|
กระเทาะยุทธศาสตร์”เพอร์เฟค”มองข้ามไปข้างหน้า1-2 ปี
ผู้จัดการรายสัปดาห์(4 มิถุนายน 2550)
กลับสู่หน้าหลัก
กระเทาะแนวคิด”พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค” คิดแตกต่าง มองไปข้างหน้าอย่างน้อย 1-2 ปี เพื่อลงทุนโครงการก่อนคู่แข่ง หวังดักกำลังซื้อที่มีจำกัด พร้อมนำนวัตกรรมใหม่ในการสร้างบ้านจากอเมริกา และญี่ปุ่น ลดภาระเรื่องสต็อกบ้านได้จาก 4 เดือน เหลือ 2 เดือน
การทำตลาดของบมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ในช่วงที่ผ่านมานั้น ส่วนใหญ่จะแตกต่างจากคู่แข่งอย่างสิ้นเชิง ซึ่งการทำตลาดจะคิดเร็วกว่าคู่แข่งเสมอ เพราะต้องการกอบโกยยอดขายก่อนที่คู่แข่งจะแห่ไปลงทุน ภายใต้แนวคิดว่า”ลงทุนก่อน มีสิทธิ์ได้ลูกค้าก่อน”
“แผนการลงทุนของเพอร์เฟคจะมองไปข้างหน้าอย่างน้อย 1-2 ปี ซึ่งก่อนลงทุนจะศึกษาถึงสภาพตลาด ความต้องการของลูกค้า และภาวะเศรษฐกิจควบคู่กัน เพื่อให้การลงทุนลื่นไหล ไม่ติดปัญหาทุกด้าน ทั้งด้านการตลาด รูปแบบสินค้า และกำลังซื้อ ที่สำคัญการลงทุนจะไปในทำเลที่มีศักยภาพและคู่แข่งยังไม่ได้แห่ไปลงทุน เพื่อดักกำลังซื้อที่มีอยู่อย่างจำกัด” ดร.ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) (PF) กล่าว
การไปลงทุนก่อนคู่แข่งมีข้อได้เปรียบในแง่ที่สามารถสร้างยอดขายได้ก่อนคู่แข่ง ไม่ต้องกังวลเรื่องภาวะการแข่งขัน และเมื่อคู่แข่งตามมาลงทุนโครงการในทำเลเดียวกัน เพอร์เฟคก็จะเปลี่ยนไปลงทุนโครงการในทำเลใหม่ ๆ ตามความต้องการของลูกค้า
สำหรับแผนการลงทุนปีนี้บริษัทฯเน้นลงทุนโครงการประเภททาวน์เฮาส์ และคอนโดมิเนียมเป็นหลัก ซึ่งเป็นแผนที่วางไว้ตั้งแต่ปีก่อน เพราะมองว่า ปีนี้เป็นปีทองของทาวน์เฮาส์และคอนโดมิเนียม อย่างไรก็ตาม บริษัทฯก็ยังมีสินค้าประเภทบ้านเดี่ยวขาย เนื่องจากความต้องการบ้านเดี่ยวยังมีอีกมาก เพียงแต่ผู้ประกอบการจะต้องเลือกพัฒนารูปแบบสินค้า และราคาให้สอดคล้องกับความต้องการซื้อ โดยบ้านเดี่ยวราคาเฉลี่ย 3 ล้านบาท ยังมีความต้องการอีกมาก ขณะที่บ้านเดี่ยวราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาท ยังมีโอกาสบ้าง เพราะในช่วงปีก่อนต่อเนื่องปัจจุบันแทบจะไม่มีการลงทุนโครงการระดับดังกล่าวออกสู่ตลาดเลย
“ปีหน้าตลาดบ้านเดี่ยวจะมาแรง ดังนั้น ในช่วงปลายปีนี้เพอร์เฟคจะเปิดโครงการใหม่เป็นบ้านเดี่ยว ระดับ 3 ล้านบาทขึ้นไป เพื่อรองรับการขายในปีหน้า” ดร.ธีระชน กล่าว
ขณะที่ชายนิด โง้วศิริมณี กรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า ปลายปีนี้บริษัทฯจะเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียม 2 แห่ง ตั้งอยู่ที่ถนนสุขุมวิท ช่วงปลายสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส และบริเวณถนนรัชดาภิเษก พื้นที่โครงการละ 10 ไร่ มูลค่ารวม 6,000 ล้านบาท ใช้งบซื้อที่ดินรวม 500 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทฯยังได้นำนวัตกรรมใหม่มาใช่ในการออกแบบและระบบก่อสร้าง ซึ่งได้นำโนฮาวจากบริษัทชั้นนำของต่างประเทศ ทั้ง KB Home บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐอมริกา และ SEKISUI ในประเทศญี่ปุ่น ในเรื่อง Customization คือ การให้ลูกค้ามีส่วนร่วมในการเลือกรายละเอียดต่างๆของบ้าน ซึ่งระบบนี้เป็นที่นิยมใช้ในต่างประเทศกว่า 10 ปีแล้ว
ระบบดังกล่าวจะช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อบ้านได้เร็วขึ้น เพราะลูกค้าจะได้บ้านตามที่ต้องการ ทั้งรูปแบบ ขนาด พื้นที่ใช้สอย ตลอดจนสามารถเลือกสีได้ตามต้องการ ซึ่งเพอร์เฟคจะนำโปรแกรม Perfect Customization มาใช้ใน 9 โครงการ เช่น เพอร์เฟค เพลส รามคำแหง – สุวรรณภูมิ ,เพอร์เฟค พาร์ค รามคำแหง- สุวรรณภูมิ ,เพอร์เฟค เพลส สุขุมวิท 77- สุวรรณภูมิ และเพอร์เฟค เพลส รัตนาธิเบศร์-ราชพฤกษ์ ราคาเริ่มต้น 3 ล้านบาท ส่วนเพอร์เฟคมาสเตอร์ พีซยังไม่ได้นำมาใช้ เพราะเป็นบ้านราคาแพง ไม่เหมาะที่จะนำโปรแกรมดังกล่าวมาใช้
ชายนิด กล่าวว่า ข้อดีของการนำโปรแกรมดังกล่าวมาใช้ นอกจากจะช่วยกระตุ้นลูกค้าให้ซื้อเร็วขึ้นแล้ว ยังช่วยให้บริษัทฯไม่ต้องแบกรับภาระเรื่องสต็อกบ้านด้วย ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทฯต้องมีสต็อกบ้านอย่างน้อย 3-4 เดือน เพื่อขาย แต่ถ้าใช้โปรแกรมใหม่จะลดสต็อกบ้านเหลือเพียง 2 เดือน เพราะจะมีทั้งลูกค้าที่ต้องการบ้านพร้อมโอน และบ้านสั่งสร้าง ซึ่งใช้เวลาสร้างนาน 8 เดือน
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|