ศึกสายเลือด “บินไทย” สยบ “นกแอร์”…เขย่าธุรกิจโลว์คอสแอร์ฯสะเทือน


ผู้จัดการรายสัปดาห์(9 กรกฎาคม 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

ใครจะคิดว่าพี่ใหญ่อย่างการบินไทยจะยอมดัมพ์ราคาตั๋วเส้นทางภายในประเทศ 11 จังหวัดลงมา 50%ขนาดนี้ ส่งผลต่อสายการบินโลว์คอสที่จับตลาดภายในประเทศอย่างมากและต้องเร่งปรับกลยุทธ์กันพัลวันแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้แม้แต่น้องเล็กสายเลือดเดียวกันอย่าง นกแอร์ ยอมรับว่าทำอย่างนี้มีแต่ตายกับตาย ขณะที่"วัน-ทู-โก" ยอมถอย เตรียมลดเที่ยวบินบางเส้นทาง

ด้วยราคาที่เริ่มต้นแค่ 830-1,065 บาท/เที่ยว เฉพาะมิถุนายน-กันยายนนี้ แถมสิทธิประโยชน์เหนือชั้น มีเที่ยวบินให้เลือกมากกว่า-แจกไมล์สะสม-อาหารว่างบนเครื่องของสายการบินไทย ช่างยั่วน้ำลายลูกค้าเป็นยิ่งนักแม้จะเป็นแค่ช่วงระยะสั้นๆตั้งแต่วันนี้-30 กันยายน 2550ก็ตาม แต่เขย่าให้วงการธุรกิจสายการบินต้นทุนต่ำสั่นสะเทือนไปตามกัน

ศักยภาพของเส้นทางบินที่มีอยู่ภายในประเทศ 11 จังหวัด บวกกับการนำเสนอตั๋วราคาแสนจะถูก เป้าหมายเพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดผู้โดยสารกับกลุ่มสายการบินต้นทุนต่ำ (low cost airlines) ทุกสายในเมืองไทย ทั้งไทย แอร์เอเชีย นกแอร์ วัน-ทู-โก แอร์ไลน์ส ซึ่งมีราคาตั๋วเฉลี่ย 999-2,500 บาท/เที่ยว โดยใช้วิธีแบ่งที่นั่งชั้นประหยัดและตั้งราคาแบ่งออกเป็น 5-11 ระดับ และปัญหานี้กำลังกลายเป็นชนวนที่นำไปสู่ความไม่เข้าใจกันกับสายการบินต้นทุนต่ำสายเลือดเดียวกันอย่าง นกแอร์

“ผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมการบินไทยซึ่งขาดทุนอยู่แล้วต้องใช้วิธีแบบนี้ ทั้งๆที่มีพันธมิตรอย่างนกแอร์ไว้รองรับตลาดตรงนี้อยู่แล้ว การกระทำแบบนี้ไม่ส่งผลดีต่อธุรกิจสายการบินทั้งการบินไทยและนกแอร์เลย”พาที สารสิน ซีอีโอของสายการบินนกแอร์กล่าว

การออกมาตัดพ้อของซีอีโอสายการบินนกแอร์ครั้งนี้แม้ว่าเจ้าตัวจะออกมาปฏิเสธว่าไม่มีนัยยะสำคัญอะไรแต่หากมองย้อนกลับไปในอดีตจะพบว่านกแอร์ที่เคยมีความสัมพันธ์กับการบินไทยอย่างลึกซึ้งช่วยเหลือเกื้อกูลกันมาตลอดเวลาทั้งในเรื่องของเส้นทางบินภายในประเทศที่การบินไทยขาดทุนก็จะมีนกแอร์เข้าไปเป็นตัวช่วยอยู่ตลอดเวลา

ปัจจุบันกำลังเกิดอะไรขึ้น?...หรือความสัมพันธ์ที่เคยมีต่อกันกำลังถูกบั่นทอนลงไป!...

จุดนี้เองที่ พาที สารสิน ยอมรับว่าการบริหารจัดการที่มีความคิดแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงส่งผลให้การตัดสินใจในธุรกิจบางอย่างอาจจะไม่ค่อยโดนใจผู้บริหารของสายการบินไทยสักเท่าไรนัก กรณีการเปิดให้บริการเส้นทางบินไปยังประเทศอินเดีย ที่ผู้บริหารการบินไทยมองว่าเป็นเส้นทางใหม่ที่ไม่มีใครบินแล้ว นกแอร์กลับนำเปิดให้บริการ ซึ่งความคิดนี้ พาที อธิบายได้ว่าการเป็นผู้นำคนแรกที่จะขนส่งผู้โดยสารไปยังเส้นทางใหม่ซึ่งไร้คู่แข่งจะเป็นผลดีต่อการทำธุรกิจสายการบิน ผิดจากเส้นทางบินที่มีสายการบินเปิดให้บริการจำนวนมากอยู่แล้วการทำตลาดแข่งขันจะยากกว่า

ปัจจุบันนกแอร์งัดกลยุทธ์ด้านราคามาใช้โดยใช้โอกาสครบรอบ 3 ปีของการเปิดให้บริการทางการบินจัดโปรโมชั่นพิเศษ จองตั๋วเครื่องบินมูลค่าเพียง 3 บาท ทุกเส้นทางบินซึ่งมีประมาณกว่า 33,000 ที่นั่ง ตั้งแต่วันนี้ถึงสิ้นเดือนกันยายนศกนี้

อย่างไรก็ตามสายการบินนกแอร์ก็ยังมีแผนการปรับยุทธศาสตร์เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น แต่ยังคงบอกไม่ได้ในเวลานี้เนื่องจากเป็นแผนการตลาดที่ต้องมีการเตรียมตัว และปัจจุบันมีการใช้เทคโนโลยีจองตั๋วทางอินเตอร์เนทมาใช้สามารถเลือกที่นั่งเองได้ด้วย

ด้าน อุดม ตันติประสงค์ชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร วัน-ทู-โก แอร์ไลน์ส ยอมรับเช่นกันว่า หลังจากการบินไทยนำราคาลงมาเล่นกับโลว์คอสต์แอร์ไลน์ จากนี้ไปคงจะต้องเริ่มลดเที่ยวบินบางจังหวัดลง เพราะไม่สามารถแข่งขันได้เนื่องจากเป็นสายการบินที่เป็นทางเลือกรอง แต่จะพยายามรักษาฐานลูกค้าไว้ให้มากที่สุด

ทั้งนี้ สถานการณ์การใช้บริการของผู้โดยสารในประเทศปัจจุบันมีประมาณ 10-12 ล้านคน/ปี ตลาดเป็นของการบินไทยประมาณ 80% หรือ 8-10 ล้านคน และเป็นของโลว์คอสต์แอร์ไลน์เพียง 20% หรือปีละไม่เกิน 2 ล้านคน เพราะฉะนั้นจังหวะที่การบินไทยงัดกลยุทธ์นี้ออกมาใช้ยอมรับว่าย่อมได้รับผลกระทบ แนวโน้มในช่วง 4 เดือนนี้โลว์คอสต์แอร์ไลน์อาจมีผู้โดยสารใช้บริการน้อยลงการบินไทยลดราคาเที่ยวบินในประเทศหลายเส้นทาง

ไม่ว่าการบินไทยจะทำแคมเปญนี้ขึ้นมาเพื่อหวังผลทางการตลาดหรือเพื่อล้มคู่แข่งขันอย่างที่เป็นข่าว แต่ผลประโยชน์ก็จะตกเป็นของผู้โดยสารที่มีตัวเลือกเพิ่มขึ้นนอกจากโลว์คอสแอร์ไลน์ที่เปิดให้บริการ แถมยังเป็นสายการบินอินเตอร์ที่ทุกคนยอมรับในมาตรฐานการบินและบริการบนเครื่อง


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.