ไอ.ซี.ซี.สยายปีกเข็นสินค้าสู่ตปท.3ปีเพิ่มสัดส่วน5%


ผู้จัดการรายวัน(4 กรกฎาคม 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

นางจินตนา เฉลิมชัยกิจ ผู้อำนวยการ เครื่องสำอางและน้ำหอม บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล (มหาชน) ผู้ผลิตและทำตลาดสินค้าอุปโภคแบรนด์เนมชั้นนำ เช่น แบรนด์ บีเอสซี ชีนเน่ เพียว แคร์ เซนต์แอนดรูว์ ฯลฯ เปิดเผยว่า นโยบายการดำเนินงานของบริษัทฯนับจากนี้ มีแผนที่จะขยายฐานตลาดในต่างประเทศอย่างจริงจังและมากขึ้นกว่าเดิมที่ผ่านมา โดยจะใช้กลยุทธ์การแต่งตั้งพันธมิตรให้เป็นผู้จัดจำหน่ายและรับผิดชอบการทำตลาดในแต่ละประเทศ

เนื่องมาจากภาวะตลาดและเศรษฐกิจในขณะนี้ไม่ค่อยดี กำลังซื้อผู้บริโภคลดลง ปัจจัยลบต่างๆยังมีอีกมากส่งผลกระทบต่อการทำตลาด ดังนั้นการขยายฐานต่างประเทศน่าจะเป็นอีกทางหนึ่งที่ทำให้ฐานธุรกิจของบริษัทฯมีการเติบโตขึ้น

อีกทั้ง ยังเป็นการตอบรับกับนโบบายของทั้งเครือสหพัฒน์ที่มุ่งสู่ตลาดอินเตอร์เนชั่นแนลมากขึ้น เพื่อสร้างการเติบโตในตลาดใหม่ๆ และคาดว่าจะมีความชัดเจนอย่างมากภายในสิ้นปีนี้ โดยบริษัทฯตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้จากตลาดต่างประเทศเพิ่มเป็น 5% ภายใน 3 ปีนับจากนี้ จากปัจจุบันมีสัดส่วนอยู่ที่ 1%

ขณะเดียวกัน การทำตลาดสินค้าหมวดเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว แบรนด์เนม อาทิ บีเอสซี ชีนเน่ เพียว แคร์ เซนต์ แอนดรูว์ ฯลฯ ในต่างประเทศนั้น เพราะหลังจากที่ประเทศไทยเข้าสู่เขตการค้าเสรีอาเซียน หรือ อาฟตา(เอเอฟทีเอ) เรื่องภาษีจะมีความง่ายมากขึ้นไม่ลำบากหรือยุ่งยากเป็นปัญหามากเหมือนในอดีต ซึ่งส่งผลให้บริษัทฯเล็งเห็นการทำตลาดด้วยการขยายตลาดใหม่ไปยังต่างประเทศเพื่อเป็นการสร้างรายได้เพิ่มขึ้นได้อีกทางมีความง่ายขึ้น

ทั้งนี้บริษัทฯจะใช้ 2 แบรนด์หลักในการรุกตลาดต่างประเทศก่อนคือ แบรนด์บีเอสซี ซึ่งและแบรนด์ชีนเน่ซึ่งเป็นแบรนด์ของกลุ่มสหพัฒน์เอง รวมทั้งแบรนด์อื่นด้วยตามความเหมาะสมของแต่ละตลาด โดยตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าภายในช่วงระยะเวลา 3 ปีจากนี้ สินค้าของบริษัทฯที่รุกตลาดต่างประเทศจะต้องมีสินค้าที่วางจำหน่ายครอบคลุมในตลาดภูภาคเอเชีย นอกเหนือจากปัจจุบันที่มีบ้างแล้วในบางประเทศ เช่น พม่า กัมพูชา และฟิลิปปินส์ เป็นต้น ทั้งนี้บริษัทฯจะใช้งบประมาณดำเนินงานประมาณ 15% ของยอดรายได้รวมที่มาจากการสั่งซื้อหรือออเดอร์ เพื่อนำมาทำกิจกรรมส่งเสริมการขายในตลาดต่างประเทศ

ล่าสุด บริษัทฯได้เซ็นสัญญากับพันธมิตรธุรกิจประเทศอินเดียคือ บริษัทวี อี โปรดักส์ เพื่อรับสิทธิ์เป็นตัวแทนการทำตลาดผลิตภัณฑ์แบรนด์เซนต์ แอนดรูว์ (St.andrews) และ บีเอสซี เพียวแคร์ ในประเทศกัมพูชา จากก่อนหน้าที่บริษัทฯทำตลาดผลิตภัณฑ์แบรนด์ชีนเน่ เป็นหลักในประเทศ พม่า เขมร ฟิลิปปินส์ ลาว ร่วมกับพันธมิตรคู่ค้าในแต่ละประเทศดังกล่าว

นอกจากแผนการบุกออกสู่ตลาดต่างประเทศแล้ว บริษัทฯยังได้ทดลอง เปิดตัวพร้อมทำตลาดสินค้าใหม่กลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบรนด์ชีนเน่ สำหรับดูแลผิวพรรณ และผิวหน้าในรูปแบบแคปซูล โดยเบื้องต้นทำตลาดผ่าน 2 ช่องทาง คือ มุมจำหน่ายเครื่องสำอาง ค้าส่ง พลาซ่า เคาน์เตอร์ชีนเน่ และศูนย์การค้าประเภทดิสเคาน์สโตร์ ล่าสุดขยายทำตลาดผ่านแคตตาล็อกสินค้า ด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้สินค้าแบรนด์ดังกล่าวจับกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่น เป็นหลักและได้รับการตอบรับดี โดยมีอัตราเติบโตในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 5% ขณะที่ภาพรวมตลาดเครื่องสำอางมีอัตราเติบโตต่ำกว่าเฉลี่ยมีการติดลบอยู่ที่ -1%-2% จากมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท ขณะที่ 6 เดือนแรกของปีที่ผ่านมาแบรนด์ชีนเน่มีอัตราเติบโตคงที่และเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีที่แบรนด์ดังกล่าวทำตลาด พร้อมปรับเป้าการเติบโตสิ้นปีนี้อยู่ที่ 12% จากเดิมตั้งไว้ 15% จากปีที่ผ่านมามีอัตราเติบโต15%


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.