|
เนสท์เล่อัด100ล.รุกตลาดใหม่ไล่เบียดสิงห์เล็งผู้นำน้ำดื่มใน3ปี
ผู้จัดการรายวัน(3 กรกฎาคม 2550)
กลับสู่หน้าหลัก
เนสท์เล่เพียวไลฟ์ ตั้งเป้าขึ้นแท่นผู้นำภายใน 3 ปี เปิดแผนรุก อัดงบ 100 ล้านบาทลุยปีนี้ มุ่งเน้น Emotional Marketing เพิ่มกระจายสินค้าให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ลุยเจาะตลาดบ้านเล็งเพิ่มกำลังการผลิต
นายประหยัด อนุชิราชีวะ กรรมการบริหารธุรกิจน้ำดื่ม บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำดื่มเนสท์เล่ เพียวไลฟ์ เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดน้ำดื่มบรรจุขวดปีนี้คาดว่าจะเติบโตประมาณ 7-8% จากมูลค่าตลาดรวมที่สูงกว่า 13,000 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมา และการแข่งขันในตลาดรวมส่วนใหญ่จะเน้นที่กลยุทธ์การสร้างแบรนด์เพื่อให้เกิดการยอมรับจากผู้บริโภคมากขึ้น ซึ่งสอดรับกระแสคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจในสุขภาพ
ในปีที่ผ่านมา เนสท์เล่ เพียวไลฟ์ สามารถมีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 2 ของตลาดขวดเพ็ท หรือ ประมาณ 24% ซึ่งคาดว่าการรุกทำตลาดอย่างหนักในปีนี้ จะสามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้นและสามารถผลักดันให้บริษัทฯก้าวสู่ความเป็นอันดับ 1 ในอนาคตอันใกล้ได้อย่างแน่นอน สำหรับตลาดน้ำดื่มขวด PET โดยรวม
ปัจจุบัน ผู้นำตลาดคือ น้ำสิงห์ มีแชร์ 26-27% รองลงมาคือ เนสท์เล่ มีแชร์ 24-25% (แบ่งเป็นเพียวไลฟ์ 19% และมิเนเร่ 6%) ส่วนอันดับทีสามคือ คริสตัล มีแชร์ 17-18%
ทั้งนี้ในปีนี้เนสท์เล่ เพียวไลฟ์ ตั้งเป้ายอดขายสิ้นปีนี้โตกว่า 50% โดยยอดขายใน 5 เดือนแรกที่ผ่านมาโตประมาณ 49.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียว และคาดว่าจะสามารถขึ้นเป็นอันดับ 1 ได้ภายใน 2-3 ปี ซึ่งมีแผนที่จะกระจายสินค้าให้ครอบคลุมทั่วทุกจังหวัด โดยปัจจุบันอัตราการเข้าถึงร้านค้า (Penetration) ที่อยู่ในตัวเมืองอยู่ประมาณ 50% โดยมีผู้แทนจำหน่าย (distributor)ที่รับผิดชอบในการกระจายสินค้าประมาณ 40 ราย ซึ่งใช้งบประมาณรวมทั้งปี 2550 กว่า 100 ล้านบาท
ส่วนอีกช่องทางที่น่าจะเป็นช่องทางที่มีศักยภาพ คือ การเจาะตลาดบ้าน ซึ่งผู้บริโภคในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาจะมีการต้มน้ำดื่ม หรือ กรองน้ำดื่มน้อยลง คนจะหันมาซื้อน้ำรับประทานมากขึ้น ซึ่งจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ทำให้บริษัทฯขยายตลาดได้มากขึ้น
นอกเหนือจากช่องทางร้านชำ และโรงเรียนแล้ว ทางเนสท์เล่ เพียวไลฟ์ ยังเน้นการเข้าถึงช่องทางร้านอาหารตามจังหวัดต่าง ๆ โดยมีร้านค้าเป้าหมายประมาณ 50,000 ร้านทั่วประเทศ ซึ่งเป็นร้านค้าในเครือข่ายของเพียวไลฟ์แล้วประมาณ 50,000 ร้าน
ปัจจุบันกำลังศึกษาการเพิ่มกำลังผลิต (ซึ่งใช้เต็มกำลังประมาณปีละ 2-300 ล้านขวด) ว่าจะเป็นการเพิ่มไลน์ผลิต หรือ การสร้างโรงงานใหม่ ซึ่งหากเป็นโรงงานใหม่น่าจะเป็นในทำเลที่สะดวกต่อการขนส่งให้กับร้านค้าในจังหวัดต่าง ๆ ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะเป็นทางภาคใต้
สำหรับแผนการตลาดครึ่งปีหลังนี้บริษัทฯเตรียมเดินหน้าเจาะตลาดน้ำดื่มบรรจุขวดเพ็ทด้วยกลยุทธ์การตลาดแนว Emotional Marketing ภายใต้คอนเซ็ปท์ “การให้ คือการหยิบยื่นสิ่งดีๆ ให้แก่กันและกัน” เพื่อตอกย้ำกระแสการรับรู้ในแบรนด์เนสท์เล่ เพียวไลฟ์ ต่อกลุ่มเป้าหมายซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่ทันสมัย ด้วยการออกแคมเปญ “Care Delivery” เพื่อสานต่อแคมเปญโฆษณาที่เปิดตัวไปเมื่อต้นปี ซึ่งได้รับกระแสการตอบรับดีมากทั้งในด้านการรับรู้ของภาพยนตร์โฆษณา และการจดจำตราสินค้าน้ำดื่มเนสท์เล่ เพียวไลฟ์
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|