|
จีอีลุยเพิ่มสัดส่วนถือหุ้นเบย์ 31%
ผู้จัดการรายวัน(3 กรกฎาคม 2550)
กลับสู่หน้าหลัก
จีอี เดินหน้าเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในธนาคารกรุงศรีเป็น 31% หลังได้รับอนุมัติจาก ธปท.และกระทรวงการคลัง หวังหนุนวิสัยทัศน์ของธนาคาร ขยายธุรกิจและสร้างการเติบโต ตั้งเป้าเป็นธนาคารที่ครบวงจรได้รับการชื่นชมมากที่สุดในประเทศไทย
นายวีระพันธุ์ ทีปสุวรรณ ประธานกรรมการธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่าจีอี มันนี่ ผู้ถือหุ้นใหญ่รายหนึ่งของธนาคาร (ถือหุ้นในนาม จีอี แคปปิตอล อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้ง คอร์ปอเรชั่น)ได้เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในธนาคารขึ้นเป็น 31% (หลังใบสำคัญแสดงสิทธิแปลงสภาพเต็มจำนวนแล้ว) โดยได้รับการอนุมัติจากธนาคารแห่งประเทศไทยและกระทรวงการคลัง และเป็นไปตามที่ผู้ถือหุ้นธนาคารได้อนุมัติไว้เมื่อปีที่แล้ว โดยในครั้งนี้ จีอี มันนี่ ได้เข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่จำนวน 444.7 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่าการลงทุนเพิ่ม 7,115 ล้านบาท (ประมาณ 200 ล้านเหรียญสหรัฐ) ส่งผลให้อัตราส่วนเงินกองทุนของธนาคาร (CAR) แข็งแกร่งยิ่งขึ้นเป็น 19%
“ถือได้ว่าความเป็นพันธมิตรของธนาคาร กับ จีอี มันนี่ ได้คืบหน้าไปอีกขั้นหนึ่ง และได้เกิดขึ้นเร็วกว่าแผนที่วางไว้ จึงมั่นใจว่าธนาคารจะได้รับผลประโยชน์จากการเป็นพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง และเชื่อว่าผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ มองว่า นี่เป็นอีกก้าวที่ส่งผลบวกต่อธนาคาร โดยกลุ่มรัตนรักษ์ซึ่งถือหุ้น 26% ก็ยินดีในเรื่องนี้ และยึดมั่นที่จะให้การสนับสนุนธนาคารต่อไป” นายวีระพันธุ์ กล่าว
ด้านนายโยชิอากิ ฟูจิโมริ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร จีอี มันนี่ เอเชีย กล่าวว่า มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เพิ่มความผูกพันกับธนาคารกรุงศรีอยุธยามากยิ่งขึ้น ความประสงค์ของ จีอี มันนี่ ในการเพิ่มการถือหุ้นในธนาคารกรุงศรีครั้งนี้ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในธนาคารกรุงศรีอยุธยา ความเชื่อมั่นในอนาคตของธุรกิจธนาคารในประเทศไทย รวมถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศในระยะยาว ในฐานะนักลงทุนต่างชาติ การที่ ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้อนุมัติการเพิ่มการลงทุนในครั้งนี้ ถือเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนของรัฐบาลในการสนับสนุนการลงทุนทางตรงของนักลงทุนต่างชาติ กลุ่มจีอีมีเป้าหมายที่จะเร่งเสริมสร้างพลังพันธมิตรในธนาคารกรุงศรีอยุธยา
ขณะที่นายตัน คอง คูน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า เงินทุนที่เข้ามาเพิ่มในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มความคล่องตัวให้คณะผู้บริหารในการวางแผนขยายธุรกิจและการสร้างความเติบโตให้กับธนาคาร อีกทั้งยังเชื่อมั่นว่าพลังพันธมิตรที่แข็งแกร่งและแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นนี้ จะช่วยสนับสนุนให้ธนาคารบรรลุเป้าหมายการเป็นธนาคารที่ให้บริการครบวงจรที่ได้รับการชื่นชมมากที่สุดในประเทศไทย ตามวิสัยทัศน์ที่ได้วางไว้
ทั้งนี้ หลังจากที่ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของธนาคาร ครั้งที่ 1/2549 เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2549 ได้อนุมัติให้เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กลุ่มจีอีได้ถึง 2,000 ล้านหุ้นนั้น ในวันที่ 3 มกราคม 2550 จีอีได้เข้าซื้อหุ้นในคราวแรกจำนวน 1,391 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนการถือหุ้นในธนาคารร้อยละ 25.4 การเพิ่มทุนในครั้งนี้ เป็นไปตามเงื่อนไขที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น โดยจีอีสามารถจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของธนาคารในราคา 16 บาทต่อหุ้นภายในไตรมาส 3 ปี 2550
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|