|
ซีคอนฯส่ง“คอมแพคโฮม”เจาะตลาด2ล้าน
ผู้จัดการรายวัน(17 กรกฎาคม 2550)
กลับสู่หน้าหลัก
“ซีคอนฯ” ขยายตลาดรับสร้างบ้านต่ำกว่า 2 ล้านบาท แตกบริษัทลูก “คอมแพคโฮม” ระบุตลาดสร้างบ้านต่ำกว่า 2 ล้านบาท มีมากถึง 50% ของตลาด ในขณะที่ผู้ประกอบการมีไม่กี่ราย ฟุ้งหลังเปิดบริการ 2 เดือนยอดขาย 20 ล้านบาท จากเป้าขายครึ่งปีหลัง 120 ล้าน เชื่อบริษัทใหม่ช่วยหนุนรายได้รวมของกลุ่ม 1,300 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้าปี 51 รายได้ รวม 1,500 ล้านบาท
นายกอบชัย ซอโสตถิกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีคอนโฮม จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่ ซีคอนฯ ได้เปิดบริษัทลูกไปแล้ว 3 บริษัท ประกอบด้วย บริษัท บิวท์ทูบิวด์ จำกัด รับผิดชอบในการก่อสร้างบ้านบนที่ดินลูกค้าระดับราคา 4 ล้านบาทขึ้นไป, บริษัทบางกอกเฮ้าส์ บิวเดอร์ จำกัด เน้นรับสร้างบ้านระดับราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาท และ0บริษัท Tryer Builder จำกัด ซึ่งจะรับผิดชอบขยายลูกค้ารับสร้างบ้านต่างจังหวัด
ล่าสุด ซีคอนฯ ได้แตกบริษัทแห่งที่ 4 ขึ้น ภายใต้ชื่อ บริษัท คอมแพคโฮม จำกัด ซึ่งจะเข้ามารุกตลาดบ้านระดับราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาทในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ทั้งนี้ สาเหตุที่ ซีคอนฯ ตัดสินใจก่อตั้งบริษัท คอมแพคโฮมฯ เพื่อเข้ามาทำตลาดระดับราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาท ซึ่งจับกลุ่มลูกค้าตลาดเดียวกับ บริษัท บางกอกเฮ้าส์ บิวเดอร์ เนื่องจากต้องการให้เกิดการแข่งขันภายในตลาดขึ้น นอกจากนี้ ในปัจจุบันในตลาดดังกล่าวจำนวนผู้ ประกอบการยังมีจำนวนน้อย ส่วนใหญ่ลูกค้ายังคงใช้บริการบริษัทรับเหมาก่อสร้างรายย่อย โดยในตลาดระดับราคาต่ำกว่า2 ล้านบาทนี้ถือว่าเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่มาก โดยมีส่วนแบ่งตลาดอยู่สูงถึง 50% ของมูลค่าตลาดรวม ส่วนกลุ่มตลาดระดับราคา 2-5 ล้านบาทมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ประมาณ 30% ส่วนตลาดบ้านระดับราคา 5 ล้านบาทขึ้นไปมีส่วนแบ่งอยู่ 10% และอีก 10% เป็นตลาดระดับบน (ไฮเอนด์)
อย่างไรก็ตามในตลาดระดับราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาท แม้จะมี บริษัท บางกอกเฮ้าส์ บิวเดอร์ จำกัด เข้ามาทำตลาดอยู่แล้วแต่ด้วยจำนวนความต้องการ(ดีมานด์)ในตลาดที่มีขนาดใหญ่มาก ทำให้เชื่อว่าทั้ง 2 บริษัทจะยังไม่สามารถรองรับความต้องการของลูกค้าในตลาดได้ทั้งหมด หรือครอบคลุมทั้งตลาด
“ การที่เราเข้ามาทำตลาดระดับนี้ได้ เนื่องจากเราสามารถควบคุมต้นทุนในการดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยเฉพาะเรามีระบบก่อสร้างสำเร็จรูป ระบบหล่อโครงสร้างสำเร็จรูปทำให้เราสามารถลดต้นทุนการก่อสร้างบานได้มาก และสามารถก่อสร้างได้อ่างรวดเร็ว ปัจจุบันกำลังการผลิตในโรงงานผลิตโครงสร้างสำเร็จรูปของบริษัทสามารถผลิตได้สูงสุด 60 หลังต่อเดือน แต่ขณะนี้เราใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ประมาณ 50% หรือประมาณ 30-40 หลังต่อเดือน ”นายกอบชัย กล่าวว่าและชี้ว่า
บริษัทลูกในเครือ ซีคอนฯ ทุกบริษัท จะใช้โครงสร้างสำเร็จจากโรงงานของบริษัททั้งหมด ทำให้สามารถใช้กำลังผลิตในโรงงานผลิตชิ้นส่วนโครงสร้างสำเร็จรูปได้มากขึ้น ช่วยให้ประหยัดต้นทุนการผลิตได้มากขึ้น และจะช่วยเพิ่มสร้างรายได้ให้แก่กลุ่มบริษัท ทั้งหมดให้สูงขึ้นด้วย โดยในปี 2550 กลุ่มบริษัทซีคอนฯ ตั้งเป้าว่าจะมีรายได้รวมประมาณ 1,300 ล้านบาท และในปี 2551 คาดว่าน่าจะมีรายได้รวมจากทั้งหกลุ่มประมาณ 1,500 ล้านบาท โดยในส่วนของ ซีคอนฯ ซึ่งเป็นบริษัทแม่นั้นตลอดช่วง 6 เดือนที่ผ่านมามีรายได้รวมแล้ว 318 ล้านบาท
จากเป้ายอดขายทั้งปี 650 ล้านบาท ส่วนบริษัท คอมแพคโฮม หลังจากที่เปิดให้บริการมาแล้ว 2 เดือนนับจากเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมาล่าสุดมียอดขายแล้ว 20 ยูนิตหรือประมาณ 20 ล้านบาท โดยในปีนี้บริษัทตั้งเป้าว่าจะมียอดขายรวมประมาณ 120 ล้านบาท ส่วนบริษัทอื่นคาดว่าจะมีรายได้เฉลี่ยทั้งปีประมาณ 300 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี การเข้าไปเจาะตลาดรับสร้างระดับต่ำกว่า 2 ล้านบาทนั้น จะทำให้อัตรากำไรเบื้องต้นลดลงบ้าง โดยในส่วนของบริษัทคอมแพค คาดว่าจะมีกำไรเบื้องต้นประมาณ 20%ขึ้นไป ส่วนอัตรากำไรเบื้องต้นของบริษัทซีคอนนั้นจะยังมีกำไรเบื้องต้นอยู่ที่ 32% ขึ้นไป
ด้านนางสาวศุภิชชา ชัยพิพัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ซีคอนโฮม จำกัด และ บริษัท คอมแพคโฮม จำกัด กล่าวว่า บริษัท คอมแพคโฮม ตั้งขึ้นในเดือน พ.ค. ที่ผ่านมาด้วยทุนจดทะเบียน 10ล้านบาท โดยจะเข้ามาเน้นเจาะตลาดระดับราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาทเป็นหลัก โดยค่าก่อสร้างเริ่มต้นจะอยู่ที่ 0.7 –1.8 ล้านบาทต่อยูนิต ซึ่งบริษัทจะพยายามรักษาระดับราคาค่าก่อสร้างไว้ในระดับนี้ต่อไป หากราคาวัสดุก่อสร้างยังไม่มีการปรับตัวสูงจนเกินกว่าที่บริษัทจะสามารถรองรับส่วนต่างที่เพิ่มขึ้นได้
ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งปีหลังนี้บริษัทจะใช้งบประชาสัมพันธ์ ในการทำตลาดของบริษัท คอมแพค โฮม รวม 15 ล้านบาท โดยจะมีภาพยนตร์โฆษณาทางโทรทัศน์ 1 เรื่องและการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ นอกจากนี้ในช่วงการเปิดตัวบริษัทใหม่จะมีการจัดแคมเปญพิเศษมอบส่วนลดสูงสุด 80,000 บาท
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|