมได้ต่อเนื่อง คาดว่าจะมียอดขายไม่ต่ำกว่า 1,100 ล้านบาท ขณะที่ตลอดทั้งปีนี้ ได้วางเป้าขายเอ็นพีเอไว้ 2,100 ล้านบาท โดยปัจจุบันตัวเลขการขายเอ็นพีเอใกล้เคียงกับเป้าทั้งปีแล้ว "กรรมการผู้จัดการกล่าว

ในส่วนเอ็นพีเอของ SAM จำนวน 14,000 ล้านบาท แบ่งเป็นอสังหาริมทรัพย์ประมาณ 8,200 ล้านบาท หรือคิดเป็น 57% ที่เหลือเป็นหุ้นของหุ้นของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯประมาณ 22% หรือ 3,200 ล้านบาท โดยมีหุ้นของบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ (ทีพีไอเดิม) และบริษัท ทีพีไอโพลีน จำกัด (TPIPL) คิดเป็นจำนวนหุ้นครึ่งหนึ่งของ 22% และหุ้นของบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์ฯอีก 2,900 ล้านบาท หรือ 21%


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.