ประเสริฐ จิตตโรภาส เจ้าพ่อรถบรรทุกน้ำมัน 250 คัน


นิตยสารผู้จัดการ( พฤษภาคม 2534)



กลับสู่หน้าหลัก

คำกล่าวที่ว่า "โอกาสทำให้เกิด" ไม่ใช่เรื่องง่ายนักสำหรับพ่อค้าหลาย ๆ คน

ทว่า สำหรับประเสริฐ จิตตโรภาสคนนี้ โอกาสและความมานะบากบั่นโดยแท้ที่ทำให้เขาเป็น "เจ้าพ่อรถบรรทุกน้ำมัน" อยู่ในทุกวันนี้ ครอบครองกิจการรถบรรทุกนานาประเภทไม่ว่าจะเป็นรถขนก๊าซแอลพีจีรถขนเคมี น้ำมันเครื่อง จาระบียางมะตอย น้ำมัน และน้ำมันท่าอากาศยาน รวมแล้วกว่า 250 คัน ทำรายได้ไม่ต่ำกว่าเดือนละ 10 ล้านบาท ปีละกว่า 120 ล้านบาท

เจ้าของกิจการหจก.ไทยประเสริฐทรานสปอร์ตซึ่งเป็นผู้รับเหมาขนส่งสินค้าทุกชนิดของบริษัทเชลล์ (ประเทศไทย) รายนี้เปิดเผยกับ "ผู้จัดการ" ว่า "คุณพารณ อิศรเสนาฯ เป็นคนแนะนำให้ผมแยกตัวออกมาจากพี่น้อง มาทำเป็นผู้รับเหมาเอง ให้ผมวิ่งรถขนน้ำมันของเชลล์จากไทยออยล์ไปโคราชตั้งแต่ปี 2511 และผมก็ได้ดีมาทุกวันนี้จากจุดเริ่มต้นที่คำแนะนำของคุณพารณนี่แหละ"

ในสมัยก่อนมีกิจการกรถบรรทุกน้ำมันอยู่ไม่กี่ราย นครชัยเป็นรายแรก ๆ ได้เป็นผู้รับสัมปทานบรรทุกน้ำมันรายเดียวของเชลล์ แต่เดิมใช้รถกระบะที่เป็นรถบรรทุกศพมาบรรทุกน้ำมันเตา น้ำมันโซล่าส่งให้โรงไฟฟ้า ทั้งนี้ยังไม่มีรถดีเซลในเมืองไทย และอีซูซุก็ยังไม่ได้เข้ามาเปิดเอเยนต์ในเวลานั้นด้วย

นอกจากนครชัยแล้ว ยังมีเซฟตี้อีกรายหนึ่งที่รับขนน้ำมันเซฟตี้เป็นกิจการของกลุ่มพี่น้องเครือญาติของประเสริฐ ซึ่งในภายหลังประเสริฐแยกตัวออกมาดำเนินกิจการเองตามคำแนะนำของพารณ

"ผมมาทำรถกระบะขนน้ำมันเครื่อง จาระบีก่อน แล้วจึงมาทำรถบรรทุกน้ำมันซึ่งมันเป็นจังหวะที่มีการสร้างถนนมิตรภาพด้วย ผมจึงตัดสินใจซื้อรถบรรทุกอีซูซุ 7 คันจากญี่ปุ่นเข้ามาบรรทุกน้ำมัน" ประเสริฐ ย้อนอดีตกับ "ผู้จัดการ"

ไทยประเสริฐฯ เป็นผู้บรรทุกรายใหญ่ที่สุดของเชลล์คือขนน้ำมัน น้ำมันเครื่อง น้ำมันเครื่องบิไอพ่น เคมีจาระบี ยางมะตอย ก๊าซเอลพีจี ขณะที่ผู้บรรทุกรายอื่น ๆ ขนเพียงน้ำมันกับน้ำเครื่องบนไอพ่นเท่านั้น แหล่งบรรทุกใหญ่สุดคือ ช่องนนทรีและคลังน้ำมันเชลล์ที่ศรีราชา บรรทุกไปยังคลังน้ำมันทั่วประเทศของเชลล์

สมัยก่อนเชลล์มีรถบรรทุกของตนเอง แต่เลิกกิจการเพราะมีปัญหาเรื่องแรงงานมากแต่สำหรับประเสริฐซึ่งว่าจ้างคนขับรถไว้ประมาณ 400 คน ทั่วประเทศในเวลานี้กล่าวว่า "ผมไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องคนงานเท่าไหร่ ผมใช้วิธีว่าคนงานทุกคนนี่ผมเป็นคนรับเอง ขอดูหน้าตาสักหน่อย ผมไม่ต้องการการค้ำประกันใด ๆ ทั้งสิ้น หากอยากจะทำงานก็ให้มาทำ ผมไม่กลัว ผมรู้ว่าปกครองคนรถเป็นเรื่องยาก ผมก็ต้องใช้ทั้งพระเดชพระคุณ ผมจะให้เขาดูแลรักษารถไปเลย เป็นเหมือนหม้อข้าวหม้อน้ำของเขา หากอยากจะทุบหม้อข้าวเองก็ช่วยไม่ได้"

คนขับรถของไทยประเสริฐฯ จะได้รับเงินเดือนประจำและมีเบี้ยเลี้ยงจ่ายเป็นเที่ยวอีกต่างหาก นั่นหมายความว่าหากทำจำนวนเที่ยงได้มาก็จะได้เบี้ยเลี้ยงมากตามไปด้วย

ประเสริฐยืนยันว่าคนงานของเขาไม่เคยสร้างอุบัติเหตุสยดสยองเหมือนผู้ประกอบการบางราย รถบรรทุกทุกคันได้รับการออกแบบตรวจสอบอย่างดี รถบรรทุกที่มีราคาแพงและพิเศษที่สุดคือรถก๊าซแอลพีจีปีหนึ่ง ๆ ต้องเอามาเข้าแล็บฯ เอกซเรย์ดูตะเข็บ ดูรอยรั่วซึมร้าว ซึ่งทำการเอกซเรย์เป็นตารางนิ้ว และเมื่อพบรอยร้าวก็ต้องซ่อม "ผมรับรองได้ว่าของเชลล์นี่มีความปลอดภัยสูงมาก"

นอกจากรับบรรทุกให้เชลล์แล้ว ประเสริฐยังทำรถบรรทุกปูนถุง ปูนผง รถโม่ปูนให้นคหลวงคอนกรีตอีกแห่งหนึ่งด้วย โดยเริ่มเมื่อปี 2533

ประเสริฐเล่าว่า "ทางบริษัทนครหลวงฯ เดือดร้อนเนื่องจากมีผู้รับเหมาไม่เพียงพอ ก็มาชวนผมทำ ผมก็อดไม่ได้ ประกอบกับเมื่อปลายปี 2532 เชลล์มีนโยบายควบคุมปริมาณรถบรรทุกน้ำมัน เพิ่มไม่ได้ ผมก็เลยคิดว่าหันมาทางนี้ด้วยร่าจะดี ตอนนี้ ผมมีรถคอนกรีตประมาณ 55 คันแล้ว"

รถบรรทุกทั้งหมดของไทยประเสริฐฯ รับงานหลัก 2 แห่ง คือ เชลล์และนครหลวงคอนกรีต ประเสริฐกล่าวว่า "ผมมีสัญญากับเชลล์ปีต่อปี เชลล์มีสิทธิเลิกได้โดยบอกล่วงหน้า 6 เดือน แต่เราก็ทำกันมานานกว่า 30 ปีแล้ว มันก็ต่อสัญญากันมาโดยอัตโนมัติเมื่อก่อนนี้ไม่มีสัญญาด้วยซ้ำส่วนนครหลวงฯ นั้นมีสัญญา 5 ปี แต่ก็เหมือนกับเชลล์ หากเขาจะให้เราเลิกสัญญาก็ทำได้ ผมก็เอารถไปทำอย่างอื่น ๆ ของผมได้"

ปัจจุบันประเสริฐอายุ 59 ปี แต่ยังไม่มีวีแววว่าจะวางมือลงง่าย ๆ เขามีลูก 6 คน ลูกสาวคนโตไม่ได้ช่วยกิจการในครอบครัว แต่ไปทำงานกับศรีนครการโยธา ลูกชาย 2 คนถัดมาช่วยดูแลกิจการ คนโตดูแลรถคอนกรีต คนรองดูแลรถน้ำมัน อีก 3 คนยังเรียนไม่จบ

ประเสริฐ กล่าวว่า "ผมเป็นคนค้าขายโดยสายเลือดค้าขายเล็ก ๆ น้อย ๆ มาแต่เด็กเมื่อมีช่องทางธุรกิจอะไรผมก็ไป อีกอย่างคือมันอยู่ที่ดวงคือผมนี่มีดวงทางธุรกิจ ทำกิจการพวกนี้แล้วไม่เคยมีปัญหาหนักใจใหญ่โตอะไรเลย เรื่องรถนี่ไม่ใช่ว่าจะทำกันได้ทุกคน แต่ของผมนี่มีดวงสัมพันธ์กัน"

ดวงในความหมายของประเสริฐไม่ใช่การพึ่งพาโหราศาสตร์ แต่เป็นความเชื่อและประสบการณ์ที่สั่งสมมายาวนานเขาสามารถพลิกแพลงพัฒนากิจการให้เจริญก้าวหน้าไปได้เรื่อย ๆ มองเห็นช่องทางโอกาสสร้างธุรกิจใหม่ ๆ อยู่เสมอ ไม่มีปัญหาใหญ่ ๆ เป็นที่ติดขัดกีดขวางความก้าวหน้า

เทคนิคอย่างหนึ่งในกิจการรถบรรทุกคือประสิทธิภาพในกรบริหารงาน ประเสริฐเล่าว่า "เรื่องการแข่งขันกันนี่แทบจะไม่มีเลย ต่างคนต่างทำเพราะในกิจการนี้มีความต้องการสูงมาก หากควบคุมประสิทธิภาพ คุมคนรถ สมรรถภาพรถให้ดีก็เพียงพอแล้ว"

นอกจากกิจการรถน้ำมันและรถคอนกรีตแล้ว ประเสริฐยังมีกิจการพลาสติกชื่อร้านไทยประเสริฐ ขายเครื่องใช้พลาสติกสำหรับครัวเรือน โดยมีจุดเริ่มมาจากช่วงปี 2516 ซึ่งมีทหารอเมริกันในไทยมาก ความต้องการการใช้เครื่องถ้วยชามพลาสติกมีมาก และการสั่งซื้อจากมาลาพลาสติกมาขายไม่เพียงพอกับความต้องการ จึงมีการสั่งซื้อเครื่องจักรเข้ามาทำการผลิตเอง

กิจการพลาสติกของร้านไทยประเสริฐเคยทำส่งนอกแต่ปัจจุบันทำขายเล็ก ๆ น้อยในประเทศเท่านั้น

ส่วน หจก.ทีเอสเซอร์วิส ซึ่งเดิมให้บริการซ่อมรถแก่เชลล์ที่ศรีราชา ตอนหลังนำมาทำรถคอนกรีตให้นครหลวงฯ เพื่อที่จะแบ่งเบากิจการจากไทยประเสริฐทรานสปอร์ตซึ่งจะเน้นแต่เรื่องรถน้ำมันเท่านั้น

ความสำเร็จของประเสริฐที่อาจเรียกว่าเป็น "เจ้าพ่อรถน้ำมัน" ตัวจริงนั้นเกิดจากความอุตสาหะและการสบช่องโอกาสเหมาะในเชิงธุรกิจ บวกกับความสามารถในการบริหารที่อยู่ในสายเลือดโดยแท้

ความสำเร็จของเขาในวันนี้ยากที่จะหานักศึกษาวิชาธุรกิจใด ๆ เทียบเคียงได้



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.