ค่าเงินบาทแข็งกระทบส่งออกทิปโก้หาตลาดใหม่-ลดต้นทุน


ผู้จัดการรายวัน(9 กรกฎาคม 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

ยอดส่งออก "ทิปโก้" ปีนี้เหนื่อย เหตุค่าเงินบาทแข็งตัวทำกำไรหด บวกวัตถุดิบต้นทุนสูงขึ้นพร้อมปรับตัวรับสถานการณ์เจาะตลาดใหม่ที่มีกำไรสูง บริหารต้นทุนรอบด้าน มั่นใจยังคงมียอดการส่งออก 50% จากเป้ารายได้รวม 5,000 ล้านบาทในปีนี้

นายพรชัย พูลสุขสมบัติ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการสายธุรกิจต่างประเทศ บริษัท ทิปโก้ ฟู้ดส์ ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ครึ่งปีที่ผ่านมาในส่วนของการส่งออก ได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทแข็งตัวค่อนข้างมาก ทำให้ส่วนต่างของกำไรที่ควรจะได้หายไปประมาณ 3 บาทของอัตราการแลกเปลี่ยน นอกจากนี้ในส่วนของวัตถุดิบ โดยเฉพาะสัปปะรด ปีนี้ผลผลิตทั้งประเทศเหลือเพียง 1.5 ล้านตัน จากปีที่ผ่านมาสูงถึง 2.5 ล้านตัน ส่งผลให้ราคาสัปปะรดสูงขึ้นจาก 1.5 บาท ต่อกิโลกรัมเป็น 4.5 บาท ต่อกิโลกรัม บริษัทฯ จึงต้องปรับตัวรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน

โดยเฉพาะทางด้านวัตถุดิบนั้น ทางบริษัทฯ ได้มีทำคอนแทคฟาร์มมิ่งกับชาวไร่ หรือการร่วมมือกับทางชาวไร่ ในการนำเอาผลผลิตมาขายให้กับบริษัทฯ โดยตรง ซึ่งวิธีนี้จะช่วยในเรื่องของการควบคุมวัตถุดิบได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้บริษัทฯ ยังเน้นในเรื่องของการบริหารต้นทุนเพิ่มขึ้น เช่น เปลือกของสัปปะรด จากเดิมที่จะทิ้งไป ก็จะมีการนำไปขายต่อยังเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์ หรือน้ำหวานที่ติดอยู่กับเปลือกสัปปะรด จะมีการคั้นแล้วนำไปขายต่อยังผู้ประกอบการเกี่ยวกับการทำแยมต่างๆ ทำให้ช่วยในเรื่องการลดต้นทุนได้เป็นอย่างดี

ส่วนทางด้านของการส่งออกนั้น จากเดิมที่ส่งออกไปแล้วกว่า 55 ประเทศทั่วโลก เช่น แคนาดา สหรัฐอเมริกา สเปน โปรตุเกส ต่อจากนี้จะมุ่งเน้นหาตลาดใหม่ๆ ที่ให้กำไรสูงๆ เช่น เกาะมัลดีฟ หรือหมู่เกาะท่องเที่ยวชั้นนำของโลก ที่มีความต้องการน้ำผลไม้ค่อนข้างสูง เป็นต้น

นอกจากนี้ยอมรับว่าการส่งออกนั้น ส่วนใหญ่จะเจอกับมาตรการการกีดกันค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะมาตรการที่มาในรูปแบบมาตรฐานการส่งออกต่างๆ ทำให้บริษัทฯได้ร่วมกับทางบริษัท เอสจีเอส (ประเทศไทย) จำกัด ในการเข้าตรวจรับรองระบบมาตรฐานล่าสุดแบบ "Single Food Audit pack" เพื่อช่วยในการส่งออกอีกทางหนึ่ง ขณะที่ระบบมาตรฐานดังกล่าวจะช่วยประหยัดเวลาและงบค่าใช้จ่ายจากเดิม 30-40 % จากเดิมที่เคยใช้งบประมาณสำหรับเข้ารับการตรวจแต่ละครั้งอยู่ที่ 7-8 หมื่นบาท

"การรับรองมาตรฐานแบบระบบ Single Food Audit pack ช่วยให้บริษัทฯ ประหยัดงบประมาค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการขอรับรองมาตรฐานต่างๆ ได้ถึง 30-40 % ซึ่งจะช่วยในเรื่องการส่งออกได้เป็นอย่างดี เพราะปัจจุบันระบบมาตรฐานต่างๆ มีผลต่อการส่งออกในหลายๆ ประเทศเป็นอย่างมาก เพราะบางประเทศจะเข้มงวดเกี่ยวกับมาตรฐานการส่งออกค่อนข้างสูง ทำให้บริษัทฯ ต้องให้ความสำคัญในการขอการรับรองระบบมาตรฐานอยู่ตลอดเวลา ซึ่งระบบดังกล่าว ช่วยลดต้นทุนในการขอรับรองระบบมาตรฐานได้เป็นอย่างดี"

ในปีที่ผ่านมาสัดส่วนการส่งออกของทิปโก้คิดเป็น 50 % ของรายได้ทั้งหมดกว่า3,700 ล้านบาท โดยสินค้าหลักในการส่งออก ได้แก่ 1.สัปปะรดกระป๋อง 2. ผลไม้รวมกระป๋อง และ3.น้ำผลไม้กระป๋อง ขณะที่ในปีนี้บริษัทฯตั้งเป้ารายได้รวมที่ 5,000 ล้านบาท โดยยังคงสัดส่วนการส่งออกไว้ที่ 50 % ของรายได้รวมทั้งหมด เช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.