|
'พีเจ้น'แก้เกมเบบี้ไวพส์ไม่โตปั้นสูตรใหม่ทะลวงกลุ่มวัยทีน
ผู้จัดการรายวัน(29 มิถุนายน 2550)
กลับสู่หน้าหลัก
พีเจ้น อัดฉีด 15 ล้านบาท ปั้นเบบี้ไวพส์ สูตรคาร์โมมายส์ หวังสร้างตลาดใหม่ขยายฐานลูกค้าวัยทีน หนีตลาดแม่และเด็กไม่โต ลุยกิจกรรม สื่อโฆษณาครบวงจรเพื่อบูมตลาดติดลมบน สิ้นปีกวาดยอดขาย 250 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมโกย 500 ล้านบาท
นายสุเมธ เลอสุมิตรกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มุ่งพัฒนามาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็กแบรนด์ "พีเจ้น" เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ส่งผลิตภัณฑ์ผ้าเช็ดทำความสะอาดผิวสูตรใหม่ "พีเจ้น เบบี้ไวพส์ คาร์โมมายส์" นวัตกรรมใหม่จากประเทศญี่ปุ่นเข้ามาทำตลาดในไทย เจาะกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นโดยตรงเป็นครั้งแรก หลังจากก่อนนี้กลุ่มดังกล่าวเป็นกลุ่มเป้าหมายแฝง จากเดิมเจาะกลุ่มแม่และเด็ก
"บริษัทฯ เล็งเห็นภาวะตลาดทรงตัว อีกทั้งอัตราการเกิดของเด็กมีจำนวนน้อยลงมาก มองว่าจะเป็นการทำตลาดที่ยาก จึงเบนเข็มจับกลุ่มลูกค้าใหม่ ในขณะนี้ยังไม่มีคู่แข่งใดอยู่เลย มองว่าจะเป็นการเบิกทางในตลาด อีกทั้งยังสามารถกำหนดราคาขายและจะสามารถสร้างยอดเพิ่มขึ้น"
สำหรับแผนการทำตลาดผลิตภัณฑ์ผ้าเช็ดหน้าทำความสะอาดผิว สูตร "คาร์โมมายล์" เบื้องต้นบริษัทฯจะรุกการทำตลาดครบวงจร ทั้งในรูปแบบอะโบฟเดอะไลน์ โทรทัศน์และภาพยนต์ และบีโลว์เดอะไลน์ โดยวางงบกว่า 15 ล้านบาท จากงบทั้งหมดที่จะใช้ 26 ล้านบาท ซึ่งวางแผนลงโฆษณาผ่านสื่อสิ่งพิมพ์และนิตยสารและเด็ก นิตยสารผู้หญิง ฯลฯ อย่างต่อเนื่อง
พร้อมกับการจัดกิจกรรมการตลาดเสริมด้วยสนแจกผลิตภัณฑ์ตัวอย่างกว่า 200,000 ชิ้น ในแหล่งชุมชนต่างๆ เพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์ให้ได้ทดลองใช้ อีกทั้งยังมุ่งเข้าให้ถึงกลุ่มผู้บริโภคผ่านการให้ความรู้ และความสะดวกสบายและคุณค่าประโยชน์ที่จะได้รับ ขณะที่การสื่อสารทางการตลาดนับจากนี้ไป จะเป็นการทำที่ฉีกแนวตลาดออกไป ทั้งนี้บริษัทฯ เตรียมออกสินค้าใหม่อีก 3-4ตัว ในครึ่งปีหลังขยายไลน์สินค้าใหม่กลุ่มเด็กอีกด้วย
"การทำตลาดด้วยการเจาะแยกเซกเมนต์ เพื่อเป็นการสร้างความหลากหลาย การมุ่งมั่นทำตลาดที่เพิ่มมากขึ้น เพื่อสร้างความแตกต่างกับผู้ประกอบการที่มีอยู่ในตลาด ซึ่งปัจจุบันมักชะลอการทุนผ่านสื่อทางมีเดีย เพราะเป็นการทำตลาดมีมีราคาสูง ตรงจุดนี้บริษัทมองว่าการมุ่งทำตลาดควบคู่ทั้ง อะโบฟเดอะไลน์และบีโลว์เดอะไลน์ จะเป็นจุดแข็ง"
สำหรับมูลค่าตลาดรวมของผลิตภัณฑ์ผ้าเช็ดหน้าทำความสะอาด ทั้งแบบผ้าเช็ดหน้าทำความสะอาดแบบแห้ง หรือ ทิชชู มีมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท และแบบเปียกซึ่งถือว่ายังน้อยอยู่ การเติบโตยังมีได้อีกมากในปี 2549 น่าจะมูลค่าอยู่ 95 ล้านบาท ปีนี้คาดว่าจะเติบโต 25-30% ซึ่งปัจจุบัน พีเจ้น เบบี้ไวพส์ เป็นผู้นำตลาดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ดังกล่าวและมีส่วนแบ่งในตลาดอยู่ 38%
ผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรก บริษัทมียอดขายเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 15% ซึ่งถือว่าเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ และคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตต่อเนื่องจนถึงครึ่งปีหลัง เนื่องจากบริษัทมีการจัดกิจกรรมการตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ต่างๆ ตลอดเวลา ขณะที่คู่แข่งค่อนข้างชะลอการทำตลาด เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ทั้งนี้ในปี 2550 บริษัทคาดว่าผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์พีเจ้น จะมีรายได้ประมาณ 250 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมทั้งบริษัท คาดว่าจะอยู่ที่ 500 ล้านบาท
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|