|
เพอร์นอตฯดึงมือดีไฮเนเก้นเสริมทัพ ซุ่มวิจัยโครงสร้างราคารับมือภาษีสุรา
ผู้จัดการรายสัปดาห์(11 กรกฎาคม 2550)
กลับสู่หน้าหลัก
เพอร์นอตฯ ชี้แนวทางปรับภาษีสุราของรัฐ กระทบเหล้าไทย-อีโคโนมีหดตัว ส่วนเหล้าหรูไม่สะเทือน ขณะที่เหล้าสแตนดาร์ดยอดมีสิทธิ์ร่วง 2-3 เดือน แล้วฟื้นคืนสู่ภาวะปกติ มั่นใจฮันเดรด ไพเพอร์สไม่สะเทือน จ่อคิววิจัยโครงสร้างราคารับมือภาษีสุรา พร้อมดึงผู้บริหารวงการเบียร์ “เจฟฟ์ คิมเบิล” นั่งแท่นผอ.การตลาด อัดฉีดงบฮันเดรดปี 51 เพิ่มขึ้นเป็น 550 ล้านบาท ปีหน้าตอกย้ำบัลลังก์ผู้นำตลาดครองแชร์ 80% ด้านไฮเนเก้น โต้เก็บภาษี2แบบ หนุนผู้ประกอบการผลิตสินค้าคุณภาพต่ำ
นางสุวพักตร์ กัลยาณสันต์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เพอร์นอต ริคาร์ด (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าเหล้าฮันเดรด ไพเพอร์ส, ชีวาส รีกัล ฯลฯ เปิดเผยว่า จากการที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบอนุมัติหลักการร่างพ.ร.บ. 4 ฉบับที่เกี่ยวกับภาษีสรรพสามิต เพื่อปรับปรุงฐานและอัตราในการคำนวณภาษีสรรพสามิตให้มีความเหมาะสม ซึ่งหนึ่งในนั้นรวมถึงภาษีสุราด้วย แนวทางดังกล่าวจะมีผลทำให้ราคาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปรับเพิ่มขึ้น โดยตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุด คือเหล้าไทยและเหล้านอกราคาถูก เพราะเป็นเหล้าสำหรับกลุ่มที่มีกำลังการซื้อน้อย การตัดสินใจซื้อคำนึงถึงปัจจัยด้านราคาเป็นหลักเมื่อเทียบกับเซกเมนต์อื่นๆ
สำหรับเหล้าเซกเมนต์สแตนดาร์ดตัวเลขในเชิงปริมาณ 2.5 ล้านลัง คาดว่าจะได้รับผลกระทบในช่วงระยะแรก จากนั้นคาดว่ากลุ่มเป้าหมายจะสามารถปรับตัว และยอมรับกับราคาใหม่ได้ ส่วนเหล้าเซกเมนต์พรีเมียมคาดว่าจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายมีกำลังการซื้อที่ดีอยู่แล้ว สำหรับฮันเดรด ไพเพอร์ส ซึ่งเป็นเหล้าในเซกเมนต์สแตนดาร์ด หากกรณีมีการปรับโครงสร้างภาษีเกิดขึ้น คาดว่าจะกระทบในช่วง 2-3 เดือนเท่านั้น จากนั้นมั่นใจว่าผู้บริโภคจะยอมรับกับราคาใหม่ได้
“ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2548 ทางกรมสรรพสามิตได้ปรับโครงสร้างภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปแล้วครั้งหนึ่ง ส่งผลให้เหล้าเซกเมนต์อีโคโนมีและเหล้าไทยภาวะตลาดหดตัวลงมาก สำหรับฮันเดรด ไพเพอร์สในช่วงที่มีการปรับโครงสร้างภาษี ได้ปรับราคาจาก 305 บาท เป็น 330 บาท ซึ่งในช่วงเวลานั้นได้รับผลกระทบ 2-3 เดือนเท่านั้น จากนั้นก็กลับสู่ภาวะปกติ อย่างไรก็ตามแนวทางการเพิ่มเพดานภาษีในครั้งนี้ ยังไม่ทราบถึงแนวทางที่ชัดเจนจากทางภาครัฐ”
นางสุวพักตร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้บริษัทกำลังทำวิจัยเกี่ยวโครงสร้างราคาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อรองรับกับแนวทางดังกล่าว อย่างไรก็ตามหากมีการปรับโครงสร้างภาษี และมีผลทำให้ฮันเดรด ไพเพอร์ส ต้องปรับราคาขึ้น 10-20 บาท คาดว่าจะไม่กระทบต่อยอดขายมากนัก เนื่องจากเป็นแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่ง โดยครองส่วนแบ่ง 80% ในตลาดเหล้าเซกเมนต์สแตนดาร์ด ส่วนสินค้าคู่แข่งเบนมอร์ 8-10%
“หากมีการปรับโครงสร้างภาษีใหม่ คงต้องดูถึงช่องว่างทางราคาระหว่างเหล้าเซกเมนต์อีโคโนมีและเหล้าไทยด้วยว่าห่างกับเหล้าเซกเมนต์สแตนดาร์ดมากน้อยแค่ไหน ซึ่งถ้าห่างไม่มากโอกาสที่กลุ่มผู้ดื่มจะหันมาซื้อเหล้าเซกเมนต์สแตนดาร์ดก็มีความเป็นไปได้ เนื่องจากมีภาพลักษณ์ที่ดีกว่า”
เปิดตัวมือดีการตลาดคนใหม่
นางสุวพักตร์ กล่าวว่า ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวผู้บริหารคนใหม่ นายเจฟฟ์ คิมเบิล ผู้บริหารจากบริษัท ไทยเอเชีย แปซิฟิค บริวเวอรี่ จำกัด เข้ามาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและพัฒนาตลาด บริษัทเพอร์นอต ฯ แทนที่ นายซีริล เลอกรองด์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและพัฒนาตลาดคนเดิม ซึ่งย้ายไปดูแลการตลาดในภูมิภาคอื่น สำหรับงบการตลาดรอบบัญชีกรกฎาคม2550-มิถุนายน ปี 2551 บริษัทวางงบฮันเดรด ไพเพอร์ส เพิ่มขึ้น 10% หรือคิดเป็น 550 ล้านบาท จากเดิมใช้ 500 ล้านบาท
โดยแนวทางการตลาดจะมุ่งเน้นการสร้างแบรนด์ฮันเดรด ไพเพอร์ส ซึ่งเป็นสินค้าเรือธงให้มีความแข็งแกร่ง ผ่านการตอกย้ำความเป็นวิสกี้ที่ผลิตจากสก็อตแลนด์ 100% พร้อมทั้งเตรียมทำบีโลว์เดอะไลน์หรือการจัดกิจกรรมมิวสิกมาร์เก็ตติ้ง และจัดกิจกรรมตามสถานบันเทิงในเชิงรุกมากกว่าการอะโบฟเดอะไลน์หรือการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อ สำหรับในปี 2551 บริษัทตั้งเป้ารักษาตำแหน่งผู้นำตลาด ด้วยการครองส่วนแบ่งไว้ที่ 80 %
ไฮเนเก้นโต้แนวทางเก็บภาษี2แบบ
นายปริญ มาลากุล ณ อยุธยา ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการองค์กร บริษัท ไทยเอเชีย แปซิฟิค บริวเวอรี่ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเบียร์ไฮเนเก้น ไทเกอร์ และเชียร์ เปิดเผยว่า ขณะนี้การทำตลาดเบียร์โดยรวมของบริษัทชะลอลงทุกตัว ไม่ว่าจะเป็น การโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อ รวมทั้งการเปิดตัวสินค้าใหม่ และกิจกรรมการตลาด ทั้งนี้เพื่อรอความชัดเจนพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงแนวทางการเพิ่มเพดานภาษี ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนว่าจะปรับโครงสร้างภาษีด้วยหรือไม่
อย่างไรก็ตาม สำหรับบริษัทไม่เห็นด้วยกับแนวทางการเก็บภาษี 2 รูปแบบ ได้แก่ ในเชิงมูลค่าตามราคาหน้าโรงงาน กับในเชิงปริมาณดีกรีแอลกอฮอล์ โดยภาครัฐจะเลือกเก็บในรูปแบบที่สร้างรายได้สูงสุดนั้น แนวทางดังกล่าวไม่ได้เป็นมาตรฐานสากลหรือที่ทั่วโลกเรียกเก็บภาษีสุรา โดยปัจจุบันเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั่วโลกเก็บภาษีตามปริมาณดีกรีแอลกอฮอล์
“การเก็บภาษีในเชิงมูลค่า มีผลทำให้ผู้ประกอบการแจ้งต้นทุนหน้าโรงงานที่ต่ำ เพื่อจะได้เสียภาษีต่ำ ขณะเดียวกันยังส่งผลให้คุณภาพสินค้าต่ำด้วย เพราะต้องการให้ต้นทุนต่ำที่สุด ถ้ารัฐบาลยังคงเรียกเก็บภาษีในรูปแบบเดิมก็ยิ่งสนับสนุนให้มีสินค้าคุณภาพต่ำออกมาจำหน่ายแล้วจะทำไปเพื่ออะไร ดังนั้นมาตรการเก็บภาษีที่ดี ต้องผลักดันให้ผู้ประกอบการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพที่ดีลงสู่ตลาดมากกว่า”
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|