แบงก์หันปล่อยกู้รายย่อยปั๊มยอดKTB-LHยันยอด5เดือนยังเข้าเป้า


ผู้จัดการรายวัน(8 มิถุนายน 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

แบงก์พาณิชย์อึดยันเป้าสินเชื่อเดิมแม้จะรับผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอในช่วง 5 เดือนแรกของปี "กรุงไทย" รับสินเชื่อรายใหญ่หด เดินหน้าปั๊มสินเชื่อรายย่อย โชว์ 5 เดือนแรกปล่อยสินเชื่อบ้านได้ 12,000 ล้าน มั่นใจสิ้นปียอดทะลุตามเป้าหมาย 30,000 ล้าน ขณะที่แบงก์แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์เผยยอดสินเชื่อ 5 เดือนโตตามเป้า

นายสหัส ตรีทิพยบุตร รองกรรมการผู้จัดการผู้บริหารสายงานผลิตภัณฑ์และสายงานการตลาด ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าในช่วง 5 เดือนแรกที่ผ่านมาธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยได้ 12,000 ล้านบาท โดยในเดือนพฤษภาคมปล่อยได้ 3,500 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้โดยสิ้นปีคาดว่าจะสามารถปล่อยสินเชื่อได้ 30,000 ล้านบาทหรือคิดเป็นการเติบโตเพิ่มขึ้น 30% และสิ้นเดือนมิถุนายนจะปล่อยได้ 15,000 ล้านบาท ส่วนการปล่อยสินเชื่อธนวัฎตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมายอมรับว่าลูกค้าให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก เนื่องจากตรงกับความต้องการของลูกค้า โดยในช่วงเปิดเทอมที่ผู้ปกครองต่างเข้ามาใช้บริการค่อนข้างมาก

”จากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวลงและสถานการณ์ทางการเมืองผันผวนนับตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาทำให้ผู้ประกอบการรายใหญ่ของไทยชะลอการลงทุนและขยายงานลดลงตาม ซึ่งการปรับตัวลดลงของผู้ประกอบการดังกล่าว ส่งผลให้ยอดการปล่อยสินเชื่อรายใหญ่ของธนาคารปรับตัวลงตามด้วยเช่นกัน แต่ในส่วนของสินเชื่อรายย่อยแม้จะมีปัจจัยลบเข้ามากระทบ แต่การปล่อยสินเชื่อในช่วง 5 เดือนที่ผ่านของธนาคารก็สามารถปล่อยสินเชื่อได้เกินเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้”นายสหัส กล่าว

สำหรับยอดสินเชื่อคงค้างในปัจจุบันอยู่ที่ 119,000 ล้านบาท โดย ณ สิ้นปีคาดว่าจะอยู่ที่ 130,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2549 ที่อยู่ที่ 113,000 ล้านบาท

ล่าสุดธนาคารได้จัดโครงการ “กรุงไทย ต้นกล้าสีขาว” เพื่อปลูกฝังให้นิสิตนักศึกษาในระดับปริญญาตรีทุกสาขา จากสถาบันการศึกษาทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศที่เข้าร่วมโครงการ ให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับแนวคิดการธุรกิจอย่างมีจริยธรรมภายใต้หลักเศรษฐกิจพอเพียง ที่สำคัญจะนำความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ในชีวิตจริงและการประกอบอาชีพ ซึ่งเปรียบเหมือนการปลูกต้นกล้าแห่งจริยธรรมให้เติบโตอย่างยั่งยืนในสังคม

ทั้งนี้ นักศึกษาที่สนใจสามารถส่งใบสมัครเข้าร่วมประกวดได้ทาง http://www.ktb.co.th หรือที่ภาควิชาพาณิชยศาสตร์ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระหว่างวันที่ 10-30 กรกฎาคมนี้

LH เผย5เดือนยอดปล่อยกู้6พันล้าน

นางศศิธร พงศธร กรรมการผู้จัดการธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เพื่อรายย่อย จำกัด กล่าวว่า การปล่อยสินเชื่อในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาถือว่ายังมีอัตราการเติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้โดยมียอดสินเชื่อโตเพิ่มสุทธิกว่า 6,000 ล้านบาท โดย ณ สิ้นเดือนพฤษภาคมธนาคารมียอดสินเชื่อทั้งสิ้น 18,400 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 25,114 ล้านบาท และยอดเงินฝาก 21,630 ล้านบาท โดยในสิ้นปีนี้คาดว่าจะมียอดสินเชื่อที่ 30,000 ล้านบาท สินทรัพย์รวมที่ 35,000 ล้านบาท และยอดเงินฝากที่ 31,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ ในปัจจุบันสินเชื่อของธนาคาร 75% เป็นสินเชื่อเพื่อการเคหะและอีก 25% เป็นสินเชื่อ SME ซึ่งเป้าหมายของธนาคารต้องการจะเพิ่มสินเชื่อเคหะในสิ้นปีนี้ให้อยู่ที่ 80% ของสินเชื่อรวมด้วยวิธีการขยายสินเชื่อนอกโครงการของกลุ่มแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ให้มากขึ้น เห็นได้จากปัจจุบันสินเชื่อนอกโครงการอยู่ที่ 7% ของสินเชื่อเคหะทั้งหมดซึ่งในปีนี้ตั้งเป้าหมายที่จะขยายสัดส่วนมาอยู่ที่ 12% และในปีหน้าตั้งใจที่จะขยายสัดส่วนของสินเชื่อนอกโครงการออกไปอีกที่ 15% และภายใน 3 ปี (2553-2557) ตั้งเป้าว่าจะสามารถขยายสัดส่วนสินเชื่อนอกโครงการไปที่ 30%ขณะที่สินเชื่อในโครงการของแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์จะลดเหลือ 88% ของสินเชื่อเคหะทั้งหมด

นางศศิธร กล่าวอีกว่า สำหรับสัดส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมต่อรายได้รวมทั้งหมดของธนาคารถือว่ายังมีอัตราการเติบโตที่น่าพอใจ โดยมีอัตราการเติบโต 7% ซึ่งสูงกว่าที่ธนาคารตั้งเป้าหมายไว้ที่ 5%หรือประมาณ 44 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม จากภาวะทิศทางของอัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาลง ส่งผลให้ลูกค้าของธนาคารมีการโยกเงินฝากออกไปบ้างเนื่องจากต้องการหาแหล่งรายได้ที่ให้ค่าตอบแทนดีกว่า ซึ่งส่วนหนึ่งได้นำเงินดังกล่าวไปลงทุนในกองทุนรวมและการลงทุนประเภทอื่น แต่คิดเป็นสัดส่วนไม่มากนัก ซึ่งเชื่อว่าจะไม่กระทบกับเป้าหมายเงินฝากทั้งปีของธนาคารที่ 31,000 ล้านบาท เนื่องจากธนาคารใช้กลยุทธ์ขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยในแต่ละปีได้วางแผนที่จะเปิดสาขาใหม่ปีละ 10 แห่งเพื่อรองรับธุรกรรมเงินฝากและธุรกรรมอื่นๆของลูกค้า และในช่วงที่เหลือของปีธนาคารยังมีแผนที่จะเปิดสาขาต่ออีก 4 แห่ง

"ช่วงดอกเบี้ยขาลงยอมรับว่าลูกค้าโยกเงินฝากออกไปบ้าง ทั้งนี้ทั้งนั้นธนาคารมีตัวแทนคอยติดตามดูลูกค้าอย่างใกล้ชิดพร้อมแนะนำให้นำเงินที่ฝากที่โยกออกไปนำไปลงทุนในผลิตภัณฑ์อื่นแทนที่ธนาคารมีอยู่” นางศศิธร กล่าว


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.