|
ลีเวอร์ฯสร้างฐานแกร่ง“คนอร์”แตกสินค้า-ขยายตลาด-ปรับลุค
ผู้จัดการรายวัน(19 กรกฎาคม 2550)
กลับสู่หน้าหลัก
ยูนิลีเวอร์ ติดลมบนกลุ่มอาหารโตพรวดเป็นตัวเลขสองหลัก 3 ปีซ้อน ล่าสุดรุดบูมตลาดโจ๊กสำเร็จรูป เท 40 ล้านบาท ส่งสูตรใหม่ “เอนเนอร์จี คัพ โจ๊ก” ชูจุดขายสารอาหารสร้างภาพลักษณ์โจ๊กมีคุณค่าโภชนาการ เจาะกลุ่มแม่บ้านสมัยใหม่ พร้อมอัดกิจกรรม “คนอร์ พลังเด็ก มอร์นิ่งแดนซ์ กับปฏิบัติการ “2อ” หวังกระตุ้นความถี่กินโจ๊กมื้อเช้า สิ้นปีรักษาบัลลังก์ครองแชร์ 82-83%
นายเจอโรม ชาราโชน รองประธานกรรมการบริหาร – กลุ่มธุรกิจอาหารและไอศกรีม บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายโจ๊กสำเร็จรูปตราคนอร์ เปิดเผยว่า แนวโน้มกลุ่มอาหารของบริษัทในเอเชียมีศักยภาพที่จะเติบโตได้อีกมาก เมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลก สำหรับในประเทศไทยตลาดอาหารนับว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพที่จะเติบโตได้ดีเช่นกัน โดยปัจจุบันกลุ่มอาหารมีอัตราการเติบโตมากที่สุดเมื่อเทียบกับสกินแคร์และโฮมแคร์ ตลอดในช่วง 3 ปีที่ผ่านมากลุ่มอาหารมีอัตราการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก ปัจจุบันยอดขายกลุ่มอาหารคิดเป็น 20% ของรายได้รวมทั้งหมด
ล่าสุดบริษัทได้นำคนอร์ ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มอาหารทั่วโลกมาทำตลาดในเชิงรุกมากขึ้น โดยวางแนวทางขยายโปรดักส์ไลน์ใหม่ลงสู่ตลาดอย่างไม่มีขีดจำกัด นำร่องด้วยการบุกตลาดโจ๊กสำเร็จรูปมูลค่า 600 ล้านบาท เนื่องจากเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูงเมื่อเทียบกับกลุ่มอาหารเช้า โดยการเติบโตเฉลี่ยปีละ 15-20% โดยเมื่อปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโต 14.1% และตัวเลขการเติบโตในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโต15.3% โดยปัจจัยที่ทำให้ตลาดเติบโต เพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคไทยมีความเร่งรีบชีวิตประจำวันมากขึ้น
สำหรับแผนการตลาดบริษัทได้ทุ่มงบ 40 ล้านบาท เปิดตัวคนอร์ เอนเนอร์จี คัพ โจ๊ก สูตรใหม่ โดยนำคุณค่าทางโภชนาการหรือวิตามินบีเข้าเป็นจุดขาย เพื่อสร้างภาพลักษณ์ใหม่จากเดิมถูกมองว่าไม่มีคุณค่าทางโภชนาการ ให้แก่กลุ่มเป้าหมายหลักที่เป็นคุณแม่สมัยใหม่มีลูกอายุตั้งแต่ 11 ปีขึ้นไป โดยปัจจัยการตัดสินใจซื้อจะคำนึงถึงคุณค่าทางโภชนาการเป็นหลัก ทั้งนี้นับว่าเป็นครั้งแรกของคนอร์ที่นำในเรื่องสารอาหารมาสื่อสารถึงผู้บริโภค เมื่อเทียบกับการทำตลาดคนอร์ในต่างประเทศ มีการสื่อสารเกี่ยวกับสารอาหารมานานแล้ว
พร้อมกันนี้ยังได้จัดกิจกรรม “คนอร์ พลังเด็ก มอร์นิ่งแดนซ์ กับปฏิบัติการ “2อ” เพื่อรณรงค์ให้เด็กไทยให้ความสำคัญกับการออกกำลังกาย และรับประทานอาหารมื้อเช้า เพราะจากการสำรวจ พบว่า เด็กไทยโดยเฉพาะผู้หญิง 52% ไม่รับประทานอาหารมื้อเช้า และ 60% ไม่ออกกำลังกาย ทั้งนี้กิจกรรมดังกล่าวได้สร้างสรรค์เพลงพร้อมกับท่าประกอบสำหรับการออกกำลังกายของเด็ก โดยจะจัดโรดโชว์ตามโรงเรียน 62 แห่ง และห้างสรรพสินค้า 132 แห่งทั่วประเทศ และแจกสินค้าทดลองชิมกว่า 1 ล้านชิ้น
“นับว่าเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ที่โจ๊กสำเร็จรูปคนอร์ออกมาเคลื่อนไหวด้วยการจัดกิจกรรมครั้งใหญ่ โดยจะเริ่มระหว่างเดือนสิงหาคมถึงเดือนพฤศจิกายน นี้ ทั้งนี้คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 1 ล้านคน ขณะเดียวกันยังต้องการกระตุ้นความถี่ในการบริโภคให้เพิ่มขึ้น จากปัจจุบันการบริโภค 1 ครั้งต่อสัปดาห์เท่านั้น ส่วนการเปิดตัวสูตรใหม่ คาดว่าจะเป็นเรือธงที่มีอัตราการเติบโตสูง เนื่องจากคนไทยมีความคุ้นเคยกับรสชาติดังกล่าวมากกว่า”
นายนริสสา อมรวิวัฒน์ ผู้อำนวยการพัฒนาการตลาด บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง กล่าวเพิ่มเติมถึงแผนการตลาดว่า เพื่อให้สินค้าเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในง่ายขึ้นสอดคล้องกับกำลังการซื้อของผู้บริโภคที่หดตัวลง และสามารถกระจายสินค้าในตลาดต่างจังหวัดได้มากขึ้น บริษัทได้ปรับลดราคาบรรจุภัณฑ์ชนิดซองลงจาก 10 บาท เหลือ 8 บาท ด้วยการลดปริมาณจาก 42 กรัม เหลือเป็น 40 กรัม ส่วนขนาดบรรจุภัณฑ์ถ้วยคงราคาเดิม 15 บาท
สำหรับตลาดโจ๊กสำเร็จรูปมูลค่า 600 ล้านบาท ในช่วงครึ่งปีแรกมีมูลค่าคิดเป็น 337 ล้านบาท แบ่งเป็น บรรจุภัณฑ์ถ้วย 70% มีอัตราการเติบโตน้อยกว่าบรรจุภัณฑ์ซองคิดเป็นสัดส่วน 30% มีอัตราการเติบโต 20% โดยยอดขายของคนอร์มาจากบรรจุภัณฑ์ถ้วย 60% และบรรจุภัณฑ์ซอง 40% ขณะที่สัดส่วนยอดขายระหว่างกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด 50:50
ทั้งนี้จากการจัดกิจกรรมของคนอร์ บริษัทตั้งเป้าในสิ้นปีนี้จะสามารถรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดด้วยการครองส่วนแบ่งตลาดไว้ที่ 82-83% จากส่วนแบ่งรอบล่าสุดครึ่งปีแรกมีส่วนแบ่ง 82.4% ลดลงเมื่อเทียบส่วนแบ่งทั้งปีเมื่อปีที่ผ่านมามี 83% ส่วนมาม่าเพิ่มขึ้นจากส่วนแบ่งทั้งปีเมื่อปีที่ผ่านมา 11.5% เป็น 12.6% ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|