รพ.ธนบุรีเทงบ900ล.สร้างแกร่ง


ผู้จัดการรายวัน(19 มิถุนายน 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

โรงพยาบาลธนบุรีเตรียมทุ่ม 900 ล้านบาท สร้างอาคารใหม่เพิ่มห้องตรวจอีก 100 ห้อง เผยปี 49 โต 15% มีรายได้ 2,025 ล้านบาท และปี 50 คาดเพิ่มอีก 15 - 20% ขยายกลุ่มลูกค้าต่างประเทศเพิ่มขึ้น

นายเฉลิมกุล อภิบุณโยภาส ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธนบุรี เปิดเผยว่า ในอีก 2-3 ปีจากนี้โรงพยาบาลฯจะทุ่มงบประมาณกว่า 900 ล้านบาท เพื่อเพิ่มห้องตรวจอีก 100 ห้องพร้อมทั้งห้องผู้ป่วยใน และเพิ่มที่จอดรถประมาณ 250 คัน พร้อมทั้งมีร้านค้าต่างๆที่อำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า เช่น ร้านอาหาร ร้านหนังสือ ร้านเสริมสวย ร้าน Gift Shop โดยคาดว่าโรงพยาบาลจะมีแนวโน้มผลประกอบการโตไม่ต่ำกว่า 15% หรืออัตราเติบโตมากกว่า 20%

“30 ปีที่ผ่านมาของโรงพยาบาล ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานั้น ได้พัฒนาจากเดิมที่เปิดบริการเตียงผู้ป่วยเพียง 60 เตียง พนักงานเพียง 200 คนเท่านั้น จนปัจจุบันมีถึง 435 เตียง ด้วยเงินทุน 550 ล้านบาท และมีพนักงานกว่า 1,800 คน และมีโรงพยาบาลในเครือ 20 แห่ง”

นโยบายต่อไปจึงกำหนดเป้าหมายแน่นอนว่า ในแต่ละปีนั้นผลประกอบการจะต้องเพิ่มขึ้นอย่างต่ำ 12-15% ของแต่ละปี และระยะเวลา 3-5 ปีที่ผ่านมา อัตราการเติบโตเป็นไปตามเป้าหมาย โดยปี 2549 มีรายได้ 2,025 ล้านบาท เป็นรายได้จากการให้บริการทางการแพทย์ 1,950 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 15% ของปี 2548 รวมทั้งมีรายได้อื่น ๆ จากการลงทุนของโรงพยาบาลเครือข่าย โดยมีกำไรสุทธิ จากการดำเนินการก่อนภาษีและดอกเบี้ย 276 ล้านบาท โดยในปี 2550 คาดว่าโรงพยาบาลธนบุรีจะมีรายได้จากการบริการทางการแพทย์ 2,240 ล้านบาท โดยโรงพยาบาลได้ขยายห้องผู้ป่วยเพิ่มขึ้นและเพิ่มแพทย์ในสาขาต่างๆเพื่อที่จะเพิ่มจำนวนผู้ป่วยให้มากขึ้น

ทั้งนี้ ศักยภาพทั้งหมดที่สำคัญมี 3 ปัจจัย คือ เรื่องสถานที่ให้บริการจะต้องได้รับความประทับใจ อีกทั้งเรื่องอุปกรณ์การแพทย์ที่ทันสมัย เช่น Central Monitor ใน I.C.U C.C.U.,R.C.U. ที่มีมูลค่าถึง 30 ล้านบาท อุปกรณ์ห้องผ่าตัดที่ทำใหม่มีมูลค่าถึง 50 ล้านบาท ตลอดจนเครื่อง X-Ray Digital จำนวน 3 เครื่องที่กำลังสั่งซื้ออีกไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท รวมทั้ง CT 64 Slice 1 เครื่อง และได้เปลี่ยนระบบ IT ใหม่รวม 26 ล้านบาท เพื่อต้องการให้ลูกค้าได้รับการบริการที่ดี และสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า ทั้งหมดลงทุนไปกว่า 350 ล้านบาท และที่สำคัญคือเรื่องของบุคลากรที่จะต้องมีความรู้ พร้อมให้บริการตามที่ผู้ป่วยต้องการได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ซึ่งเรื่องนี้ได้ตัดงบประมาณ 1% จากรายได้รวม เพื่อทำการอบรมให้กับพนักงานโดยนำอาจารย์สอนจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดคอร์ส Mini MBA เพื่ออบรมหลักสูตรนี้โดยเฉพาะในช่วงเวลา 4 เดือน

ปัจจุบันเน้นลูกค้าต่างประเทศที่ให้ความเชื่อถือมากขึ้นถึง 7% โดยลูกค้ามาจากทางอินเทอร์เน็ต และโรงพยาบาลในเครือคือ โรงพยาบาลปิยะเวช ซึ่งภายในสิ้นปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 15% เพราะส่วนใหญ่ลูกค้าที่เข้ามาทำการรักษาจะมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา แคนาดา และเป็นโรคกระดูก,ข้อ และหัวใจ เป็นต้น ซึ่งขณะนี้ได้ทำการประชาสัมพันธ์ไปยังโรงแรมและโรงเรียนที่มีชาวต่างชาติอาศัยมากขึ้น ซึ่งนอกจากจะได้ลูกค้าที่เป็นเด็กแล้วจะยังได้พ่อและแม่ของเด็กซึ่งอาจจะเป็นโรคเดียวกันให้ความไว้ใจในการเข้ามารักษาอีกด้วย

นอกจากนั้นลูกค้าปัจจุบันแบ่งกลุ่มเป็น 80% เป็นลูกค้าย่านฝั่งธน และ 20% เป็นลูกค้าฝั่งกรุงเทพฯ ที่เป็นโรงพยาบาลในเครือ และส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่ม B และ B- และจะพัฒนาให้เป็นกลุ่ม B+ ในปีนี้ ซึ่งที่ผ่านมาส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอายุตั้งแต่ 40-45 ปีขึ้นไป และขณะเดียวกันมีอัตราลดลงของอายุผู้ป่วยเป็น 35 ปีขึ้นไปในปัจจุบัน ซึ่งมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทุกสาขากว่า 400 คนคอยให้การรองรับด้านการดูแลรักษาผู้ป่วย


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.