อดีตบิ๊กอีจีวีปั้น“ดับเบิ้ลยู พร็อพเพอร์ตี้”เดินเกมดัน“พูลวรลักษณ์”ผงาดอสังหาฯ


ผู้จัดการรายสัปดาห์(4 มิถุนายน 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

อดีตมือหนึ่งแห่งโรงหนังอีจีวี “วิชัย พูลวรลักษณ์” ประกาศรุกอสังหาฯ เปิด “เลอรัก คอนโดมิเนียม” บิ๊กโปรเจกต์ที่พักอาศัย โรงแรม และค้าปลีกย่านพระโขนง พร้อมจับมือพันธมิตรเฉพาะด้านดึงที่ดินแปลงงาม 5,000 ไร่ทั่วประเทศพัฒนาอสังหาฯ ทุกรูปแบบ เป็นตัวแปรดันเครือข่ายธุรกิจ “พูลวรลักษณ์” ยกตระกูลขึ้นแท่นพัฒนาอสังหาฯ ครบวงจร

นับจากวันที่อีจีวีและเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ตัดสินใจควบรวมกิจการเมื่อหลายปีที่ผ่านมา ทำให้ “วิชัย พูลวรลักษณ์” อดีตแม่ทัพใหญ่แห่งอีจีวี เหลือเพียงบทบาทการเป็นกรรมการในบอร์ดของเมเจอร์ฯ เท่านั้น และยกให้ “วิชา พูลวรลักษณ์” แห่งเมเจอร์ฯ เดิม ในฐานะลูกพี่ลูกน้อง เป็นผู้บริหารภาพรวมของเมเจอร์ฯ ทั้งหมด ซึ่งขณะนี้กุมมาร์เก็ตแชร์กว่า 80% กลายเป็นอันดับ 1 ของตลาดโรงภาพยนตร์ไปโดยปริยาย

สิ่งที่เหลืออยู่ของวิชัย คือ ที่ดินจำนวนมากที่เป็นและเคยเป็นโรงภาพยนตร์สแตนด์อะโลนเก่าในย่านชุมชน อันเป็นธุรกิจในช่วงเริ่มต้นของตระกูล และประสบการณ์ด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่วิชัยย้ำว่าเป็นสิ่งที่ติดตัวเขามาตลอด เพราะเบื้องหลังของการทำโรงภาพยนตร์ คือ การพัฒนาที่ดิน แต่เป็นการพัฒนาในรูปแบบของแหล่งบันเทิง นั่นคือ การผสมผสานระหว่างโรงภาพยนตร์ ลานโบว์ลิ่ง คาราโอเกะ และพื้นที่ค้าปลีกไว้ในที่เดียวกัน ในทำเลย่านชุมชน

เมื่อความเป็นโรงภาพยนตร์เก่าเริ่มล้าสมัย ผลตอบแทนไม่เหมาะกับศักยภาพของทำเล วิชัยจึงตัดสินใจเปลี่ยนบริษัท เจ้าพระยา เธียเตอร์ จำกัด ที่ตนเองนั่งแท่นประธานกรรมการบริหาร เป็น บริษัท วรลักษณ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด และดึงฮาริสันที่มีความเชี่ยวชาญในโครงการคอนโดมิเนียมระดับกลาง-บน เป็นที่ปรึกษาด้านการลงทุนและการตลาด ร่วมกันพลิกที่ดิน10 ไร่ ย่านพระโขนง ที่ประกอบด้วยโรงภาพยนตร์เก่า 2 โรง อพาร์ตเมนต์และอาคารพาณิชย์ พัฒนาเป็นที่พักอาศัย โรงแรม และค้าปลีกครบวงจร มูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท โดยเปิดตัวเฟสแรกด้วย “เลอรัก คอนโดมิเนียม” สูง 27 ชั้น จำนวน 286 ยูนิต ราคา 2.8- 8 ล้านบาท จับกลุ่มเป้าหมายในระดับ B ขึ้นไป ชูจุดขายทำเลใจกลางเมืองบน ถ.สุขุมวิท ติดแนวรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีพระโขนง ส่วนเฟส 2 เป็นคอนโดมิเนียมสูง 45 ชั้น ซึ่งคอนเซ็ปต์โครงการยังไม่เปิดเผย แต่วิชัยย้ำว่าจะเป็นการสร้างนวัตกรรมใหม่ให้กับวงการ ทั้ง 2 เฟสใช้งบลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ฮาริสันได้ช่วยปรับรูปแบบของเฟสแรกให้สอดคล้องกับภาวะตลาดและดีมานด์ในย่านนั้น เนื่องจากอยู่ในย่านสุขุมวิท ซึ่งเป็นทำเลที่มีการแข่งขันสูง จึงปรับลดพื้นที่ใช้สอยห้องเพนท์เฮาส์จากเดิม 150-200 ตร.ม. เหลือ 80-100 ตร.ม. และเพิ่มสัดส่วนห้องชุดขนาด 1 ห้องนอนเข้าไปแทน เพื่อให้สอดคล้องกับดีมานด์ของตลาดย่านพระโขนงที่ไม่ได้ต้องการห้องชุดขนาดใหญ่เหมือนกับโครงการอื่นๆ ในย่านสุขุมวิทตอนต้น นอกจากนี้ฮาริสัน ยังมีแผนที่จะนำโครงการออกไปโรดโชว์ที่ต่างประเทศ เพื่อดึงลูกค้าต่างชาติ ปัจจุบันมีสัดส่วนลูกค้าต่างชาติ 15% จากยอดขายของโครงการปัจจุบันมูลค่า 500 ล้านบาท หรือคิดเป็น 60% ของพื้นที่ขายทั้งหมด

นอกจากนี้ยังวางแผนพัฒนาพื้นที่รวม 4,000 ตร.ม. ให้เป็นโซนพลาซ่า หรือพื้นที่ค้าปลีกแนวราบในทุกอาคารให้ที่ดิน 10 ไร่นี้มีความครบวงจรยิ่งขึ้น โดยวิชัยเล็งให้มือดีด้านบริหารพื้นที่ค้าปลีกอย่างสยามฟิวเจอร์ ซึ่งเป็นบริษัทที่เมเจอร์ฯ ถือหุ้นใหญ่เข้ามาดูแล รวมทั้งอีกหนึ่งอาคารที่มีแผนจะพัฒนาเป็นโรงแรมหรือเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ เจาะกลุ่มชาวต่างชาติ ที่ไม่ไกลจากสนามบินสุวรรณภูมิ แต่ต้องการความสะดวกในการเข้าสู่ใจกลางเมือง ขณะนี้อยู่ในระหว่างการคัดเลือกที่ปรึกษาด้านการบริหาร

สิ่งที่น่าจับตาในการกลับมารุกอสังหาริมทรัพย์อีกครั้งของวิชัย คือ ธุรกิจที่เขาจับในครั้งนี้บางส่วน เช่น ที่พักอาศัย โรงแรม เป็นธุรกิจแตกต่างจากธุรกิจเดิมอย่างสิ้นเชิง ซึ่งวิชัยก็อาศัยการดึงมืออาชีพ เพื่อเรียนลัด จนก้าวไปสู่เป้าหมายที่วิชัยตั้งไว้ คือ การเป็นผู้นำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร ในเซกเมนต์กลุ่ม B ขึ้นไป ด้วยก้าวแรก คือ วรลักษณ์ พร็อพเพอร์ตี้ หรือภายใต้แบรนด์ “W Property” ในโพสิชันนิง “Best in The Class”

ทั้งนี้ต้นทุนอย่างหนึ่งที่ได้เปรียบ คือ ที่ดินกว่า 5,000 ไร่ทั่วประเทศ อันเป็นมรดกจากเจริญ พูลวรลักษณ์ บิดาของวิชัย ซึ่งเป็นอดีตนักค้าที่ดินตัวยง โดยอยู่กระจายอยู่ในกรุงเทพฯ กว่า 1,000 ไร่ ซึ่งบางส่วนเป็นโรงภาพยนตร์เก่า มีศักยภาพในการพัฒนาสูง เพราะอยู่บนทำเลงามใจกลางชุมชน ซึ่งวิชัย กล่าวว่า รูปแบบการพัฒนาจะไม่ยึดติดกับโครงการเก่าๆ ที่เคยทำ แต่จะคำนึงความเหมาะสมของทำเลเป็นหลัก และจะหาพันธมิตรที่มีเชี่ยวชาญในแต่ละด้านมาร่วมพัฒนาในแต่ละโครงการ

ก้าวเดินครั้งนี้ของวิชัยจะไม่ใช่แค่การพลิกโฉมโรงภาพยนตร์เหมือนแต่ก่อน แต่หมายถึงการเติมเต็มให้ตระกูลพูลวรลักษณ์ผงาดในวงการอสังหาริมทรัพย์แบบยกทีม นั่นคือ ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ของวิชา แห่งเมเจอร์ ซีนีเพลกซ์, คอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ ของสุริยน แห่งเมเจอร์ ดีเวลลอปเมนท์ และอสังหาริมทรัพย์รูปแบบอื่นๆ ของวิชัย แห่งวรลักษณ์ พร็อพเพอร์ตี้


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.