คำกล่าวที่ว่า "โอกาสทำให้เกิด" ไม่ใช่เรื่องง่ายนักสำหรับพ่อค้าหลาย
ๆ คน
ทว่า สำหรับประเสริฐ จิตตโรภาสคนนี้ โอกาสและความมานะบากบั่นโดยแท้ที่ทำให้เขาเป็น
"เจ้าพ่อรถบรรทุกน้ำมัน" อยู่ในทุกวันนี้ ครอบครองกิจการรถบรรทุกนานาประเภทไม่ว่าจะเป็นรถขนก๊าซแอลพีจีรถขนเคมี
น้ำมันเครื่อง จาระบียางมะตอย น้ำมัน และน้ำมันท่าอากาศยาน รวมแล้วกว่า 250
คัน ทำรายได้ไม่ต่ำกว่าเดือนละ 10 ล้านบาท ปีละกว่า 120 ล้านบาท
เจ้าของกิจการหจก.ไทยประเสริฐทรานสปอร์ตซึ่งเป็นผู้รับเหมาขนส่งสินค้าทุกชนิดของบริษัทเชลล์
(ประเทศไทย) รายนี้เปิดเผยกับ "ผู้จัดการ" ว่า "คุณพารณ อิศรเสนาฯ
เป็นคนแนะนำให้ผมแยกตัวออกมาจากพี่น้อง มาทำเป็นผู้รับเหมาเอง ให้ผมวิ่งรถขนน้ำมันของเชลล์จากไทยออยล์ไปโคราชตั้งแต่ปี
2511 และผมก็ได้ดีมาทุกวันนี้จากจุดเริ่มต้นที่คำแนะนำของคุณพารณนี่แหละ"
ในสมัยก่อนมีกิจการกรถบรรทุกน้ำมันอยู่ไม่กี่ราย นครชัยเป็นรายแรก ๆ ได้เป็นผู้รับสัมปทานบรรทุกน้ำมันรายเดียวของเชลล์
แต่เดิมใช้รถกระบะที่เป็นรถบรรทุกศพมาบรรทุกน้ำมันเตา น้ำมันโซล่าส่งให้โรงไฟฟ้า
ทั้งนี้ยังไม่มีรถดีเซลในเมืองไทย และอีซูซุก็ยังไม่ได้เข้ามาเปิดเอเยนต์ในเวลานั้นด้วย
นอกจากนครชัยแล้ว ยังมีเซฟตี้อีกรายหนึ่งที่รับขนน้ำมันเซฟตี้เป็นกิจการของกลุ่มพี่น้องเครือญาติของประเสริฐ
ซึ่งในภายหลังประเสริฐแยกตัวออกมาดำเนินกิจการเองตามคำแนะนำของพารณ
"ผมมาทำรถกระบะขนน้ำมันเครื่อง จาระบีก่อน แล้วจึงมาทำรถบรรทุกน้ำมันซึ่งมันเป็นจังหวะที่มีการสร้างถนนมิตรภาพด้วย
ผมจึงตัดสินใจซื้อรถบรรทุกอีซูซุ 7 คันจากญี่ปุ่นเข้ามาบรรทุกน้ำมัน"
ประเสริฐ ย้อนอดีตกับ "ผู้จัดการ"
ไทยประเสริฐฯ เป็นผู้บรรทุกรายใหญ่ที่สุดของเชลล์คือขนน้ำมัน น้ำมันเครื่อง
น้ำมันเครื่องบิไอพ่น เคมีจาระบี ยางมะตอย ก๊าซเอลพีจี ขณะที่ผู้บรรทุกรายอื่น
ๆ ขนเพียงน้ำมันกับน้ำเครื่องบนไอพ่นเท่านั้น แหล่งบรรทุกใหญ่สุดคือ ช่องนนทรีและคลังน้ำมันเชลล์ที่ศรีราชา
บรรทุกไปยังคลังน้ำมันทั่วประเทศของเชลล์
สมัยก่อนเชลล์มีรถบรรทุกของตนเอง แต่เลิกกิจการเพราะมีปัญหาเรื่องแรงงานมากแต่สำหรับประเสริฐซึ่งว่าจ้างคนขับรถไว้ประมาณ
400 คน ทั่วประเทศในเวลานี้กล่าวว่า "ผมไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องคนงานเท่าไหร่
ผมใช้วิธีว่าคนงานทุกคนนี่ผมเป็นคนรับเอง ขอดูหน้าตาสักหน่อย ผมไม่ต้องการการค้ำประกันใด
ๆ ทั้งสิ้น หากอยากจะทำงานก็ให้มาทำ ผมไม่กลัว ผมรู้ว่าปกครองคนรถเป็นเรื่องยาก
ผมก็ต้องใช้ทั้งพระเดชพระคุณ ผมจะให้เขาดูแลรักษารถไปเลย เป็นเหมือนหม้อข้าวหม้อน้ำของเขา
หากอยากจะทุบหม้อข้าวเองก็ช่วยไม่ได้"
คนขับรถของไทยประเสริฐฯ จะได้รับเงินเดือนประจำและมีเบี้ยเลี้ยงจ่ายเป็นเที่ยวอีกต่างหาก
นั่นหมายความว่าหากทำจำนวนเที่ยงได้มาก็จะได้เบี้ยเลี้ยงมากตามไปด้วย
ประเสริฐยืนยันว่าคนงานของเขาไม่เคยสร้างอุบัติเหตุสยดสยองเหมือนผู้ประกอบการบางราย
รถบรรทุกทุกคันได้รับการออกแบบตรวจสอบอย่างดี รถบรรทุกที่มีราคาแพงและพิเศษที่สุดคือรถก๊าซแอลพีจีปีหนึ่ง
ๆ ต้องเอามาเข้าแล็บฯ เอกซเรย์ดูตะเข็บ ดูรอยรั่วซึมร้าว ซึ่งทำการเอกซเรย์เป็นตารางนิ้ว
และเมื่อพบรอยร้าวก็ต้องซ่อม "ผมรับรองได้ว่าของเชลล์นี่มีความปลอดภัยสูงมาก"
นอกจากรับบรรทุกให้เชลล์แล้ว ประเสริฐยังทำรถบรรทุกปูนถุง ปูนผง รถโม่ปูนให้นคหลวงคอนกรีตอีกแห่งหนึ่งด้วย
โดยเริ่มเมื่อปี 2533
ประเสริฐเล่าว่า "ทางบริษัทนครหลวงฯ เดือดร้อนเนื่องจากมีผู้รับเหมาไม่เพียงพอ
ก็มาชวนผมทำ ผมก็อดไม่ได้ ประกอบกับเมื่อปลายปี 2532 เชลล์มีนโยบายควบคุมปริมาณรถบรรทุกน้ำมัน
เพิ่มไม่ได้ ผมก็เลยคิดว่าหันมาทางนี้ด้วยร่าจะดี ตอนนี้ ผมมีรถคอนกรีตประมาณ
55 คันแล้ว"
รถบรรทุกทั้งหมดของไทยประเสริฐฯ รับงานหลัก 2 แห่ง คือ เชลล์และนครหลวงคอนกรีต
ประเสริฐกล่าวว่า "ผมมีสัญญากับเชลล์ปีต่อปี เชลล์มีสิทธิเลิกได้โดยบอกล่วงหน้า
6 เดือน แต่เราก็ทำกันมานานกว่า 30 ปีแล้ว มันก็ต่อสัญญากันมาโดยอัตโนมัติเมื่อก่อนนี้ไม่มีสัญญาด้วยซ้ำส่วนนครหลวงฯ
นั้นมีสัญญา 5 ปี แต่ก็เหมือนกับเชลล์ หากเขาจะให้เราเลิกสัญญาก็ทำได้ ผมก็เอารถไปทำอย่างอื่น
ๆ ของผมได้"
ปัจจุบันประเสริฐอายุ 59 ปี แต่ยังไม่มีวีแววว่าจะวางมือลงง่าย ๆ เขามีลูก
6 คน ลูกสาวคนโตไม่ได้ช่วยกิจการในครอบครัว แต่ไปทำงานกับศรีนครการโยธา ลูกชาย
2 คนถัดมาช่วยดูแลกิจการ คนโตดูแลรถคอนกรีต คนรองดูแลรถน้ำมัน อีก 3 คนยังเรียนไม่จบ
ประเสริฐ กล่าวว่า "ผมเป็นคนค้าขายโดยสายเลือดค้าขายเล็ก ๆ น้อย ๆ
มาแต่เด็กเมื่อมีช่องทางธุรกิจอะไรผมก็ไป อีกอย่างคือมันอยู่ที่ดวงคือผมนี่มีดวงทางธุรกิจ
ทำกิจการพวกนี้แล้วไม่เคยมีปัญหาหนักใจใหญ่โตอะไรเลย เรื่องรถนี่ไม่ใช่ว่าจะทำกันได้ทุกคน
แต่ของผมนี่มีดวงสัมพันธ์กัน"
ดวงในความหมายของประเสริฐไม่ใช่การพึ่งพาโหราศาสตร์ แต่เป็นความเชื่อและประสบการณ์ที่สั่งสมมายาวนานเขาสามารถพลิกแพลงพัฒนากิจการให้เจริญก้าวหน้าไปได้เรื่อย
ๆ มองเห็นช่องทางโอกาสสร้างธุรกิจใหม่ ๆ อยู่เสมอ ไม่มีปัญหาใหญ่ ๆ เป็นที่ติดขัดกีดขวางความก้าวหน้า
เทคนิคอย่างหนึ่งในกิจการรถบรรทุกคือประสิทธิภาพในกรบริหารงาน ประเสริฐเล่าว่า
"เรื่องการแข่งขันกันนี่แทบจะไม่มีเลย ต่างคนต่างทำเพราะในกิจการนี้มีความต้องการสูงมาก
หากควบคุมประสิทธิภาพ คุมคนรถ สมรรถภาพรถให้ดีก็เพียงพอแล้ว"
นอกจากกิจการรถน้ำมันและรถคอนกรีตแล้ว ประเสริฐยังมีกิจการพลาสติกชื่อร้านไทยประเสริฐ
ขายเครื่องใช้พลาสติกสำหรับครัวเรือน โดยมีจุดเริ่มมาจากช่วงปี 2516 ซึ่งมีทหารอเมริกันในไทยมาก
ความต้องการการใช้เครื่องถ้วยชามพลาสติกมีมาก และการสั่งซื้อจากมาลาพลาสติกมาขายไม่เพียงพอกับความต้องการ
จึงมีการสั่งซื้อเครื่องจักรเข้ามาทำการผลิตเอง
กิจการพลาสติกของร้านไทยประเสริฐเคยทำส่งนอกแต่ปัจจุบันทำขายเล็ก ๆ น้อยในประเทศเท่านั้น
ส่วน หจก.ทีเอสเซอร์วิส ซึ่งเดิมให้บริการซ่อมรถแก่เชลล์ที่ศรีราชา ตอนหลังนำมาทำรถคอนกรีตให้นครหลวงฯ
เพื่อที่จะแบ่งเบากิจการจากไทยประเสริฐทรานสปอร์ตซึ่งจะเน้นแต่เรื่องรถน้ำมันเท่านั้น
ความสำเร็จของประเสริฐที่อาจเรียกว่าเป็น "เจ้าพ่อรถน้ำมัน"
ตัวจริงนั้นเกิดจากความอุตสาหะและการสบช่องโอกาสเหมาะในเชิงธุรกิจ บวกกับความสามารถในการบริหารที่อยู่ในสายเลือดโดยแท้
ความสำเร็จของเขาในวันนี้ยากที่จะหานักศึกษาวิชาธุรกิจใด ๆ เทียบเคียงได้