งานหลักของเราในตอนนี้คือ แนะนำนักธุรกิจไทยให้รู้จักกับบริษัทของเรารวมไปถึงการชี้ช่องทางโอกาสของการลงทุนในอินโดนีเซีย"
ดักลาส โลแกน พูดถึงความรับผิดชอบของเขาในฐานะกรรมการผู้จัดการของลิปโปเอเชีย
(ประเทศไทย) ซึ่งเพิ่งจะมาเปิดสำนักงานในไทยได้เพียงหกเดือนเศษ ๆ เท่านั้น
โลแกนเป็นคนอเมริกันที่มาทำงานกับลิปโปได้ปีกว่าแล้วเขาเป็นคนหนึ่ง ในกลุ่มผู้บริหารมืออาชีพของลิปโปหลายร้อยคนที่มีทั้งคนเอเชียและตะวันตก
แม้ว่าลิปโปโดยเนื้อแท้แล้วไม่ต่างจากธุรกิจของคนเอเชียส่วนใหญ่ที่ยังเป็นธุรกิจครอบครัว
แต่การใช้มืออาชีพในการบริหารงานทั้งหมดทำให้ลิปโปมีสไตล์การบริหารแบบสมัยใหม่
ในขณะที่กลุ่มซาลิมมียุทธศาสตร์ในการขยายตัวด้วยการร่วมทุน และปล่อยหน้าที่ในการบริหารให้กับกลุ่มธุรกิจหุ้นส่วนลิปโปเองขยายธุรกิจ
ด้วยฝีมือการบริหารจากมืออาชีพของตัวเอง และยุทธศาสตร์ในช่วงสามปีที่ผ่านมานี้คือ
การสร้างเครือข่ายธุรกิจในย่านเอเชียแปซิฟิก จากสิงคโปร์ ฮ่องกงไทเป ออสเตรเลีย
และข้ามฟากมหาสมุทรไปถึงสหรัฐฯ ซึ่งลิปโปมีธนาคารอยู่สองแห่งในลอสแองเจลิสและซานฟรานซิสโก
ชื่อลิปโปในเมืองไทยอาจจะต้องการคำอธิบายเพิ่มเติมอีกมากว่าคืออะไร และมีความสำคัญอย่างไร
แต่ในอินโดนีเซียแล้วลิปโปคือกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ที่แม้จะไม่ใหญ่เท่ากลุ่มซาลิมของลิมซูเลียงที่คุ้นหกว่าแต่ก็เป็นหนึ่งใน
10 ยักษ์ใหญ่ของอินโดนีเซียซึ่งมีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศาในธุรกิจธนาคารและการเงิน
แกนกลางสำคัญในการขยายตัวของกลุ่มลิปโป คือ ลิปโปแบงก์ ซึ่งเปลี่ยนชื่อจาก
BANK PERGINAGANN เมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว และอีกสามเดือนต่อมาก็ควบกิจการเข้ากับ
BANK UMUM ASIA การรวมกันของสองธนาคารขนาดกลางนี้ส่งผลให้ลิปโปแบงก์พุ่งขึ้นมาท้าทายความยิ่งใหญ่ของ
BANK CENTRAL ASIA หรือ BCA ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดของอินโดนีเซีย
เป็นหนึ่งในสามปัจจัยของความเติบโต
อีกสองปัจจัยคือสายตาที่ยาวไกล เฉียบคมของมอคตาร์ ริเอดี้ ผู้ก่อตั้งกลุ่มนี้ขึ้นมาเมื่อสามสิบปีที่แล้วและความเป็นมืออาชีพที่ผ่านประสบการณ์ด้านการเงินมากกว่า
10 ปีของลูกชายของเขา เจมส์ ริเอดี้ จุดเด่นของกลุ่มนี้คือการขยายตัวอย่างรวดเร็ว
และก้าวแกร่งด้วยสไตล์การบิรหารสมัยใหม่จากฝีมือของมืออาชีพชาวต่างประเทศทั้งเอเชียและตะวันตก
นอกเหนือจากธุรกิจการเงินและการธนาคารในอินโดฯ สหรัฐฯสิงคโปร์และฮ่องกงรวมกันแล้ว
อีกสี่สายธุรกิจหลักของลิปโปคือ วาณิชธนกิจ, ประกันภัย, อสังหาริมทรัพย์,
เทคโนโลยีสารสนเทศและอุตสาหกรรมซึ่งมีทั้งชิ้นส่วนรถยนต์สินค้าอิเล้กทรอนิกส์
และสิ่งทอทั้งหมดนี้อยู่ในรูปของกิจการในเครือรวมกันทั้งหมดประมาณ 40 บริษัท
ลิปโปเอเชีย (ประเทศไทย) คือสาขาของลิปโป เอเชีย ฮ่องกง ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่และเป็นเรือธงในสายธุรกิจวาณิชธนกิจของลิปโป
นับเป็นก้าวแรกของการหยั่งเท้าเข้ามาบนแผ่นดินไทยของกลุ่มธุรกิจการเงินกลุ่มนี้
และเมื่อเดือนที่แล้วก็เป็นการเริ่มต้น ก้าวที่สองด้วยการเปิดสำนักงานตัวแทนของลิปโปแบงก์ซึ่งเป็นแกนในสายธุรกิจการเงินของกลุ่มนี้ขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย
บทบาทแรกของลิปโปเอเชียในประเทศไทย คือการเป็นตัวแทนของสำนักงานใหญ่ที่ฮ่องกงในการหาข้อมูล
และให้คำแนะนำการลงทุนในตลาดหุ้นไทยกับนักลงทุนจากฮ่องกง
"เราจะติดต่อกับอันเดอร์ไรเตอร์ที่นี่ เพื่อดูว่ามีหุ้นตัวไหนที่นักลงทุนที่ฮ่องกงอาจจะสนใจแล้วก็นำหุ้นเหล่านี้ไปขายให้กับลูกค้าของลิปโปที่ฮ่องกง"
โลแกน อธิบาย
ลิปโป ซีเคียวริตี้ที่ฮ่องกง มีที่นั่งในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ถึงสามที่
และยังสามารถเข้าไปซื้อขายในตลาดล่วงหน้าได้ด้วย
บทบาทสำคัญกว่านั้นคือ การทำหน้าที่เป็นตัวแทนในเรื่องของการลงทุนให้กับบริษัทในเครือของลิปโป
ส่วนหนึ่งจะเป็นการลงทุนในประเทศไทย แต่เป็นหลักคือการชักชวนกลุ่มธุรกิจจากไทยให้เข้าไปลงุทนในอินโดนีเซียโดยผ่านเรือ
ข่ายของลิปโป ซึ่งเป็นบทบาทที่สวนทางกับตัวแทนกลุ่มธุรกิจใหญ่ ๆ จากสหรัฐฯ
ยุโรปหรือ ญี่ปุ่นที่จะเป็นผู้ดึงทุนเข้ามาในประเทศไทย
อินโดนีเซียวางแผนที่จะก้าวขึ้นมาเป็นประเทศกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ภายในห้าปีข้างหน้า
ยุทธศาสตร์นั้นไม่ผิดเพี้ยนไปจากทางเดินของไทยเลย ด้วยการใช้ข้อได้เปรียบในเรื่องแรงงานราคาถูก
วัตถุดิบและการผ่อนคลายการลงทุนจากต่างประเทศมาล่อให้นักลงทุนจากต่างชาติเข้าไป
"เราคิดว่าอุตสาหกรรมบางอย่างที่เรียกว่า SUNSET INDUSTRIES เช่น
สิ่งทอ เหมาะที่จะย้ายฐานการผลิตเข้าไปในอินโดนีเซีย" นอกจากความได้เปรียบในเรื่องค่าแรงต่ำ
ที่ดินถูกแล้ว แรงจูงใจอีกอย่างหนึ่งคือสำหรับธุรกิจสิ่งทอที่โลแกนพูดถึงก็คือ
โควตาการส่งออกไปยังสหรัฐฯ และอีอีซีที่ยังเหลืออยู่มาก ซึ่งเป็นเหตุผลเดียวกับที่ญี่ปุ่น
ไต้หวันและฮ่องกงเคยใช้มาแล้วกับการลงทุนในประเทศไทย
นอกจากธุรกิจสิ่งทอแล้ว ธุรกิจเป้าหมายของลิปโป คือ ประมงที่ไทยได้ชื่อว่ามีความสามารถมากที่สุดชาติหนึ่งในโลกในขณะที่อินโดนีเซียยังมีปลาให้จับอย่างเหลือเฟือ
ยังมีธุรกิจแปรรูป มันฝรั่งและผลิตของขบเคี้ยว การลงทุนในเรื่องอสังหาริมทรัพย์ในอินโดนีเซียซึ่งลิปโปเป็นเจ้าของโครงการนิคมอุตสาหกรรมหลาย
ๆ แห่งและเคยส่งคนมาดูงานด้านนิคมอุตสาหกรรมในประเทศไทยด้วย ไปจนถึงการขอซื้อลิขสิทธ์ระบบซอฟต์แวร์การซื้อขายหลักทรัพย์จากซอฟต์แว์เฮ้าส์ไทยแห่งหนึ่ง
เพื่อไปขายต่อในอินโดนีเซียโดยบริษัทมัลติโพลาร์ซึ่งเป็นธุรกิจในสายเทคโนโลยีสารสนเทศของลิปโป
ตลอดระยะเวลาหกเดือนที่ผ่านมาของโลแกนหมดไปกับการพบปะกับกลุ่มธุรกิจไทยเพื่อชักชวนชี้ช่องให้ไปลงทุนในอินโดนีเซีย
แต่เกือบทั้งหมดยังอยู่ในขั้นเจรจาเท่านั้น
"เรากำลังทำหน้าที่คล้าย ๆ บีโอไอของไทย" โลแกนสรุปถึงสถานนะของลิปโปในเมืองไทยตอนนี้
อย่างน้อยที่สุด การเข้ามาของลิปโปอาจจะช่วยให้เราอุ่นใจกันได้บ้างว่า
ความใฝ่ฝันที่จะเป็นเสื่อตัวที่ห้าของเอเชียเริ่มเป็นสิ่งที่จับต้องได้บ้าง
ในสายตาของประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงอย่างอินโดนีเซีย