|
ค่ายซานมิเกลถอดใจเบียร์แข่งดุเบรกทำตลาด“เรดฮอต-บลูไอซ์”
ผู้จัดการรายวัน(25 มิถุนายน 2550)
กลับสู่หน้าหลัก
“ซานมิเกล” ชะลอทำตลาดเบียร์เรดฮอต บูลไอซ์ หลังค่ายผู้นำตลาดเบียร์อีโคโนมีระเบิดสงครามราคา 5 ขวด 100 บาท ประกาศปีนี้โฟกัสสองแบรนด์ใหญ่ซานมิเกล ซานมิกไลท์ติดลมบน โหมอัดบีโลว์เดอะไลน์สถานบันเทิง ผับ บาร์ ลั่นไม่มีแผนเปิดตัวสินค้าใหม่เสริมพอร์ตโฟลิโอ ระบุพิษเศรษฐกิจถล่มตลาดเบียร์ 8.2 หมื่นล้านบาท
แหล่งข่าวจาก บริษัท ซานมิเกล เบียร์ ประเทศไทย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเบียร์บลู ไอซ์,เรด ฮอต และซานมิกไลท์ และซานมิเกล เปิดเผยกับ "ผู้จัดการรายวัน" ว่า นโยบายการตลาดปีนี้บริษัทฯได้วางแผนมุ่งเน้นเบียร์สองตัวหลัก ได้แก่ ซานมิเกล เบียร์โลว์แคลอรี่ และซานมิกไลท์ เนื่องจากบริษัทแม่วางไว้เป็นแบรนด์เรือธงหลักของบริษัท ส่วนแบรนด์เรด ฮอต เบียร์เซกเมนต์อีโคโนมี่ และบลู ไอซ์ เบียร์เซกเมนต์สแตนดาร์ด ซึ่งเปิดตัวลงสู่ตลาดไทยมากว่า 2 ปี จะเป็นแบรนด์ที่เปิดตัวเพื่อทดลองตลาดเท่านั้น และขณะนี้วางแผนที่จะชะลอการทำตลาดลง โดยเริ่มผลิตสินค้าป้อนเข้าสู่ตลาดน้อยลงและจะนำออกจากตลาดไปในที่สุด
แม้ว่าทิศทางตลาดเบียร์อีโคโนมีมูลค่า 78,040 ล้านบาท ในปีนี้จะมีอัตราการเติบโตสูง สืบเนื่องจากผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศที่หดตัว กำลังการซื้อของผู้บริโภคลดลง และเปลี่ยนพฤติกรรมการดื่มจากเบียร์ระดับพรีเมียมและสแตนดาร์ดมาเป็นเบียร์อีโคโนมีแทน แต่การชะลอการทำตลาดเรดฮอต และบลูไอซ์ เป็นเพราะเบียร์เซกเมนต์อีโคโนมี มีการแข่งขันที่รุนแรงโดยเฉพาะด้านราคา โดยมีเบียร์อาชาจำหน่าย 5 –6 ขวด 100บาท ประกอบกับผู้นำตลาดอย่างเบียร์ช้างเป็นแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่ง โดยปัจจุบันครองส่วนแบ่ง 56% ส่วนอันดับสองเป็นเบียร์ลีโอมีส่วนแบ่ง 40% และอาชา 2%
“หลังจากเบียร์เรด ฮอต และบลูไอซ์ทำตลาดมากว่า 2 ปี ทั้งสองตัวมีส่วนแบ่งการตลาดเป็นเพียงตัวเลขหลักเดียวเท่านั้น ส่วนเบียร์ซานมิเกล และซานมิกไลท์เปิดตัวลงตลาดมากว่า 1 ปี ก็มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นเพียงตัวเลขหลักเดียว”
สำหรับแผนการตลาดเบียร์ซานมิเกล และซานมิกไลท์ในปีนี้ บริษัทฯจะใช้งบใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา แต่จะหันไปเน้นบีโลว์เดอะไลน์เพิ่มจาก 60% เป็น 70-80% ผ่านการจัดกิจกรรมตามสถานบันเทิง ผับ บาร์ เป็นหลัก เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง ส่วนการทำอะโบฟเดอะไลน์ลดลงจาก 40% เป็น 20-30% ขณะที่แนวโน้มตลาดไลท์เบียร์และเบียร์โลว์แคลอรี่ ยังเป็นตลาดที่มีขนาดเล็กคิดเป็น 5-10% จากมูลค่าตลาดเบียร์โดยรวม 82,000 ล้านบาท และคาดว่าปีนี้ภาวะตลาดไลท์เบียร์ และโลว์แคลอรี่จะไม่มีอัตราการเติบโต
แหล่งข่าวกล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ว่าการแข่งขันตลาดเบียร์จะยกพอร์ตโฟลิโอเบียร์ขึ้นมาแข่งขันกันมากขึ้น แต่ปีนี้บริษัทฯยังไม่มีแผนเปิดตัวสินค้าใหม่เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่ง จากปัจจุบันบริษัทแม่ในประเทศฟิลิปปินส์กลุ่มเบียร์อยู่ในพอร์ตโฟลิโอที่หลากหลาย เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศที่หดตัวลง และประการสำคัญปีนี้ตลาดเบียร์มูลค่า 82,000 ล้านบาท ในเชิงปริมาณคาดว่าจะมีอัตราการเติบโต 7-10% ส่วนในแง่มูลค่าคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตไม่มากนัก
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|