หุ้นเด้งรับคมช.สยบข่าวลือ"แม้ว"แหยงกลับไทย-โบรกฯแนะถือเงินสด


ผู้จัดการรายวัน(15 มิถุนายน 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

นักลงทุนคลายกังวลหลังคมช.-รัฐบาลออกมาสยบสารพัดข่าวลือ สอดรับข่าว"ทักษิณ"ยันไม่กลับไทย เตือนยังต้องจับมาการชุมนุมในวันที่ 16 มิ.ย.นี้ห่วงปะทะเดือดฉุดความมั่นใจ "ภัทรียา" เตือนนักลงทุนอย่าตื่นข่าวลือ ขอให้ตั้งสติก่อนตัดสินใจ ขณะที่โบรกเกอร์เชื่อคมช.มีแผนจัดการม็อบเพื่อให้การประท้วงยุติก่อน 24 มิ.ย.แน่ แนะถือเงินสดดีที่สุด รอจังหวะกลับมาลงทุนหลังปัญหายุติ

ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวานนี้ (14 มิ.ย.) หลังคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ออกมาสยบข่าวลือไม่ว่าจะเป็นเรื่องการปฎิวัติซ้อน การประกาศใช้พระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก. ฉุกเฉิน) ข่าวการเคลื่อนขบวนของกลุ่มผู้ประท้วงเพื่อขับไล่คมช. รวมถึงการปฎิเสธที่จะกลับมาสู้คดีของอดีตนายกรัฐมนตรีภายในเดือนนี้ ส่งผลทำให้นักลงทุนคลายความกังวลต่อสถานการณ์ทางการเมืองแม้ว่าจะมีการประกาศอย่างชัดเจนจากกลุ่มผู้ชุมนุมว่าจะมีการนัดชุมชุนใหญ่ในวันที่ 16 มิ.ย.ก็ตาม

โดยตลอดทั้งวันดัชนีแกว่งตัวในแดนบวก่อนปิดที่ 734.93 จุด เพิ่มขึ้น 8.33 จุด หรือ 1.15% โดยจุดสูงสุดของวันอยู่ที่ 737.67 จุด และจุดต่ำสุดอยู่ที่ 732.13 จุด มูลค่าการซื้อขาย 10,884.33 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 498.44 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 351.19 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 147.26 ล้านบาท

ทั้งนี้ ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์การยึดอำนาจการปกครองของคณะปฎิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย เมื่อค่ำวันที่ 18 ก.ย.49 - 13 มิ.ย.50 นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 81,029.29 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 9,891.23 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 71,138.06 ล้านบาท

นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยวานนี้(14 มิ.ย.) ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากก่อหน้านี้นักลงทุนมีความกังวลต่อข่าวลือต่างๆที่ออกมาในช่วงบายของวันที่ 13 มิ.ย. 50 ไม่ว่าจะเป็นการประกาศพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน การเคลื่อนไหวของกลุ่มชุมนุมซึ่งรัฐบาลและคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ได้ปฏิเสธข่าวดังกล่าวจึงเป็นเหตุให้นักลงทุนกลับเข้ามาลงทุน

ทั้งนี้การลงทุนในตลาดหุ้นไทยนั้นมีความอ่อนไหวตามกระแสข่าวที่ออกมาทำให้นักลงทุนตกใ# 92;จึงมีการขายหุ้นออกมา ซึ่งนักลงทุนควรที่จะใช้วิจารณญาณในการรับฟังข้อมูลเพื่อใช้ประเมินการซื้อขาย และเมื่อมีข่าวลือเกิดขึ้นนั้นควรที่จะต้องมีการตรวจสอบข่าวลือว่าจริงหรือไม่ เพื่อที่จะไม่ได้รับความเสียหายและเสียโอกาสในการลงทุน ทำให้ต้องกลับมาซื้อหุ้นในราคาที่สูงขึ้น

"จากนี้ไปเชื่อว่าจะมีกระแสข่าวลือออกมาเรื่อยๆในช่วงที่ปัจจัยการเมืองยังไม่นิ่ง นักลงทุนไม่ควรที่จะตกใจอ่อนไหวกับข่าวที่ออกมา โดยจะต้องตรวจสอบข่าวลือก่อนเพื่อไม่ให้ได้รับความเสียหายจากการลงทุน หรือาจจะต้องกลับมาซื้อหุ้นในราคาที่สูงขึ้น" นางภัทรียากล่าว

แหล่งข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า การที่ดัชนีปรับตัวขึ้นในวานนี้นั้น สาเหตุหลักเนื่องจากนักลงทุนเริ่มคลายความกังวลหลังวานก่อนหน้ามีแรงเทขายออกมาจำนวนมากเพราะกังวลว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับมาประเทศไทย เพื่อแก้ข้อกล่าวหากับทางคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริงอาจจะทำให้การชุมนุมประท้วงของ "แนวร่วมประชาธิปไตยไม่เอาเผด็จการ" ยิ่งทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น

"การจะกลับหรือไม่กลับไม่ใช้ปัญหาที่ใหญ่มากนัก แต่ขึ้นอยู่กับว่าถ้ากลับมาแล้วม็อบจะยิ่งแรงขึ้นหรือไม่ แต่ตอนนี้ออกมาบอกแล้วว่าจะยังไม่กลับมาในขณะนี้ ก็น่าจะทำให้ม็อบลดความรุนแรงลงได้ในระดับหนึ่ง "

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลควรจะแสดงท่าทีที่ชัดเจนว่าต้องการรักษาสถานการณ์ทางการเมืองให้สงบจนถึงเดือนสิงหาคม ซึ่งจะมีการออกลงประชามติเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ หรือจนกว่าจะมีความชัดเจนเรื่องการเลือกตั้ง จะถือว่าเป็นเรื่องดีและจะส่งผลดีทั้งต่อระบบเศรษฐกิจและตลาดทุน

สำหรับการลงทุนในสัปดาห์หน้า ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์ความรุนแรง คาดว่าดัชนีน่าจะผันผวน ให้แนวรับ-แนวต้านที่ 720-743 จุด ทั้งนี้ถ้าดัชนีสามารถปรับตัวขึ้นไปถึงระดับ 743 จุดได้ น่าจะเกิดการเทขายทำกำไรออกมาอีกครั้ง

นางจิตติมา อังสุวรังษี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายที่ปรึกษาการลงทุน บล.ฟาร์อีสท์ กล่าวว่า นอกเหนือจากสถานการณ์ทางการเมืองที่นักลงทุนคลายกังวลมากขึ้น ตลาดหุ้นไทยยังได้รับอานิสงส์จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย แต่การปรับตัวเพิ่มขึ้นวานนี้หากเทียบกับตลาดหุ้นในประเทศต่างๆยังถือว่าน้อยมาก อย่างไรก็ตามคาดว่าถ้าในช่วงสุดสัปดาห์นี้ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้น ดัชนีอาจจะกลับขึ้นไปที่ระดับ 750 จุดได้อีกครั้งหนึ่ง

นายทวีรัชต์ มัททวีวงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาด บล.ไซรัส กล่าวว่า แม้ในขณะนี้ข่าวลือจะลดลงในระดับหนึ่ง แต่นักลงทุนยังเกรงกลัวสถานการณ์ และยังมองว่าเป็นความเสี่ยงอยู่ค่อนข้างมาก ทำให้บางส่วนเลือกที่จะถือเงินสดมากกว่าการเข้ามาลงทุน ส่วนการที่ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นนั้น เนื่องมาจากข่าวลือต่างๆ ที่ไม่เป็นความจริงแต่คาดว่าการปรับตัวเพิ่มขึ้นนั้นน่าจะเป็นเพียงระยะสั้นเท่านั้น

โบรกฯจี้คมช.คุมม็อบ

นายฉัตรชัย กิจธิคุณ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.สินเอเซีย กล่าวว่า การ ชุมนุมของกลุ่มผู้ไม่เห็นตัวกับคมช.คงต้องมีจุดจบก่อนที่จะเกิดความวุ่นวายในวันที่ 24 มิถุนายน 50 นี้อย่างแน่นอน เนื่องจากภาครัฐจะต้องมีวิธีการจัดการกับกลุ่มผู้ ชุมนุมไม่ให้ยืดเยื้อไปมากกว่านี้เพราะอาจจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมของประเทศ

"การกลับประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เราเชื่อว่าคงจะไม่กลับมาเพราะว่าพ.ต.ท.ยังอยู่ในฐานะที่เป็นรองอยู่ซึ่งหากกลับมาคงไม่เป็นผลดีกับตัวเองแน่"นายฉัตรชัยกล่าว

สำหรับแนวโน้มการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดวันนี้คาดว่าจะแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบๆ เนื่องจากใกล้วันหยุดสุดสัปดาห์ทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการช่วง วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ โดยประเมินแนวรับที่ 720-726 จุด และแนวต้านที่ 737-740 จุด


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.