|
บลจ.กรุงไทยเปิดขาย 3 กองทุน แอลทีเอฟ SET50-ตราสารหนี้
ผู้จัดการรายวัน(20 มิถุนายน 2550)
กลับสู่หน้าหลัก
บลจ.กรุงไทยส่งท้ายกองทุนแอลทีเอฟ เปิดขาย "กรุงไทยหุ้นระยะยาว SET50" เน้นลงทุนหุ้นใหญ่กลุ่ม SET50 พร้อมป้องกันความเสี่ยงโดยเพิ่มสัดส่วนลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พร้อมกันนี้ ยังส่ง 2 กองทุนตราสารหนี้ดูดเงินฝาก เอาใจนักลงทุนเล่นสั่น 3 เดือน 6 เดือน เปิดขายไอพีโอพร้อมกัน 3 กองทุน 20-26 มิถุนายนนี้
นางสาวประภา ปูรณโชติ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาธุรกิจและการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดขายกองทุนใหม่จำนวน 3 กองทุน ซึ่งประกอบก้วย กองทุนเปิดกรุงไทยหุ้นระยะยาว SET50 กองทุนรวมกรุงไทยตราสารหนี้ระยะสั้น 3 เดือน18 และกองทุนรวมกรุงไทยตราสารหนี้ระยะสั้น 6 เดือน18 โดยทั้ง 3 กองทุนจะเปิดขายหน่วยลงทุนครั้งแรกพร้อมกันในระหว่างวันที่ 20-26 มิถุนายนนี้
สำหรับกองทุนเปิดกรุงไทยหุ้นระยะยาว SET50 มีมูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทจดทะเบียน โดยเน้นลงทุนใน SET50 และตราสารหนี้ เงินฝาก ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน ตลอดจนหลักทรัพย์และทรัพย์สินอื่นตามที่สำนักงานคณะกรรมการก.ล.ต.กำหนด ทั้งนี้ กองทุนอาจจะลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivative) แต่จะไม่ลงทุนในตราสารหนี้ที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง( Structure Note) ซึ่งผลตอบแทนของกองทุนดังกล่าวจะใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี SET50
ทั้งนี้ นักลงทุนที่ลงทุนกับกองทุนดังกล่าว สามารถนำเงินลงทุนไปใช้สิทธิประโยชน์ในการหักลดหย่อนภาษีจากเงินได้บุคคลธรรมดา โดยลงทุนได้สูงสุด 15% ของเงินได้ แต่ไม่เกิน 300,000 บาท และไม่นับรวมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ขายคืนได้เมื่อลงทุนครบ5 ปีปฎิทิน โดยขายคืนได้ ปีละ 2 ครั้ง คือวันที่ 1-15 มีนาคม และ1-15 กันยายนของทุกปี นอกจากนี้ บริษัทจะมอบของสมนาคุณเป็นเสื้อโปโลปักตราสัญลักษณ์80 พรรษา สำหรับลูกค้าที่ซื้อหน่วยลงทุน ตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป ภายในสิ้นเดือนมิถุนายนนี้
ส่วนรายละเอียดของกองทุนตราสารหนี้ที่เปิดขายอีก 2 กองทุน ซึ่งประกอบด้วยกองทุนรวมกรุงไทยตราสารหนี้ระยะสั้น 3 เดือน18 มีอายุโครงการ 3 เดือน มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านาท และกองทุนรวมกรุงไทยตราสารหนี้ระยะสั้น 6 เดือน 18 อายุโครงการ 6 เดือน มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ ที่มีลักษณะคล้ายเงินฝาก ตราสารหนี้ทั่วไป เงินฝากในสถาบันการเงิน และตราสารหรือทรัพย์สินอื่นใดที่กองทุนสามารถลงทุนได้
ด้าน ฝ่ายการลงทุนของบลจ. กรุงไทย รายงานภาวะการลงทุนในตลาดตราสารหนี้ว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดตราสารหนี้ยังมีความผันผวนต่อเนื่องโดยเฉพาะตราสารหนี้ระยะกลางถึงยาวที่ปรับตัวเพิ่ม 0.31-0.47% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า สำหรับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุไม่เกิน 1 ปี มีการปรับตัวขึ้นระหว่าง 0.03-0.18% ซึ่งเป็นไปตามภาวะตลาดและผลจากแรงขายของกองทุนบางส่วน เพื่อเตรียมสภาพคล่องรองรับการไถ่ถอนเงินกองทุนในต้นสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตาม จากผลการประมูลตั๋วเงินคลังในรอบวันจันทร์ สำหรับระยะเวลา 28-182 วัน ยังสะท้อนถึงความต้องการที่มีอยู่ค่อนข้างสูง ขณะที่ปริมาณการออกตั๋วเงินคลังยังมีอยู่เพียงสัปดาห์ละ 3 พันล้านบาท จึงทำให้การลงทุนในตั๋วเงินคลังอายุต่ำกว่า 1 ปี ยังให้ผลตอบแทนที่ดี โดยเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ 0.11-0.22% เมื่อเทียบกับดอกเบี้ยเงินฝากประจำระยะสั้นในปัจจุบัน ดังนั้น จึงเห็นว่าการลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นยังได้ผลตอบแทนที่ดีกว่า
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|