|
อานุภาพของคำว่า "ลดราคา"
นิตยสารผู้จัดการ( สิงหาคม 2550)
กลับสู่หน้าหลัก
นับว่าเป็นงานขายสินค้าที่จัดต่อเนื่องมายาวนานถึง 11 ปี สำหรับงานสหกรุ๊ปเอ็กซ์ปอร์ต แอนด์ เอ็กซิบิชั่น ของเครือสหพัฒน์ ทุกปีที่ผ่านไปจำนวนสินค้าและผู้คนที่เข้ามาร่วมงานก็ยิ่งมากขึ้น
ความตั้งใจดั้งเดิมของเครือสหพัฒน์ในการจัดงานครั้งแรก ก็คือการขายสินค้าอุปโภคบริโภคในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจในปี 2540 และงานปีแรกถูกจัดขึ้นที่ท้องสนามหลวง ขายกันแบบตลาดนัด ซึ่งผู้คนก็ล้นสนามหลวงอีกเช่นกัน แม้ว่าในภาวะช่วงนี้เงินใน กระเป๋าจะไม่เอื้ออำนวยก็ตามที
จากนั้นงานนี้ก็พัฒนาเรื่อยมาจนมาลงตัวที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พร้อมๆ กับปรับรูปแบบของงานให้ทันสมัยและกลายเป็นงานประจำปีของเครือสหพัฒน์ไปในที่สุด เพราะงานนี้จะมีการนำนวัตกรรมใหม่ๆ ที่คิดค้นออกมาเผยแพร่ รวมถึงเปิดตัวสินค้าใหม่ๆ ด้วย
จากจุดเริ่มต้นงานขายของกินของใช้ธรรมดา เรียบง่าย กลายมาเป็นงานขายสินค้าที่มีลูกเล่นมากขึ้น
งานปีนี้ยังคงแนวคิดขายสินค้าเก่า เปิดตัวสินค้าใหม่ ภายใต้ชื่อ Innovation to serve the world เพื่อเป็น การทดสอบตลาดและผู้บริโภคดูว่าตอบรับมากน้อยแค่ไหน ความพิเศษของปีนี้คือโซน Highlight Square ที่เป็นศูนย์รวมของสินค้าใหม่ๆ ในเครือสหพัฒน์มาไว้ที่เดียวกัน ไม่ต้องไปเดินหา ตามบูธต่างๆ
ตัวอย่างของสินค้า ใหม่ เช่น เครื่องดื่มเสริมอาหาร I-Healti Q10 ที่ว่ากันว่าดื่มแล้วสวยงามผิวพรรณเต่งตึง เดิมเป็นส่วนประกอบของเครื่องสำอางแต่พัฒนาให้กลายมาเป็นเครื่องดื่ม เหมือนเครื่องดื่มชูกำลัง และที่สำคัญมีคำเตือนข้างขวดด้วยว่า ห้ามดื่มเกิน วันละ 2 ขวด
Natalie by BSC นาทีนี้นางงามจักรวาลที่คุ้นหูคุ้นตาคนไทย มากที่สุดก็คือ นาตาลี เกลโบว่า หรือ "ฟ้า" หวานใจภราดร ศรีชาพันธ์ ที่ออกผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในชื่อของตัวเองกับบริษัท ไอซีซี และเธอใช้งานนี้เปิดตัวสินค้าอย่างเป็นทางการที่ประเดิมด้วยอาหารเสริม ซึ่งในอนาคตเธอบอกว่า อาจจะมีสินค้าอื่นตามมาอีก แน่นอนว่ายังคง ใช้ชื่อ Natalie เป็นแบรนด์หลัก ส่วนจะมีแบรนด์ Paradon หรือไม่นั้น ต้องรอดูกันต่อไป
สินค้าอุปโภคบริโภคของเครือสหพัฒน์อื่นๆ ถูกจัดให้อยู่ในความนิยมระดับต้นๆ อยู่แล้ว ผู้บริโภครู้จักดี ยกเว้นบางกลุ่มสินค้า หรือบริการที่บางคนไม่รู้มาก่อนว่าเป็นของเครือสหพัฒน์ ทั้งๆ ที่ใช้มานานแล้ว
ที่ดูน่าสนใจก็คือการพัฒนาร้าน 108 Shop ที่เครือสหพัฒน์ ทำมานานแต่ยังไม่เข้าที่เข้าทางเท่าไร จนล่าสุดทางผู้บริหารคิดระบบ Auto Reorder ขึ้นมาเพื่อใช้กับร้านสะดวกซื้อแห่งนี้ โดยระบบจะทำหน้าที่สั่งซื้อสินค้าแทนเจ้าของร้านด้วยการประมวลข้อมูลการขาย ของร้านในแต่ละวัน แล้วทำการสั่งซื้อสินค้าเพิ่มเติม เพื่อให้เหมาะสม และทันเวลาในการขายสินค้า ระบบใหม่ทำให้เจ้าของร้านสะดวกสบาย มากขึ้น ไม่ต้องกังวลเรื่องสต็อกสินค้า หรือสั่งซื้อสินค้าผิดพลาด
เครือสหพัฒน์ต้องการให้เจ้าของร้านนั่งเก็บอย่างเดียวก็พอ
สินค้าใหม่อีกชิ้นหนึ่งก็คือ Vending Machine Prototype หรือเครื่องหยอดเหรียญขายเครื่องดื่ม อาหาร ขนม ที่วางอยู่ในอาคาร สำนักงาน ศูนย์การค้า เครือสหพัฒน์ก็เป็นผู้ดูแลเครื่องเหล่านี้ งานนี้ ตู้หยอดเหรียญได้รับการพัฒนามากขึ้น
เวฑิต โชควัฒนา ผู้บริหารบริษัท ซัน คัลเลอร์ ผู้ดูแลเครื่องหยอดเหรียญอธิบายว่า เครื่องรุ่นใหม่เป็นการรวมเครื่องหลายๆ ประเภทไว้ในตัวเดียวกัน เป็นทั้งสินค้าและบริการ
สินค้าก็สามารถขายได้ตั้งแต่เครื่องดื่ม นม กาแฟ ขนม และบะหมี่สำเร็จรูปที่สามารถชงน้ำร้อนรับประทานได้ทันที ส่วนบริการ ก็สามารถเติมเงินโทรศัพท์มือถือได้ทุกระบบ และสามารถหยอดเงินด้วยเหรียญ ธนบัตร และสามารถทำให้บัตรพนักงานของแต่ละบริษัท นำมาใช้จ่ายเงินได้ด้วย
นอกจากโซนนวัตกรรมใหม่แล้ว ก็เป็นส่วนของสินค้าในเครือ ทั้งที่เป็นของเครือสหพัฒน์ และบริษัทร่วมทุน พื้นที่ส่วนกลางที่มีไว้แสดงศักยภาพก็ได้รับความสนใจเหมือนทุกปี แต่พื้นที่หลักต้องออกมาด้านนอกนั่นก็คือพื้นที่ขายสินค้าลดราคา
ตรงนี้คือสมรภูมิของแม่บ้านพ่อบ้านตัวจริง เพราะนี่คือจุดประสงค์เริ่มต้นของงานนี้คือขายสินค้าแบบตลาดนัด แล้วก็สมใจนักชอปปิ้ง เพราะเตรียมรับมือไว้แล้ว
คนที่มางานนี้ ใครที่หอบหิ้วพะรุงพะรังนั่นคือคนปกติ คนที่ไม่ถือถุงสินค้าซักใบ กลายเป็นคนผิดปกติ เช่นเดียวกับคนที่มาแล้วไม่เดินเหยียบเท้าหรือชนใครเลยก็ถือว่าไม่ได้มางานนี้
ผู้บริหารเครือสหพัฒน์คงรู้ดีแล้วว่า นวัตกรรมสุดยอด ยังไม่อาจต้านทานป้ายลดกระหน่ำได้
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|