กลุ่มผู้ผลิตเล็งขุดทองตลาดผู้ชาย เร่งเปิดไลน์โปรดักส์-จัดทัพสินค้าขึ้นชั้นวางเฉพาะ


ผู้จัดการรายวัน(6 สิงหาคม 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

พีแอนด์จี ระบุกระแสเมโทรเซ็กซ์ชวลผู้ชายไทยยังไม่เต็มใบ แบรนด์ ลอยัลตี้มีน้อย ทัพสินค้าเปิดศึกอัดงบครึ่งปีแรกเพิ่ม 72% มูลค่าพุ่งกว่า 700 ล้านบาท หวังกุมหัวใจหนุ่มเจ้าสำอางสำเร็จมีชัยไปกว่าครึ่ง "ไวตามิ้ลค์" ชี้ตลาดอาหารไม่มีสินค้าตอบโจทย์ผู้ชาย ลั่นเป็นขุมทรัพย์ที่มีศักยภาพ โมเดิร์นเทรดรับกระแสผุดชั้นวางเฉพาะ อีก 3-4 ปี พฤติกรรมเปลี่ยนเจริญรอยตามโรลออนแยกสินค้าใช้กับผู้หญิงชัดเจน

นายเมธี จารุมณีโรจน์ ผู้จัดการฝ่ายการสื่อสารการตลาดและองค์กร บริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้แนวโน้มตลาดเพอร์ซันนัลแคร์หรือผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคลสำหรับผู้ชาย และสกินแคร์หรือผลิตภัณฑ์ดูแลผิวสำหรับผู้ชาย มีอัตราการเติบโตสูงมากกว่าตลาดรวม เนื่องจากผู้ชายหันมาใส่ใจดูแลตัวเองมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคนเมือง อีกทั้งยังต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เฉพาะเจาะจงสำหรับเพศชาย แต่พบว่าพฤติกรรมผู้ชายในปัจจุบันยังไม่มีความจงรักภักดีต่อแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง หรือนิยมใช้หลากหลายแบรนด์ โดยยังอยู่ในขั้นที่ผู้ชายอยากเปลี่ยนอยากลองเพื่อทดสอบสินค้าไปเรื่อยๆ ดังนั้นมองว่าตลาดนี้ยังต้องใช้เวลาในการให้ข้อมูลผ่านการสื่อสารในรูปแบบต่างๆ

สำหรับแผนการตลาดในกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ชายภายใต้แบรนด์ยิลเลตต์ ซึ่งปัจจุบันมีสินค้าเฉพาะกลุ่มโกนหนวดเท่านั้น แต่ในต่างประเทศยิลเลตต์มีมอยซ์เจอร์ไรซ์เซอร์สำหรับผู้ชาย อย่างไรก็ตามบริษัทยังไม่มีแผนที่จะนำผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเข้ามาทำตลาด เนื่องจากพฤติกรรมผู้ชายไทยปัจจุบันใช้แค่โฟมล้างหน้าเท่านั้น ขณะที่การใช้มอยซ์เจอร์ไรซ์เซอร์มีน้อยมาก หรือพูดง่ายๆ ผู้ชายไทยยังไม่ได้เป็นเมโทรเซ็กชวลอย่างเต็มตัว

สินค้าแห่อัดงบหวังกุมหัวใจชายไทย

ความจงรักภักดีต่อแบรนด์ที่มีน้อยของผู้ชายไทย ทำให้ผู้ประกอบการในตลาดทุ่มงบการตลาดจำนวนมหาศาล เพื่อหวังกุมหัวใจผู้ชายไทย ซึ่งหากแบรนด์ไหนทำได้ นั่นหมายถึงมีชัยไปกว่าครึ่ง จากตัวเลขบริษัท เอซี นีลเส็น พบว่า ปีนี้ในช่วงเดือนมกราคม - มิถุนายน ตลาดผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ชายทุ่มงบโฆษณาเพิ่มขึ้นถึง72% หรือคิดเป็นมูลค่า 707 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 410 ล้านบาท

โดยสินค้าที่มีการใช้สื่อโฆษณาสูงสุดทั้งหมด 15 แบรนด์ ได้แก่ แชมพู คลินิก เคลียร์ฟอร์เมน ใช้ไปประมาณ 107 ล้านบาท แอ็กซ์ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นใต้วงแขนสำหรับผู้ชาย 98 ล้านบาท เพิ่มจากเดิม 34 ล้านบาท เรโซน่า ฟอร์เมน 71 ล้านบาท ทรอส ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย เพิ่มจาก 26 ล้านบาท เป็น 33 ล้านบาท ส่วนผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม เพิ่มจาก 7 ล้านบาท เป็น 13 ล้านบาท ซีทีอาร์แอล 10 ล้านบาท นีเวีย บอดี้ สกินแคร์ 60 ล้านบาท ส่วนสินค้าที่ใช้งบโฆษณาลดลง เฮดแอด์โชว์เดอร์ จาก 105 ล้านบาท เป็น 89 ล้านบาท นีเวีย สกินแคร์สำหรับหน้า จาก 90 ล้านบาท เป็น 76 ล้านบาท บีโอเร โฟมล้างหน้า 60 ล้านบาท เป็น 58 ล้านบาท นีเวีย ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย จาก 59 ล้านบาท เป็น 54 ล้านบาท เป็นต้น

ตลาดอาหารไม่มีสินค้าสนองผู้ชาย

นายชนิต สุวรรณพรินทร์ ผู้จัดการทั่วไปสายงานการตลาด บริษัท กรีนสปอต จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายนมถั่วเหลืองไวตามิ้ลค์ กรีนสปอต เปิดเผยว่า ตลาดผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ชายกลายเป็นตลาดใหญ่และมีศักยภาพ ขณะนี้แม้แต่ช่องทางจำหน่ายโมเดิร์นเทรด ก็เริ่มให้ความสำคัญกับตลาดดังกล่าว ด้วยการจัดชั้นวางที่เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ชายโดยเฉพาะ แต่ปัจจุบันในกลุ่มอาหารยังไม่มีสินค้าชนิดไหนที่ตอบสนองความต้องการของผู้ชาย อย่างเช่นนม จากข้อมูลพบว่า ลึกๆ ในใจของผู้ชายไม่อยากดื่มนม เพราะรู้สึกอายในการซื้อ ทำให้ผู้ชายเมื่อโตจะเลิกดื่มนม ล่าสุดบริษัทจึงได้เปิดตัวนมถั่วไวตามิ้คล์ ทูโก 330 มล. เพื่อเจาะกลุ่มผู้ชายโดยเฉพาะอายุระหว่าง 20-35 ปี อย่างไรก็ตามในตลาดอาหาร ยังมีสินค้าที่หลากหลายกลุ่ม ที่ผู้ชายรู้สึกว่ากินแล้วรู้สึกเขิน อาทิ โยเกิร์ต ฯลฯ

สินค้าแมส-พรีเมียมหวังยึดหัวหาด

สำหรับในปีนี้มีสินค้าเป็นยูนิเซ็กซ์ คือ ใช้ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง หรือกระทั่งสินค้าที่เป็นแบรนด์สำหรับผู้หญิงก็แตกโปรดักส์ออกมาเพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายผู้ชายโดยเฉพาะ อย่าง เรโซน่า ฟอร์ เมน เปิดตัวผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายสำหรับผู้ชาย จากเดิมเรโซนาจะเป็นผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายสำหรับผู้หญิง คลีนิค เคลียร์ ฟอร์เมน เปิดตัวแชมพูขจัดรังแคสำหรับผู้ชาย บริษัท ดีทแฮล์ม นำเข้าผลิตภัณฑ์ อาดิดาส สกินแคร์ ฟอร์เมน จากประเทศสเปน เข้ามาทำตลาดในไทย ขณะที่นีเวีย เปิดตัวโลชั่นสำหรับผู้ชาย โดยเป็นการสร้างตลาดต่อยอดจากการใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับหน้าสู่ร่างกาย จากที่ผ่านมาตลาดบนใบหน้าได้ทำไปแล้วในระดับหนึ่ง

ทั้งนี้พบว่าในช่วงครึ่งปีแรกตลาดผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ชายมีอัตราการเติบโต 20-21% ซึ่งถือว่าเป็นการเติบโตที่สวนกระแสกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ โดยปัจจุบันมูลค่าตลาดผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ชายมีราว 2,500 ล้านบาท เมื่อเทียบกับตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิวสำหรับผู้หญิงมูลค่า 7,200 ล้านบาท แม้ว่าตลาดสำหรับผู้ชายยังห่างไกลกัน แต่ก็นับว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะกระแสเมโทรเซ็กซ์ชวลหรือผู้ชายเจ้าสำอางที่กำลังมาแรงในยุคนี้

ข้อมูลจาก บริษัท ไบเออร์สด๊อรฟ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลผิว นีเวีย ประมาณการณ์ว่าในอีก 3-4ปีข้างหน้านี้ คาดว่าพฤติกรรมการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวสำหรับผู้ชาย จะแยกกันอย่างชัดเจนกับผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็น การใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า ดูแลผิว และบอดี้โลชั่น จากปัจจุบันผู้ชายไทยเกือบ 80-90% ยังใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผู้หญิง ทั้งนี้ตลาดผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่น กลายเป็นตลาดที่แยกจากตลาดผู้หญิงอย่างชัดเจนมานานแล้ว


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.