บินไทยสูญ400ล.ต่อเดือนดิ้นสู้บาทแข็งหวั่นหลุดเป้า


ผู้จัดการรายวัน(5 กรกฎาคม 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

ค่าบาทแข็ง กระทบรายได้การบินไทยถึงสิ้นปีไม่เข้าเป้าหมาย 1.68 แสนล้านบาท ฝ่ายการพาณิชย์เผย ตั้งแต่ต้นปี รายได้ลด 300-400 ล้านบาทต่อเดือน ระบุผู้โดยสารเพิ่มแต่รายได้ลด ล่าสุดดิ้นสู้หารายได้เพิ่ม จัดแคมเปญ “บินทวงฝันกับการบินไทย” จับลูกค้าวัยเกษียณ ส่วนปัญหานกแอร์ “วัลลภ”ท้า “พาที” ให้มาซื้อหุ้นคืนกลับไป

นายวัลลภ พุกกะณะสุต รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทยจำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ค่าเงินบาทที่แข็งตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะมีผลกระทบ ทำให้รายได้รวมของการบินไทยลดลง 1-2% โดยในส่วนของรายได้จากการขายตั๋วเครื่องบิน น่าจะถูกกระทบไม่น้อยกว่า 1% ซึ่งมาจากการเปลี่ยนแปลงของราคาน้ำมัน และ ค่าเงินบาท ล้วนเป็นตัวแปรของรายได้การบินไทยทั้งสิ้น

ตั้งแต่ต้นปี การบินไทย สูญเสียรายได้เฉลี่ยเดือนละ 300-400 ล้านบาท จากการแข็งตัวของค่าเงินบาท ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่หลักของฝ่ายการพาณิชย์ ที่ต้องปรับกลยุทธ์หาทางเพิ่มรายได้ให้แก่บริษัท ด้วยการหาลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น ล่าสุด บริษัท ได้เปิดตัวแคมเปญ “บินทวงฝันกับการบินไทย” จับกลุ่มเป้าหมายอายุตั้งแต่ 55 ปี ขึ้นไป ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้มีศักยภาพในการจับจ่ายใช้สอย และยังเป็นโอกาสที่บริษัทจะได้ตอบแทนลูกค้า

ทั้งนี้แคมเปญดังกล่าว การบินไทยจะจำหน่ายตั๋วราคาเดียว โดยแบ่งเป็น 2 เส้นทางหลัก ได้แก่ “ทวงฝันยุโรป” บัตรโดยสารชั้นประหยัด เดินทางไป อังกฤษ ฝรั่งเศส อิตาลี สวีเดน เดนมาร์ก เยอรมนี สเปน สวิตเซอร์แลนด์ รัสเซีย และ แอฟริกาใต้ ราคาที่นั่งละ 26,500 บาท และ เส้นทางทาง “ทวงฝันเอเชีย” ตั๋วชั้นประหยัด ไป-กลับ ประเทศ ญี่ปุ่น จีน เกาหลี ฮ่องกง สิงคโปร์ และ มาเลเซีย ราคาที่นั่งละ 4,500 บาท ทั้งหมดดังกล่าวเฉลี่ยลดลงที่นั่งละ 40-50% จากราคาปกติ และแคมเปญนี้ การบินไทย ได้จับมือกับบัตรเครดิตกรุงไทย หรือ เคทีซี ซีเนียร์ การ์ด สามารถผ่อนชำระได้นาน 4 เดือนในอัตราดอกเบี้ย 0% หากลูกค้าจองตั๋วตั้งแต่วันนี้ถึง 30 กันยายนศกนี้ จะได้รับ”บัตรทวงฝัน” ใช้เป็นส่วนลด 5% สำหรับซื้อบัตรโดยสารในเส้นทางทวงฝันในครั้งต่อๆไป

บาทแข็งผู้โดยสารวูบการบินไทยดิ้นสู้

นายวัลลภ กล่าวว่า การจัดแคมเปญของการบินไทย เพื่อกระตุ้นให้มีลูกค้ามาใช้บริการมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงโลว์ซีซั่น ซึ่งมีนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจจากต่างประเทศเดินทางเข้ามาประเทศไทยจำนวนน้อย ขณะที่ประเทศไทย และ คนไทยก็ชะลอการจับจ่าย แต่แคมเปญนี้เชื่อว่า จะกระตุ้นในส่วนของผู้โดยสารขาออกให้มีเพิ่มมากขึ้นได้อย่างแน่นอน ซึ่งการลดราคาของการบินไทยที่เราออกไปแต่ละแคมเปญนั้นไม่ถือว่าเป็นการทำให้บริษัทขาดทุน เพราะ การบินไทยต้องมีเที่ยวบินออกจากสนามบินกว่า 200 เที่ยวต่อวัน ดังนั้นหน้าที่ของฝ่ายการพาณิชย์ จะต้องหาลูกค้าเข้ามาเติมเต็มในส่วนที่นั่งที่ยังว่างอยู่ให้เต็ม หรือให้มีมากที่สุด เพื่อไม่ให้เสียที่นั่งฟรีๆในแต่ละเที่ยวบิน ดังนั้นจึงถือเป็นการเพิ่มรายได้ให้แก่บริษัท ไม่ใช่การลดรายได้

“ในปีนี้เฉลี่ยทั้งปีอัตราผู้โดยสารเฉลี่ยต่อเที่ยวของการบินไทยน่าจะประมาณ 75% เพิ่มจากปีที่แล้ว ที่ผู้โดยสารเฉลี่ยต่อเที่ยวจะประมาณ 74% โดยในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา การบินไทยมีอัตราผู้โดยสารเฉลี่ยต่อเที่ยวที่ 75.6% ดังนั้นหากมองในด้านจำนวน เราเติบโตได้ตามเป้าหมาย แต่ที่รายได้ไม่น่าจะถึงเป้าหมาย 1.68 แสนล้านบาท มาจากค่าเงินบาทที่แข็งขึ้น”

การที่เราหันมาโปรโมตเส้นทางต่างประเทศ เพราะเห็นว่า ค่าเงินบาทที่แข็งขึ้น ถือเป็นโอกาสของคนไทย ที่จะได้เที่ยวต่างประเทศในราคาที่ถูกลง ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติ เช่น ตลาดญี่ปุ่น อาจเดินทางมาไทยน้อยลง เพราะค่าเงินบาทแข็ง ทำให้เขาต้องจ่ายแพงขึ้น ซึ่งภาพรวมของผู้โดยสารที่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ใช้บริการของการบินไทย ตั้งแต่ต้นปีเดินทางเข้ามา เฉลี่ยลดลง 2-3% อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 15 กรกฎาคมศกนี้ การบินไทย จะปรับค่าเซอร์ชาร์จน้ำมันขึ้นอีก 10 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐ ใน 2 เส้นทาง คือ อเมริกา และ นิวซีแลนด์

จี้นกแอร์ซื้อคืนหุ้นการบินไทย

นายวัลลภ กล่าวอีกว่า ในส่วนของการซื้อหุ้นจาก สายการบินนกแอร์ นั้น หากทางนกแอร์ไม่ยินดีที่จะขายหุ้นให้แก่การบินไทย และ ยังไม่ยอมฟังความคิดเห็นของกรรมการการบินไทย ที่อยู่ในบอร์ดของนกแอร์ ในความคิดเห็นส่วนตัวมองว่า หากเป็นเช่นนี้ นกแอร์ ก็ควรที่จะมาซื้อหุ้นของการบินไทยที่มีอยู่ 39% กลับไปเสีย เพื่อจะได้มีอำนาจในการบริหารจัดการได้เต็มที่

เพราะจุดประสงค์ของการบินไทย ที่ตั้งสายการบินนกแอร์ขึ้นมา เพื่อจะให้เข้ามาบินในเส้นทางที่การบินไทยมีผู้โดยสารน้อย ขาดทุน หรือเส้นทางรองที่ การบินไทยไม่สามารถบินได้ โดยให้สิทธิพิเศษ ให้เช่าเครื่องบิน และซ่อมเครื่องบิน ในราคาถูก แต่เมื่อนกแอร์ไม่ยอมทำตามก็ถือว่าผิดวัตถุประสงค์ ส่วนที่ว่าการบินไทยลดราคาสู้นั้น ความจริงไม่ใช่เพราะราคาที่การบินไทยเสนอให้แก่ผู้โดยสาร เป็นราคาสูงสุดของสายการบินโลว์คอสต์ ดังนั้น เป็นสิทธิ์ที่ลูกค้าจะเป็นผู้เลือก ว่าจะใช้บริการของใคร


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.