ทุ่งคาฯยันผู้บริหารไม่ทิ้งหุ้น


ผู้จัดการรายวัน(18 มิถุนายน 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

ทุ่งคาฮาเบอร์ ยันเจตนาขอย้ายกลับมาเทรดหมวดปกติบริสุทธิ์ ระบุงบไตรมาส1/50 ขาดทุนเพราะความเข้าใจในเรื่องการบันทึกบัญชีที่คลาดเคลื่อน หวังก.ล.ต.จะเข้าใจ เผยตั้งแต่ย้ายกลุ่มผู้บริหาร-กรรมการไม่เคยขายหุ้นแม้แต่หุ้นเดียว โบ้ยหุ้นที่มีการขายออกมาส่วนใหญ่มาจากกองทุนและกลุ่มที่โดนบังคับขาย ขณะที่งบการเงินบริษัทอาจไม่สวยทั้งปี เหตุค่าความสมบูรณ์ของแร่ต่ำกว่าที่คาด ต้องรอติดตั้งเครื่องบดใหม่เดือนต.ค. เล็งดัน 2 บริษัทลูก"ทรัพยากรสมุทร-ทุ่งคำ"จดทะเบียนในตลาดหุ้นลอนดอน

นายโรนัลด์ อึ้ง วาย ชอย กรรมการผู้จัดการ บริษัททุ่งคาฮาเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ THL กล่าวถึงคำถามที่เกิดขึ้นต่องบการเงินของบริษัททั้งในส่วนของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ว่า การเปลี่ยนแปลงระบบการบันทึกบัญชีของบริษัททำให้เกิดการลงรายการบางประเภทที่แตกต่างกันจนทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ประกอบกับในช่วงปลายปีที่ผ่านมาบริษัทย่อย คือ บริษัท ทุ่งคำ จำกัด ได้มีการดำเนินการเพื่อไถ่ถอนภาระหนี้ก่อนกำหนดและจะต้องมีการการบันทึกค่าธรรมเนียมในการไถ่ถอนก่อนกำหนดถึง 11.6 ล้านบาทและค่าที่ปรึกษาด้านกฎหมายอีก 5 ล้านบาท โดยมีการนำมาบันทึกเป็นค่าใช้จ่ายในไตรมาส1/50 จึงส่งผลทำให้บริษัทขาดทุน ซึ่งเรื่องดังกล่าวบริษัทมีความเข้าใจว่าจะสามารถตัดเป็นค่าใช้จ่ายเป็นงวดๆได้

ทั้งนี้ สาเหตุในการไถ่ถอนภาระหนี้ก่อนกำหนดเพราะสัญญาเงินกู้เดิมได้มีการนำหลักทรัพย์ทั้งในส่วนของบริษัทและบางส่วนของผู้บริหารไปเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันทำให้การดำเนินธุรกิจไม่สามารถดำเนินได้โดยสะดวก บริษัทจึงได้ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงสถานบันการเงินผู้ให้กู้ซึ่งมีเงื่อนไขในการวางหลักทรัพย์ค้ำประกันที่แตกต่างกันโดยหลักทรัพย์ที่ใช้ค้ำประกันใหม่จะเป็นหุ้นสามัญของบริษัททุ่งคำ จำกัด ในสัดส่วน 90% ซึ่งทำให้บริษัทสามารถนำสินทรัพย์อื่นๆที่เดิมเคยใช้ค้ำประกัน เช่น ที่ดินบริเวณถนนรัชดาภิเษก มาบริหารลงทุนเพื่อสร้างรายได้และกำไรให้กับบริษัทต่อไป

สำหรับคำชี้แจงต่อสำนักงานก.ล.ต.ถึงข้อสงสัยในงบการเงินของบริษัท บริษัทยืนยันว่าเจตนาในการดำเนินการเป็นเจตนาที่บริสุทธิ์ ผลขาดทุนสุทธิที่เกิดขึ้นภายหลังการย้ายเข้ามาซื้อขายในหมวดปกตินอกเหนือจากเหตุผลข้างต้นแล้ว ในส่วนของธุรกิจของบริษัทที่ไม่เป็นได้ตามที่บริษัทคาดการณ์ไว้เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้บริษัทต้องขาดทุนในไตรมาส1/50 เนื่องจากค่าความสมบูรณ์ของสินแร่ที่ต่ำกว่าที่คาดการณ์ทำให้การสกัดทองคำไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ประกอบกับต้นทุนในการดำเนินการทั้งในเรื่องค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรที่เพิ่มขึ้น 2-3 เท่าเมื่อเทียบกับอดีครวมถึงค่าใช้จ่ายทางด้านสารเคมีเป็นอีกองค์ประกอบที่ส่งผลต่องบการเงินของบริษัท

นอกจากนี้ จากค่าความสมบูรณ์ของแร่ที่ต่ำกว่าที่คาดการณ์ประกอบกับคุณภาพของสินแร่ที่ขุดได้ไม่สอดคล้องกับเทคโนโลยีที่บริษัทมีอยู่ในปัจจุบันทำให้บริษัทต้องมีการลงทุนเพิ่มเติมเพื่อซื้อเครื่องบดละเอียด ซึ่งคาดว่าจะสามารถติดตั้งได้ในประมาณเดือนตุลาคม โดยในเรื่องดังกล่าวอาจจะกระทบต่อผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาสอื่นๆ

"เรายืนยันได้ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เปลี่ยนนโยบายของบริษัทในการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพราะบริษัทเป็นบริษัทคนไทยมีการดำเนินการทางธุรกิจมานานถึง 101 ปี"นายโรนัลด์กล่าว

นายโรนัลด์ อึ้ง วาย ชอย กล่าวถึงกระแสข่าวที่ระบุว่าการกลับเข้ามาซื้อขายในหมวดปกติของบริษัทครั้งนี้เพื่อเป็นการสร้างทางออกในการนำหุ้นของกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้บริหารนั้น ว่า ปัจจุบันผู้บริหารของบริหารและกรรมการที่มีอำนาจในบริษัทยังไม่เคยมีการขายหุ้นของบริษัทออกมาแม้แต่หุ้นเดียวตั้งแต่ที่ตลท.อนุมัติให้กลับเข้ามาซื้อขายในหมวดปกติแม้จะได้รับการยกเว้นให้มีการขายหุ้นได้ 25% ในระยะเวลา 6 เดือนแรกของหลักทรัพย์ที่ติดระยะเวลาห้ามซื้อขายเป็นเวลา 1 ปี

ทั้งนี้ การขายหุ้นออกมาของผู้ถือหุ้นบริษัทที่ผ่านมาส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนสถาบันที่มีต้นทุนต่ำกว่าราคาในกระดานประกอบกับช่วงที่ผ่านมาหุ้นของบริษัทถูกห้ามซื้อขายเมื่อมีโอกาสในการซื้อขายกองทุนต่างๆจึงได้มีการขายออกไป นอกจากนี้อีกส่วนหนึ่งเป็นหุ้นในส่วนที่มีการโดนบังคับขายซึ่งเป็นส่วนที่บริษัทหลักทรัพย์ที่ให้กู้ยืมหุ้นเพื่อลงทุนจำกัดไว้หากราคาหุ้นปรับตัวลดลงต่ำกว่ามูลค่าหลักทรัพย์ค้ำประกัน

"ทีมผู้บริหารยังมีความเชื่อมั่นต่อธุรกิจของบริษัท ในช่วงที่ผ่านมากระแสข่าวที่ระบุว่าผู้บริหารต่างขายหุ้นออกมาหลังกลับเข้ามาซื้อขายอีกครั้งไม่เป็นความจริงเพราะถึงปัจจุบันยังไม่มีผู้บริหารที่ขายหุ้นออกมาแม้แต่คนเดียวเลย ส่วนที่มีการขายออกมามากๆมาจากกลุ่มกองทุนและกลุ่มที่โดนมาร์จิ้น คอล"กรรมการผู้จัดการบมจ.ทุ่งคาฮาเบอร์กล่าว

นายโรนัลด์ อึ้ง วาย ชอย กล่าวอีกว่า ในอนาคตบริษัทมีแผนที่จะนำบริษัทลูก คือบริษัททรัพยากรสมุทร จำกัด ซึ่งปัจจุบันถือหุ้นอยู่ 89.99% และบริษัททุ่งคำ จำกัด ซึ่งถือหุ้นอยู่ 98.6% เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นที่ลอนดอน เนื่องจากในตลาดหุ้นลอนดอนมีบริษัทที่มีธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเหมืองแร่ที่ซื้อขายในแล้วหลายร้อยบริษัทจึงคนข้างมีความน่าสนใจต่อนักลงทุนมากกว่าในตลาดหุ้นไทยที่มีบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเหมืองแร่จดทะเบียนอยู่เพียง 2 บริษัท

ทั้งนี้ บริษัททรัพยากรสมุทร จำกัด เป็นบริษัทที่อยู่ระหว่างการยื่นขอประทานบัตรเพื่อสำรวจและทำเหมืองแร่ดีบุกบริเวณนอกชายฝั่งทะเลอันดามันเหนือเกาะภูเก็ตพื้นที่ประมาณ 5 หมื่นไร่ซึ่งคาดว่าจะสรุปเรื่องขอประทานบัตรได้ในช่วงต้นปี 2551 โดยจากการประมาณการเบื้องต้นบริษัทจะมีรายได้จากเหมืองดังกล่าวประมาณ 28 ล้านเหรียญสหรัฐ ค่าใช้จ่ายประมาณ 11 ล้านเหรียญสหรัฐ กำไรก่อนภาษีและดอกเบี้ยอยู่ที่ประมาณ 17 ล้านเหรียญสหรัฐ


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.