บู๊ทส์โตต่ำเป้าเร่งเครื่องครึ่งปีหลังลุยไซส์เล็ก-ออกบัตร-ลด50%กู้ยอด


ผู้จัดการรายวัน(29 มิถุนายน 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

บู๊ทส์สำลักพิษเศรษฐกิจครึ่งปีแรก เติบโตหลักเดียวต่ำกว่าเป้าหมาย พร้อมมั่นใจเร่งเครื่องครึ่งปีหลังกู้หน้ากลับคืนได้ ส่วนแผนเปิดสาขาใหม่ทำเต็มที่ พร้อมลุยรูปแบบไซส์เล็กขายสินค้าเฉพาะทำเลเป็นหลัก คุยโวสินค้ากลุ่มเฮลท์แคร์ในร้านมียอดขายเติบโตและกินแชร์มากที่สุดในกลุ่มช่องทางโมเดิร์นเทรดด้วยกัน พร้อมดึงพันธมิตรร่วมแคมเปญใหญ่ บู๊ทส์เฮลท์คลับ

นายเอียน ฮันเตอร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บู๊ทส์ รีเทล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้บริหารร้านบู๊ทส์ เปิดเผยว่า ผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกของบริษัทฯ มีการเติบโตต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ตั้งแต่ต้นปีโดยเติบโตเพียงแค่เลขหลักเดียว อันเป็นผลมาจากสภาพเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ แต่อย่างไรก็ตามแผนการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังจากนี้ คาดว่าจะช่วยผลักดันให้การเติบโตทั้งปีอยู่ที่ตัวเลขสองหลักได้

"การทำตลาดโดยรวมของปีนี้ถือว่าเป็นปีที่ยากอย่างมาก เพราะจากสภาพปัญหาทางด้านการเมือง และปัญหาทางด้านเศรษฐกิจโดยรวม ครึ่งปีแรกที่ผ่านมาบู๊ทส์ก็เหมือนกับวงการค้าปลีกทั่วไป ที่ประสบปัญหาสโลว์ดาวน์ลงเช่นกัน แต่บริษัทแม่ก็ยังให้ความสำคัญกับตลาดในประเทศไทยเหมือนเดิม ซึ่งถ้าเทียบกับบู๊ทส์เองในเอเชียด้วยกันแล้ว กล่าวได้ว่าบู๊ทส์ประเทศไทยใหญ่ที่สุดแล้ว"

อย่างไรก็ตามในส่วนของการขยายสาขานั้น ยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าที่จะเปิดสาขาใหม่ปีนี้ประมาณ 15-20 แห่ง โดยช่วงครึ่งปีแรกนี้ได้เปิดไปแล้วประมาณ 6 แห่ง รวมปัจจุบันมีสาขา 121 แห่ง จากสิ้นปีที่แล้วมี 115 แห่ง ซึ่งสาขาล่าสุด คือ สาขาที่ตึกเพรสซิเดนท์ปาร์คสุขุมวิท 24

ทั้งนี้บริษัทฯ ได้เริ่มใช้กลยุทธ์การเปิดสาขาในลักษณะที่มีพื้นที่เล็กลง และพิจารณาวางขายสินค้าตามความต้องการของตลาดในแต่ละทำเลและเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น ควบคู่ไปกับการเปิดร้านขนาดมาตรฐานเดิมด้วยทดลองมาระยะหนึ่งแล้ว และจากนี้ไปจะดำเนินการขยายเต็มที่ ขณะนี้มีประมาณ 15-20 แห่ง โดยสาขาแบบใหม่ล่าสุดเปิดที่เพรสซิเดนท์ปาร์คนี้ มีพื้นที่ 30 ตารางเมตร จะเน้นการขายสินค้าเกี่ยวกับเฮลท์แคร์และยาเป็นหลัก ส่วนสาขาต่อไปรูปแบบเล็กนี้จะเปิด ที่ จังหวัดหนองคายพื้นที่ 80 ตารางเมตร และที่จังหวัด อุบลราชานี ซึ่งสองสาขานี้จะเน้นขายสินค้าทั่วไปเปิดบริการเดือนหน้า

ปัจจุบันสินค้าที่วางขายในร้านบู๊ทส์แบ่งสัดส่วยอดขายออกเป็น เพอร์ซันนอลแคร์40%,เฮลท์แคร์ 30%, คอสเมติกส์ 15% และอื่นๆ 15% ขณะที่หากมองในแง่ของแบรนด์แล้ว สินค้าของบู๊ทส์แบรนด์มีสัดส่วนยอดขายกว่า 40% ซึ่งจะพยายามคงสัดส่วนไว้เท่านี้ แต่เป็นการเติบโตในแง่ยอดขายรวมมากกว่า เพราะต้องการที่จะให้ความสำคัญกับสินค้าของซัปพลายเออร์ควบคู่กันไปด้วย

ทั้งนี้สินค้ากลุ่มเฮลท์แคร์ในร้านบู๊ทส์ทั้งสินค้าของซัปพลายเออร์กับสินค้าของบู๊ทส์เองนั้น ถือว่ามียอดขายสูงที่สุดในบรรดาช่องทางการค้าปลีกแบบโมเดิร์นเทรด ซึ่งบริษัทฯ มีแชร์เพิ่มขึ้นมาตลอดและมีการเติบโตรวมที่ 2.3% โดยบริษัทฯ มีแผนที่จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่แบรนด์บู๊ทส์ในกลุ่มเฮลท์แคร์มากขึ้น เพื่อให้สอดรับกันโยบายของบู๊ทส์ทั่วโลกที่เน้นสินค้ากลุ่มเฮลท์แคร์อยู่แล้ว ตามเทรนด์ของผู้บริโภคที่รักสุขภาพมากขึ้น

ล่าสุดได้เปิดตัวบัตรบู๊ทส์เฮลท์คลับ สำหรับสมาชิกของบู๊ทส์เมื่อซื้อผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพแบรนด์บู๊ทส์จะได้รับส่วนลด 5% และ 10% สำหรับสมาชิกที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป รวมทั้งได้ร่วมมือกับพันธมิตร คือ โรงพยาบาลกรุงเทพฯ, โรงพยาบาลสมิติเวช, โรงพยาบาลพญาไทและฟิตเนสเฟิร์สท ซึ่งจะมอบส่วนลดให้กับผู้ถือบัตร ดังกล่าวนี้และยังมีเวลคัมแพ็ค คูปองส่วนลดมูลค่า 18,000 บาท ตั้งเป้าหมายในการออกบัตรนี้ไว้ประมาณ 50,000 ใบ ซึ่งคาดหวังกับการสร้างรอยัลตี้แบรนด์ด้วย

นอกจากนั้นยังได้จัดแคมเปญลดราคาสินค้า 50% ในกลุ่มผลิตภัณฑ์สกินแคร์ ถึงวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ ในหลากหลายแบรนด์ทั้ง นัมเบอร์เซเว่น โบทานิกส์ แซงซัวรี่ พอนด์ส นีเวีย โอเลย์ การ์นิเย่ เคลียราซิล เป็นต้น ซึ่งแต่ก่อนจะลดเฉพาะแบรนด์ของบริษัทฯ เองแต่ครั้งนี้ได้มีซัปพลายเออร์รายใหญ่เข้ามาร่วมด้วยจำนวนมากเป็นครั้งแรก และจะมีรูปแบบนี้ออกมาตลอดเวลา


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.