เพราะอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลฝรั่งเศสมาแสนนาน 3 แบงก์ยักษ์ใหญ่ของประเทศจึงผูกพันกับสามนโยบายอย่างใกล้ชิด
สายสัมพันธ์แบบนี้มีสิทธิทำให้กิจการรุ้งเรืองหรือฟุบเพราะว่าขาดทุนยับก็ได้
จากรายงานของเชียร์สัน เลห์เมน แห่งอังกฤษ เมื่อเร็วนี้ได้ชี้ให้เห็นถึงเงือนปมทางประวัติศาสตร์
หลายอย่างด้วยกัน
แบงก์ ฝรั่งเศษมีต้นทุนดำเนินงานสูงมากส่วนใหญ่เป็นเพราะบทบาทของการเป็นเครื่องมือรัฐบาล
ในด้านที่เกี่ยวกับนโยบายการเงิน แบงก์ในฝรั่งเศสมีลักษณะเหมือนในประเทศโลกที่สามที่มองว่าการเพิ่มตำแหน่งงานคือสิ่งที่ดี
ทำให้ตำแหน่งแบงก์มีคนล้มงานมากมาย
แบงก์ในฝรั่งเศสได้ชื่อว่าเป็นแบงก์ที่ใหญ่สุด มาเป็นหลายปี จากการใช้ตลาดระหว่างธนาคารนั้นเอง
เมื่อตลาดในประเทศถูกจำกัดการเติมโตของสินเชื่อ แบงก์ฝรั่งเศสจึวงต้องดิ้นรนสู่ตลาดต่างประเทศผ่านทางตลาดระหว่างธนาคารซึ่งมักจะคิด
ส่วนต่างกำไรในราคาต่ำ ทำให้บัญชีงบดุลของฝรั่งเศส ดูดีมากและเต็มไปด้วยความน่าทึ่ง
แต่ไม่ได้เรื่องเลยเมื่อมองถึงกำไรที่ควรได้
เพราะว่าแบงก์ฝรั่งเศสเหล่านี้ ไม่จำเป็นต้องสร้างกำไรมากนัก จึงกล้าลดส่วนต่างกำไรของตนในหลายเขนงธุรกิจ
เพื่อแข่งขันกับคู่แข่งอื่นๆ ให้ได้ในแขนงธุรกิจหนึ่งที่น่าสนใจคือการโอนเงิน
ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการโอนเช็คและเคลียร์เช็ค เมื่อไม่นานมานี้ ธุรกิจกู้จำนองก็มีการแข่งขันที่เข้มข้นมาก
จนกระทั่งส่วนต่างกำไรลดลงต่ำกว่าระดับสากล และในตลบาดเครติดการ์เอง แบงก์ทั่งหลายก็ต้องกัดฟันทำไป
ในสภาพส่วนต่างกำไรแทบจะไม่มีอยู่เลย
นับจากปลายทศวรรษ 1980 เป็นต้นมา มีความพยายามที่จะแก้ปัญหาส่วนที่เกิดขึ้นนี้
ทำให้จำนวนพนักงานลดลง ต้นทุนการเคลียริงเช็ค ลดลงมาอยู่ในระดับที่ควบคุมได้
และการปฏิวัติเงินพลาสติกเริ่มส่งผลเด่นชัด เมื่อจำนวนการใช้เครื่องลดลงเป็นเครื่องทดสอบเครดิต
ลีอองส์ "ยุคใหม่" ได้เป็นอย่างดี