|
สายการบินหนีตายโลว์ซีซั่นไทยปีนี้ กระหน่ำแคมเปญลดค่าตั๋วกว่า 50%กระตุ้นกำลังซื้อสุดฤทธิ์
ผู้จัดการรายวัน(16 กรกฎาคม 2550)
กลับสู่หน้าหลัก
ธุรกิจสายการบินชักแถวอัดโปรโมชั่นลดราคาตั๋วโดยสาร 40-50% ชูกลยุทธราคานำทางการแข่งขันในยุคเศรษฐซบจากพิษการเมืองและค่าเงินบาท กดโลว์ซีซั่นเมืองไทยปีนี้แย่กว่าปีก่อนๆถึง 20% คาเธ่ย์เผยปีนี้ ผู้โดยสารขาออกจากประเทศไทยถดถอยหนักเพียงประเทศเดียวในภูมิภาค เหตุคนชะลอจับจ่าย วอนทุกสายการบิน และ หน่วยงานรัฐเร่งจัดแคมเปญกระตุ้นท่องเที่ยวให้คึกคัก ขณะที่น้องใหม่ เจ็ทแอร์เวย์จากอินเดียเผยคนในวงการยอมรับโลวซีซั่นปีนี้แย่ที่สุดในรอบ 5 ปี
ใครจะคิดว่าธุรกิจสายการบินที่กำลังไปได้สวย ภายใต้นโยบายเปิดน่านฟ้าเสรี ที่เติบโตควบคู่ไปกับเศรษฐกิจ ต้องมาสะดุดเพียงประเทศไทยแห่งเดียว จนต้องทำให้ทุกสายการบินต้องหนีตาย ด้วยการจัดแคมเปญโปรโมชั่น อย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน เพื่อพยุงธุรกิจให้อยู่รอด โดยเฉพาะช่วงโลว์ซีซั่นปีนี้ ที่เกือบทุกธุรกิจต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าสาหัสสากัน โดยหวังว่าปีหน้าฟ้าใหม่ และรัฐบาลชุดใหม่ จะเข้ามาฟื้นเศรษฐกิจให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง
ปัจจัยสำคัญของการเปิดเส้นทางบินในแต่ละครั้ง จะต้องคำนวณผู้โดยสารทั้งเที่ยวไปและเที่ยวกลับ เพราะหากมีเพียงดีมานด์จากเที่ยวใดเที่ยวหนึ่ง คงไม่คุ้มกับค่าน้ำมัน ซึ่งขณะนี้ถือเป็นต้นทุนที่สำคัญที่สุด หรือมีสัดส่วนมากกว่า 40% ของการทำธุรกิจนี้
ดังนั้นโลว์ซีซั่น จึงเป็นช่วงสำคัญที่สุด และถือเป็นการทดสอบฝีมือการทำงานของผู้บริหารที่กุมบังเหียน ที่จะใช้กลยุทธ์ใดมาดึงดูดลูกค้าให้ใช้บริการ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ธุรกิจสายการบินก็ถูกแขวนไว้กับสภาพเศรษฐกิจ ที่จะสะท้อนถึงกำลังซื้อ จากผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี ซึ่งปีนี้อาจจะไม่ใช่ปีทองของประเทศไทย
พราะจากความวุ่นวายทางการเมือง การชุมนุมประท้วง สภาพอากาศที่แปรปรวนฤดูฝนมาเร็วกว่าปกติ เงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ทุกอย่างล้วนเป็นปัจจัยลบที่มากระทบให้เศรษฐกิจชะลอตัว กำลังซื้อถดถอย ซึ่งธุรกิจสายการบินลูกค้าสำคัญคือนักท่องเที่ยว และนักธุรกิจ จึงหนีไม่พ้นที่จะได้รับผลกระทบอย่างเต็มๆ
คาเธ่ย์รับขาออกประเทศไทยปีนี้หงอย
นายยงยุทธ จุลินตานนท์ ผู้จัดการ ฝ่ายขายและการตลาด ประจำประเทศไทยและพม่า สายการบิน คาเธ่ย์ แปซิฟิก เปิดเผยว่า ช่วงโลว์ซีซั่นปีนี้ สำหรับประเทศไทย บริษัท ได้จัดแคมเปญร่วมกับบัตรวีซ่าของทุกธนาคาร จำหน่ายตั๋วเครื่องบินเพื่อเดินทางจากกรุงเทพ ไปปลายทางที่ ฮ่องกง สิงคโปร์ ปักกิ่ง และเซี่ยงไฮ้ ในราคาลดพิเศษ 30-50% จากราคาปกติ เริ่มจำหน่ายตั้งแต่บัดนี้ถึงเดือนกันยายน 2550 ซึ่งทุกช่วงโลว์ซีซั่น บริษัทจะใช้กลยุทธ์ลดราคาตั๋วเครื่องบินเพื่อกระตุ้นกำลังซื้ออยู่แล้ว แต่ปีนี้ยอมรับว่ากำลังซื้อลดลงกว่าทุกๆปีในช่วงเดียวกัน ซึ่งธุรกิจสายการบินจะตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันหมด จึงต้องเร่งออกแคมเปญเพื่อให้ตลาดกลับมาคึกคักมากขึ้น
ทั้งนี้ราคาตั๋วเครื่องบิน สำหรับ สายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิก เที่ยวออกจากประเทศไทย ขณะนี้หลายเส้นทางบริษัทใช้แคมเปญลดราคาประมาณ 20,30 และ 50% หลายเส้นทางจะแตกต่างกันออกไป ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนๆ ในช่วงเดียวกัน ปีนี้จะลดราคาลงมากกว่าที่เคยลดอยู่ทุกปีราว 20%
ทางด้านอัตราบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ยต่อเที่ยวบิน ขณะนี้อยู่ที่ 60-70% เมื่อเทียบกับปีก่อนๆ ถือว่าลดลงเยอะ เพราะทุกปีอัตราบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ยต่อเที่ยวบินจะอยู่ที่ ประมาณ 80% สาเหตุหลักน่าจะมาจากภาวะทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งถือว่าเป็นประเทศเดียวในภูมิภาคที่ปีนี้เศรษฐกิจถดถอย ซึ่งมาจากปัจจัยหลายประการ เช่น การแข็งตัวของค่าเงินบาท ส่งผลกับธุรกิจส่งออก ตลอดจนพนักงานลูกจ้างบริษัท เหล่านั้นก็ได้รับผลกระทบด้วย นอกจากนั้นสถานการณ์ทางการเมืองก็มีผลกระทบ ทำให้ผู้ที่ยังมีกำลังซื้อรู้สึกว่าต้องใช้เงินอย่างรอบคอบเนื่องจากเกิดความไม่มั่นใจ ส่วนนักท่องเที่ยวต่างประเทศก็กังวลเรื่องความปลอดภัยจึงชะลอการเดินทาง แต่ทั้งนี้ ครึ่งปีหลัง สถานการณ์น่าจะคลี่คลายและดีขึ้นตามลำดับ
“ต้องการให้ทุกสายการบิน และหน่วยงานรัฐ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ช่วยกันจัดแคมเปญสร้างบรรยากาศในการเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งอาจจะสลับกันออกแคมเปญในแต่ละหน่วยงาน เพื่อจะได้มีแคมเปญออกมาอย่างต่อเนื่อง ตลาดจะได้คึกคักทั้งการเดินทางภายในประเทศและต่างประเทศ “ นายยงยุทธ กล่าว
เจ็ทแอร์เวย์สลด50%ทุกชั้นที่นั่ง
ทางด้านนางสาว รจนกร แกล้วเกษตรกรณ์ ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด สายการบิน เจ็ท แอร์เวย์ส ประเทศอินเดีย เปิดเผยว่า เจ็ทแอร์เวย์ เป็นสายการบินใหม่ ที่เพิ่งเปิดเส้นทางเข้ามาประเทศไทยได้ประมาณ 6เดือน ใน 2 เส้นทาง คือ เดลี่- กรุงเทพฯ และ กากัตต้า- กรุงเทพฯ ซึ่งในส่วนของผู้โดยสารขาเข้า มีผู้ใช้บริการเป็นที่น่าพอใจ อัตราบรรทุกเฉลี่ยต่อเที่ยว 80-90% แต่ ในช่วงขาออกจากประเทศ ยอมรับว่ายังมีผู้ใช้บริการจำนวนไม่มากนัก เฉลี่ย 25-30%
ดังนั้นจากเดือนนี้ไปถึงเดือนกันยายน ซึ่งเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของประเทศไทย ทางสายการบินจึงจัดแคมเปญพิเศษ ออกมากระตุ้นตลาด โดยร่วมกับ 17 บริษัทนำเที่ยว จัดแพกเกจทัวร์ราคาพิเศษ เพื่อเดินทางไปอินเดียใน 3 เส้นทางหลัก อาทิ ทัชมาฮาล ,สิขิม และ เนปาล และในส่วนของผู้โดยสารทั่วไปได้ร่วมกับตัวแทนจำหน่าย จัดโปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินราคาถูก ลดลงจากราคาปกติ 40-50% สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปยังกรุงเดลี และกัลกัตต้า ประเทศอินเดีย โดยราคาบัตรโดยสารไป/กลับ กรุงเทพฯ - เดลี และกรุงเทพฯ - กัลกัตต้า ชั้นคลับพรีเมียร์ อยู่ที่ 15,000 บาท และ 13,000 บาท และสำหรับชั้นประหยัดราคา อยู่ที่ 9,500 บาท และ 7,000 ตามลำดับ โดยราคาดังกล่าวยังไม่รวมภาษีและน้ำหนักส่วนเกิน คาดว่าจะช่วยเพิ่มจำนวนผู้โดยสารขาออกจากกรุงเทพได้อีกราว 5% ต่อเที่ยวบิน
“แม้เจ็ทแอร์เวย์ส จะเป็นสายการบินที่เพิ่งเปิดบินเข้ามาในประเทศไทย แต่ก็มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันบ้างกับผู้ที่อยู่ในธุรกิจสายการบินด้วยกัน ซึ่งทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า โลว์ซีซั่นปีนี้ถือกว่าอาการหนักที่สุดในรอบ 4-5 ปี เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกัน สาเหตุก็มาจากปัจจัยทางการเมือง เศรษฐกิจ และ ค่าเงินบาท ซึ่งทำให้คนยังไม่พร้อมจะจับจ่าย” นาวสาวรจนกร กล่าว
ชักแถวเล่นสงครามราคา
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่แต่สายการบินต่างประเทศที่เร่งจัดแคมเปญโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขาย แม้พี่ใหญ่อย่างสายการบินไทย ปีนี้ ยังหันมาเล่นสงครามราคาด้วยการประกาศลดราคาตั๋วเครื่องบิน ลงกว่า 40-50% เป็นเหตุให้สายการบินต้นทุนต่ำ(โลว์คอสต์)ต้องออกมาโวยวาย โดยเส้นทางบินภายในประเทศ ใช้แคมเปญว่า “บินสบายกับการบินไทย” ส่วนเส้นทางต่างประเทศใช้แคมเปญ “บินทวงฝันกับการบินไทย” จับลูกค้าวัยเกษียณ ซึ่งทั้งสองแคมเปญดังกล่าว การบินไทย ได้ปรับลดราคาตั๋วเครื่องบินเฉลี่ยที่นั่งละ 40-50% จากราคาปกติ ซึ่ง นายวัลลภ พุกกะณะสุต รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายการพาณิชย์ บริษัทการบินไทยจำกัด(มหาชน) ให้เหตผลว่า เพื่อกระตุ้นให้มีลูกค้ามาใช้บริการมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงโลว์ซีซั่นปีนี้ ที่มีจำนวนผู้โดยสารน้อยลง โดยเฉพาะขาออกนอกประเทศเนื่องจากคนไทยชะลอการจับจ่าย แคมเปญนี้คาดว่าจะเข้ามาช่วยให้ต่อเที่ยวบินของการบินไทยมีจำนวนที่นั่งว่างลดลง
สำหรับสายการบินต้นทุนต่ำ ซึ่งมีเจ้าตลาดด้านราคาอย่างไทยแอร์เอเชีย ซึ่งประกาศนโยบายชัดเจน ในเรื่องของการใช้ราคาเป็นตัวนำในการทำตลาดตลอดปี ซึ่งโลว์ซีซั่นปีนี้ ก็จัดโปรโมชั่น”ขอบคุณ” ด้วยราคาตั๋วโดยสารต่ำสุดเริ่มต้นที่ 199 บาทต่อที่นั่ง สำหรับเส้นทางในประเทศ และ 299 บาทต่อที่นั่ง สำหรับเส้นทางต่างประเทศ ส่วนสายการบินนกแอร์ ที่เคยวางตำแหน่งทางการตลาดในกลุ่มสายการบินโลว์คอสต์ด้วยกันว่าเป็นระดับพรีเมียมกว่าด้วยบริการ เช่น บริการเลือกที่นั่งตามใจชอบ เช็คอินน์ทางโทรศัพย์ หรือ บริการอื่นๆ ก็ยังไม่วายต้องมาเล่นโปรโมชั่นราคาเช่นกัน โดยอาศัยช่วงครบรอบ 3 ปี อัดโปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินที่นั่งละ 3 บาท ส่วนสายการบินวันทูโก สายการบินราคาประหยัด ที่ชูจุดขายราคาเดียวทุกที่นั่ง ก็ยังต้องใช้โปรโมชั่นราคาเป็นจุดดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคด้วยแคมเปญ ตั๋วเครื่องบินที่นั่งละ 299 บาท และ ยังจัดโปรโมชั่นพิเศษสำหรับเส้นทางกระบี่ แถมที่พักฟรี 1 คืน
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|