เทรนด์คัลเลอร์ฟูล"คอลลาเจน" บูม ทัพอาหาร-สแนกร่วมขบวน หวั่นซ้ำรอยชาเขียว


ผู้จัดการรายวัน(18 มิถุนายน 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

ทัพอาหาร-เครื่องดื่มพลิก เติมโภชนาการควบคู่ความอร่อย รับเทรนด์สุขภาพบูม ประชากรห่วงใยสุขภาพ กินอาหารมีประโยชน์ป้องกันมากกว่าควักกระเป๋าจ่ายค่ารักษา จับตากระแสคัลเลอร์ฟูล คอลลาเจนมาแรง ทัพสินค้าแห่ผลิตสินค้าป้อนตลาด “ยูอาร์ซี” ระบุการตลาดสแนกกินแล้วสวย-เพื่อสุขภาพเกิดยาก คอลลาเจนเป็นแค่กระแสแฟชัน หวั่นอนาคตซ้ำรอยชาเขียว “ทาโร”ปรับตัวชูการตลาดยั่งยืน สร้างแบรนด์กินตลาดสุขภาพความงาม ส่งสูตรคอลลาเจน-โอเมก้าทรีเขย่าวงการ

นายบุญฤทธิ์ มหามนตรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไลอ้อน ประเทศไทย จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคในเครือสหพัฒน์ เปิดเผยว่า แนวโน้มประชากรไทยในอีก 18 ปีข้างหน้านี้ สัดส่วนผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปจะมีเพิ่มขึ้น 20% ของจำนวนประชากรทั้งหมด ทั้งนี้เนื่องจากการเจริญพันธุ์มีอัตราการที่ต่ำลง โดยพบว่าปัจจุบันประเทศไทยมีการเจริญพันธุ์ 1.8% ต่ำกว่าอัตราภาวะทดแทน 2.1% แนวโน้มดังกล่าวทำให้ผู้บริโภคหันมาใส่ใจในเรื่องของสุขภาพมากขึ้น เนื่องจากปัญหาสุขภาพมีความสำคัญต่อครอบครัวในเรื่องของค่าใช้จ่าย

จากการสำรวจ”ผู้จัดการรายวัน” พบว่า ความเคลื่อนไหวตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคนับตั้งแต่ครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ผู้ประกอบการหันมาสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้านอกเหนือจากรสชาติที่ต้องอร่อยถูกปากคนไทย มาสู่การเติมคุณค่าทางโภชนาการด้วยสารที่มีประโยชน์ทั้งต่อร่างกาย จนกระทั่งไปถึงในเรื่องของความสวยความงาม อาทิ ไอศกรีมวอลล์เติมแต่งด้วยแคลเซียม บะหมี่สำเร็จรูปมาม่าสูตรเส้นแครอท และที่กำลังเป็นเทรนด์มาแรงในปีนี้ คือ การเติมคอลลาเจน และคิวเท็นในกลุ่มเครื่องดื่มกระทั่งมาถึงกลุ่มขนมขบเคี้ยว และลูกอม

คัลเลอร์ฟูลคอลลาเจนมาแรง

นายสมนึก เปล่งสุริยการ ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป บริษัท ยูอาร์ซี (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายขนมขบเคี้ยวภายใต้แบรนด์ JACK'n JILL ครีมโอ ฟันโอ โรลเลอร์ โคสเตอร์ เปิดเผยกับ”ผู้จัดการรายวัน”ว่า การตลาดที่มาแรงและสร้างสีสันเป็นอย่างมากในขณะนี้“ คอลลาเจน” ทัพสินค้าทั้งกลุ่มเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยวโหนกระแสในเรื่องความสวยความงาม ส่วนหนึ่งเป็นเพราะกระแสสุขภาพที่มาแรง และประการสำคัญเกิดจากภาครัฐเข้มงวดผู้ประกอบการขนมขบเคี้ยวมากขึ้น

“แม้ว่ากระแสคอลลาเจนจะมาแรงในขณะนี้ แต่ผมมองว่าเป็นแค่แฟชันเท่านั้น ที่เข้ามาสร้างสีสันสักระยะหนึ่ง แล้วก็หายไปเช่นเดียวกับยุคชาเขียว ที่สินค้าทุกอย่างมีส่วนผสมของชาเขียวหมด โดยเฉพาะกลุ่มขนมขบเคี้ยวการทำตลาดในลักษณะเพื่อความงามหรือสุขภาพเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะพฤติกรรมการบริโภคขนมขบเคี้ยวของคนไทยอันดับแรก คือ กินเพื่อความอร่อยกับสนุกสนาน”

สำหรับคอลลาเจนในตลาดแบ่งด้วยกัน 2ประเภท คือ ฟังก์ชันนัลคอลลาเจน อาทิ รังนกเปิดตัวสูตรคอลลาเจน เครื่องดื่มเสริมอาหารไอ-เฮลติ คิวเท็น และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบีเอสซี ซึ่งมีทั้งคอลลาเจน คิวเท็น

ส่วนคัลเลอร์ฟูล คอลลาเจน หรือสินค้าที่นำคอลลาเจนมาสร้างสีสันให้กับผลิตภัณฑ์ อาทิ ทาโรเปิดตัวปลาเส้นสูตรคอลลาเจน แลตตาซอยปรับสูตรไลท์โดยการเติมคอลลาเจนเข้าไป หรือกระทั่งบริษัทยูโรเปี้ยน ฟู้ดส์ เปิดตัวชาเขียวโตเซนผสมคอลลาเจน

นายสมนึก กล่าวเพิ่มเติมว่า ยังมีผู้บริโภคจำนวนมากที่ไม่เข้าใจว่าคอลลาเจนคืออะไร ซึ่งต้องใช้เวลาในการเอดดูเคทโดยเฉพาะในตลาดต่างจังหวัด ประกอบกับการสื่อสารผ่านการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ถึงผู้บริโภค ทำได้ไม่เต็มที่มากนัก ทำให้สินค้าบางแบรนด์ที่มีส่วนผสมของคอลลาเจนมานาน ยังไม่สามารถแจ้งเกิดได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผู้บริโภคไม่เชื่อว่ากินแล้วสวยหรือว่าดีต่อสุขภาพ อย่างไรก็ตามแต่คัลเลอร์ฟูล คอลลาเจนที่เกิดขึ้นในกลุ่มขนมขบเคี้ยวเป็นสิ่งที่สร้างภาพลักษณ์ที่ดีในสายตาผู้บริโภคได้ในระดับหนึ่ง

“ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าทางโภชนาการ สามารถโหนกระแสคอลลาเจนเป็นอย่างดี อาทิ นมพร้อมดื่ม เพราะผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นสินค้ามากกว่า เมื่อเทียบกับขนมขบเคี้ยวมันเป็นเรื่องของความขัดแย้งกันอย่างเห็นได้ชัด แต่ทุกวันนี้กระแสเพื่อความสวยความงามกับสุขภาพเป็นสิ่งที่แยกกันได้ยาก เพราะใกล้เคียงกันมากขึ้นอยู่ที่ว่าการทำตลาดจะจับจุดใดขึ้นมา”

สำหรับบริษัทขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการศึกษา และพัฒนาขนมขบเคี้ยวเพื่อสุขภาพขึ้น แต่จะเป็นสินค้าประเภทไฮไฟเบอร์ หรือมีไขมันน้อยมากกว่า ซึ่งเป็นเทรนด์ที่เกิดขึ้นในตลาดต่างประเทศ แต่ไม่มีแผนผลิตขนมขบเคี้ยวในรูปแบบคอลลาเจนจำหน่าย ส่วนการเปิดตัวลงสู่ตลาดคงจะต้องพิจารณาถึงสภาพเศรษฐกิจประเทศไทยอีกครั้ง เนื่องจากในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา ตลาดรวมขนมขบเคี้ยวตกลงเล็กน้อย ส่วนหนึ่งเกิดจากตรงกับช่วงปิดเทอมของเด็กนักเรียน และกำลังการซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง อย่างไรก็ตามทั้งปีบริษัทตั้งเป้ามีอัตราการเติบโตไม่น้อยกว่า 15%

ทาโรส่งคอลลาเจนขยายฐาน

แหล่งข่าวจากบริษัท พรีเมียร์ มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายปลาสวรรค์ตราทาโร เปิดเผยกับ”ผู้จัดการรายวัน”ว่า บริษัทได้เปิดตัวปลาเส้นทาโรสูตรคอลลาเจน และโอเมก้าทรีลงสู่ตลาด เพื่อขยายฐานลูกค้าซึ่งเป็นกลุ่มวัยรุ่นและกลุ่มผู้ใส่ใจในเรื่องความงาม รวมทั้งเพื่อรองรับกับกระแสสุขภาพที่มาแรงและมาตรการของภาครัฐ

สำหรับการเปิดตัวสูตรคอลลาเจน บริษัทมองว่าเป็นสิ่งที่สามารถเชื่อมโยงกับแบรนด์ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากคอนเซปต์ของทาโร”อร่อยมีโปรตีนจากเนื้อปลา” หรือดำเนินการตลาดเป็นขนมขบเคี้ยวที่มีคุณค่าทางโภชนาการมาอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันที่ผ่านมาบริษัทยังนำในเรื่องการมีไขมันต่ำมาทำตลาดในระยะหนึ่ง ส่งผลให้แบรนด์มีฐานลูกค้าผู้หญิงที่ใส่ใจในเรื่องของสุขภาพ จากก่อนหน้านี้ฐานลูกค้าเป็นกลุ่มเด็กและเด็กโตเป็นหลัก

“แนวทางการตลาดเพื่อสุขภาพบริษัทมองว่าเป็นสิ่งที่ยั่งยืน คอลลาเจนไม่ได้เป็นเรื่องแฟชันที่มาแล้วก็ไป แต่สิ่งที่สำคัญคือต้องใช้เวลาในการเอทดูเคทผู้บริโภคค่อนข้างมาก เพราะมีผู้บริโภครู้ในเรื่องของคอลลาเจนน้อยมาก โดยแนวทางการสื่อสารของทาโรล่าสุดเป็นผู้สนับสนุนรายการเกมส์โชว์”เกมส์วัดดวง”รวมถึงการให้ข้อมูลบนซอง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในเรื่องโภชนาการที่ได้รับ” แหล่งข่าวกล่าว


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.