ใครเป็นใครในตระกูล "เบญจรงคกุล"

โดย สุปราณี คงนิรันดรสุข
นิตยสารผู้จัดการ( กรกฎาคม 2534)



กลับสู่หน้าหลัก

สุจินต์ เบญจรงคกุล สร้างบริษัทยูในเต็ดคอมมูนิเคชั่น อินดัสทรี (ยูคอม) ขึ้นมาตั้งแต่ยังหนุ่มอายุ 28 ปี โดยมีกาญจนาที่มีอายุมากว่า เขาหนึ่งปีเป็นคู่ทุกข์คู่ยาก ต่อมากาญจนาคนนี้ก็มีบทบาทสืบต่อจากสุจินต์ ที่ได้เสียชีวิตไปเมื่อ 10 ที่แล้ว

สุจินต์เป็นพ่อค้าที่มองการณ์ไกล เมื่อสุจินต์ก่อตั้งห้างหุ้นส่วนยูไนเต็ด อิน อินดัสทรีขึ้นในปี 2499 เขาได้ทุ่มเทอย่างหนักกับการวิ่งขายอุปกรณ์โทรคมนาคมประเภท MOBILE RADIO ยี่ห้อ " โมโตโรล่า " ที่เขาจับตลอดราชการ โดยเฉพาะกรมไปรษณีย์โทรเลข ซึ่งต่อมาได้แยกเป็นสององค์กรคือ องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย และการสื่อสารแห่งประเทศไทยที่ซึ่งสุจินต์เข้าครองครองฐานะซัพพลายเออร์รายสำคัญได้พื้นฐานทางธุรกิจการค้า ตลอดจนสายสัมพันธ์ลำลึกกับเจ้าหน้าในการสื่อสารฯ ที่สุจินต์ได้ปูพื้นฐานไว้ในรุ่นลูก ทำให้บุญชัย เบญจรงคกุล บุตรชายคนโตที่เข้าสานงานต่อ ภาระกิจนี้ทำงานได้ก้าวหน้ามั่นคงขึ้นจากฐานนี้หลังจากที่ได้ศึกษาจบปริญาโทบยริหารธุรกิจจากสหรัฐอเมริกา

ปัจจุบันบุญชัยอายุ 37 ปี ดำรงตำแหน่งเป็นผู้จัดการบริษัทยูคอมแห่งนี้ นิสัยส่วนตัวชอบสะสมของเก่า เช่นธนบัตรเก่า แสตมป์ และเหรียญ และชอบสะสมมากคือ ตุ๊กตา ช้างในรูปลักษณะต่างๆ แต่งงานแล้วผู้หญิงที่มีชื่อเดียวกับน้องสาว ชื่อ วรรณา ซึ่งมีอายุมากกว่า 2 ปี มีบุตร 2 คนคือ ดญ. ปองบัณย์และดช. สมคิด ชีวิตการแต่งงานไม่ค่อยที่จะราบรื่นเนื่องจากความเจ้าอารมณ์หญิง

บรรดาน้องๆ มีบทบาทปัจจุบันนี้มีอยู่ 3 คน คือวรรณา ซึ่งพื้นฐานการศึกษาปริญญาตรี บริหารธุรกิจจากมหาวิทยาลัยนอร์ธเทิร์น อิลลินอยส์ อดีตศิษย์เก่าเซนต์โยเซฟคอนแวนต์

วรรณาเป็นคนตัวเล็กที่เสียงดัง เกิดเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2499 ปัจจุบันอายุ 37 ทำหน้าที่ดูแลเรื่องบัญชี การเงินของบริษัทยูคอม และบริษัทนารายสากลประกันภัยซึ่งวรรณาจะเซ็นกรมธรรม์ประกันภัยคู้กับสมชาย นอกจากนนี้ยังมีกิจการบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งวรรณาให้ความสนใจมากในระยะเวลา 2-3 ปี ที่ผ่านมานี้

วรรณาโดยนิสัยส่วนตัวเป็นคนที่ชอบวายน้ำมาก ๆ โดยทุกๆ เช้าจะไปสปอร์ตคลับ เป็นชาวพุทธที่ศรัทธาในวัดธรรมกายมากสูงถึงขนาดบริจาคเงิน ทำบุญนับสิบกว่าล้านบาทในระหว่างปี 2528 - 30 เนื่องจากที่ได้รับความสงบสบายใจมาก หลักจากที่ทุกข์ร้อนจากปัญหาฟ้องร้องผลประโยชน์ในหุ้นกันเองระหว่างญาติเมื่อพ่อตาย ในที่สุดก็ตกลงกันได้โดยมีคนกลางเป็นพระจากธรรมกายเข้าช่วยโกล่เกลี่ย

ส่วนสมชายบุตรชายคนที่สามของสุจินต์ไม่ค่อยที่จะมีบทบาทนักนอกจากที่ดูแลกิจการบริษัทนารายณ์ สากลประกันภัยเป็นหลัก ปัจจุบันสมชายอายุ 34 ปี มีภรรยาที่ช่วยดูแลกิจการบริษัทซินโตแมท ตัวแทนขายโทรศัพท์มือถือ โมโตโรล่า และคอมพิวเตอร์

คนสุกท้องคือวิชัย เบญจรงคกุล วัย 30 ปี ที่ฝึกฝนวิทยายุทธ์เชิงค้าจาก ภูษณะปรีย์มาโนช กุลซือคนสำคัญที่เป็น EVP ของยูคอมและ TAC ปัจจุบันวิชัยเป็นผู้จัดการฝ่ายอุปกรณ์ปลายทางเช่นโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยทำงานอยู่ที่ตึกแปซิฟิคทาวเวอร์ชั้นที่ 11 และบทบาททางสังคมเป็นรองเลขาธิการสมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทยที่เพิ่งก่อตั้งเมื่อปีที่แล้ว โดยมีอดีตปลัดกระทรวงโทรคมนาคมศรีภูมิศุขเนรตเป็นนายกสมาคมฯ แห่งนี้

นอกจากที่บริษัทยูคอมแล้ว ในอดิตตระกุลเบญจรงคกุลยังเคยเป็น เจ้าของกิจการโรงแรมนารายณ์ในอดีตปี 2504 อีกด้วยโดยร่วมทุนจดทะเบียนทุน 20 ล้านกับญาติและเพื่อนคือเม่งกี่ แซ่เฮ็ง(มนตรี สุวัฒนวงศ์ชัย) ชวาล นิธิวาสิน ฮั้งเซ้ง แซ่ลี่ (ทวี ดี โรจนวงค์) ชินเตียง แซ่เบ๊ จิระ วัฒนกุลจรัส เซ็งตง แซ่โค้ว สุจินต์ เบญจรงคกุลและสุจิตต์ น้องชายสุจินต์ที่ห่างกัน 3 ปี

การบริหารโรงแรมนารายณ์ภายใต้ฝีมือของสองพี่น้อง สุจินต์และสุจิตต์ขณะขณะนั้นเป็นกรรมการผู้อำนวยการและรองกก.ผอ. อยู่ในลักษณะที่ทั้งคู่ไม่มีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อน บริษัทต้องเพิ่มทุนจาก 20 ล้านเป็น 40 ล้านเพื่องานก่อสร้างโรงแรมในปี 2511 ขณะนั้นที่ดินเดิมเจ้าของเสนอขายในมูลค่า 425,000 บาท และได้มีการเพิ่มทุนเป็น 60 ล้านบาท เพื่อซื้อที่ดินเพิ่มเติม

ต่อมาในปี 2516 แผนการเพิ่มทุนเป็น 100 ล้านบาทได้ชะงักไป โดยเฉพาะโครงการร่วมลงทุน 60% กับกับบริษัทลักษณะมีโฮเต็ลเพื่อสร้างโรงแรมลักษมีริมถนนวิทยุขณะนั้น เนื่องจากที่ทางการไม่อนุญาต การก่องสร้างจึงมีปัญหา และเกิดกรณีพิพาทถึงศาลหลังการประชุมใหญ่สามัญประจำปีเมื่อ 30 เมษายน 2521 เป็นเรื่องให้ศาลระงับการขอยื่นจดทะเบียนกรรมการบริษัทและอำนาจกรรมการของกลุ่มเบญจรงดกุล คดีความกันถึง 5 ปี จึงยุติลงได้โดยให้กรรมการชุดเดิมบริหาร

สุจินต์และครอบครัวในฐานะผู้ที่ถือหุ้นใหญ่ได้ครอบครองดวงตราสำคัญของบริษัท ที่ใช้ประทับลงบนเซ็นสัญญาและเอกสารอื่นๆ จวบจนวันสุดท้ายที่เขาเจ็บปวยไม่สามารถมาทำงานได้สุจินต์ได้ได้มอบหมายให้บุญชัย บุตรชายเป็นผู้ที่ประทับตรานี้แทนทำเช่นนี้มากระทั้งปี 2524 บุญชัยจึงได้มอบดวงตราให้แก่ชวาล นิธิวาสิน

นั้นหมายถึงการสิ้นสุด พันธะผู้พันใดๆ ที่ตระกูลเบญจรงคกุลมีต่อโรงแรมนารายณ์นับตั้งแต่นั้นเป็นมา ปัจจุบันโรงแรมมีผู้ที่ถือหุ้นใหญ่อยู่ในกลุ่ม 4 ตระกูลคือนิธิวาสิน ดีโรจนวงศ์ วัฒนุกูล วัฒนกุลจรัส ม้าสินและบริษัทฮั่วกี่เปเปอร์

กิจการเก่าแก่ในตระกูลอีก บริษัทหนึ่งที่ยังคงอยู่มาทุกวันนี้ ก็คือบริษัทห้องเย็นซึ่งตั้งอยู่ยานนาวา กิจการนี้อยู่ในความดูแลของกาญจนา เบญจรงคกุล ก่อตั้งเมื่อปี 2515 หุ้นบริษัทมูลค่า 2 แสนบาท ทุนของบริษัทเป็น 20 ล้านบาท

ในระยะแรกมีสุจิตนเป็นประธานและอำนาจ อุราภรณ์ เป็นรองประธานและ กาญจนาเป็นกรรมการผู้จัดการ เป็นเวลาเกือบ 20 ปี ที่ทุก ๆ 11 โมงเช้า กาญจนาจะไปทำงานที่นี้ สไตล์ การปกครองคนกาญจนาเป็นแบบเถ้าแก่เนี้ยะคนจีน ประเภทปากร้ายใจดี ที่สามารถดุด่าว่ากล่าวลูกน้องได้ ทรัพย์สมบัติในรูปแบบของหุ้นหรือเงินทองของครอบครัวกาญจนาจะเป็นผู้ที่ดูแลทั้งหมด ดังนั้นทิศทางการเติบโต กิจการไม่ต่ำกว่า 20 - 30 บริษัทของตระกูลเบญจรงคกุล จึงมี CORPORATE PLANNER ตัวจริงสามคนคือกาญจนา ผู้เป็นแม่กับบุญชัย และวรรณาเป็นสำคัญ



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.